โฬมพัชฏะเขาหาว่าผมเป็นแมงดา

คว้าตำแหน่ง เอ็ม ไทยแลนด์ 2005

เวทีค้นหาสุดยอดนายแบบไทยแต่ชีวิตของ "โฬม" พัชฏะ นามปาน กลับโด่งดังทางด้านงานละครจนกลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ที่สามารถดันตัวเองขึ้นมารั้งตำแหน่งพระเอกอันดับต้นๆ ของ วิกพระราม 4 ในขณะนี้
 

แหม...ฮอตร้อนแรงขนาดนี้

แถมยังมีละครเรื่อง "กรุงเทพฯ ราตรี" ที่กำลังเรียกคะแนนนิยมจากผู้ชม มีหรือที่ บันเทิง "คม ชัด ลึก" จะพลาดนำเรื่องราวเด็ดๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตั๊ว...ส่วนตัว พร้อมกับข่าวค (ร) าวที่เกิดขึ้นของพระเอกหนุ่มเนื้อหอมคนนี้มาฝากกัน ลองมาเริ่มค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเขากันดีกว่า

เรื่องงาน

กระแสตอบรับจากละครเรื่อง"กรุงเทพฯ ราตรี" เป็นอย่างไรบ้าง

จริงๆเพิ่งมีรุ่นลูกออกอากาศได้ 2 อาทิตย์เอง แต่เวลาไปไหนมาไหนก็จะมีคนเรียก ชรัณ ผมก็ดีใจนะ ที่คนดูผลงานเรา จริงๆ เรื่องนี้มันยากตรงที่ต้องเล่นกับนักแสดงรุ่นใหญ่ ก็รู้สึกประหม่า อย่างเข้าฉากกับพี่นก (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) พี่เปิ้ล (จารุณี สุขสวัสดิ์) ช่วงแรกๆ จะรู้สึกเกร็งๆ เพราะผมก็ชื่นชอบพี่ๆ เขาอยู่แล้ว แต่ช่วงหลังๆ ก็เริ่มดีขึ้น



ตอนนี้เป็นหนุ่มฮอตมีงานเยอะ

ตอนนี้ผมถ่ายละคร2 เรื่อง คือ "ยุทธการหักคานทอง" กับ "ดั่งดวงตะวัน" ของค่ายบรอดคาซท์ทั้งคู่ ตอนนี้ผมก็เลยมีคิวถ่ายละคร 7 วันเลย แต่ไม่มีปัญหาเรื่องคิวชนกันนะ

ถามว่ามีปัญหาเรื่องสับสนกับบทบ้างหรือเปล่า
 

จริงๆ มันก็มีงงบ้างเหมือนกัน แต่ก็มีผู้ช่วยผู้กำกับติวให้ อย่างบทในละครเรื่อง "ยุทธการหักคานทอง" ผมเล่นเป็นนักธุรกิจ เป็นบทพ่อแง่แม่งอน ส่วนเรื่อง "ดั่งดวงตะวัน" เป็นละครเทิดพระเกียรติ ผมเล่นเป็นตำรวจ เรื่องนี้จะมีนักแสดงรุ่นใหญ่เล่นเยอะ อย่าง พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) พี่นีโน่ (เมทนี บุรณศิริ) ก็ดีใจนะ ที่ได้เล่นกับพี่ๆ ที่มีความสามารถ


เริ่มชินหรือยังกับการเล่นละครหลายๆเรื่องพร้อมกัน

ก็เริ่มชินแล้วนะเพราะตั้งแต่เข้าวงการมามีละครต่อกันเลย เหมือนเราเริ่มจากละครยากมาตั้งแต่แรกด้วยมั้ง เพราะผมเล่น "สร้อยแสงจันทร์" เป็นเรื่องแรก ก็เหมือนกับผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่แรกเลย

คิดว่าฝีมือการแสดงไปถึงขั้นไหนแล้ว

ผมว่าตัวเองยังต้องพัฒนาเรื่องการแสดงไปเรื่อยๆพยายามปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น แต่ ณ ตอนนี้โดยรวมผมว่ามันก็โอเค ยอมรับว่าตอนแรกที่แสดงเรื่อง "กลิ่นแก้วกลางใจ" เราก็ไม่มั่นใจในการแสดงเท่าไรหรอก คิดตลอดว่าจะถูกใจคนดูมั้ย ออกอากาศตอนแรกๆ คนก็ไม่ค่อยพูดถึงเท่าไร แต่ด้วยเนื้อเรื่องมันดีด้วย ทำให้ภาพรวมออกมาดี มันก็เลยทำให้มีกำลังใจที่จะทำงานต่อไป

คิดว่าตัวเองต้องพัฒนาการแสดงในด้านไหน

จริงๆการแสดงเราคงจะประเมินไม่ได้ ให้คนดูเขาประเมินดีกว่า ถ้าผมประเมินเองคงจะแย่ (หัวเราะ) อย่างที่บอกว่าผมก็มีอะไรที่ต้องพัฒนา ผมเป็นคนพูดเร็วมาก พูดจาไม่ฉะฉาน ซึ่งก็ต้องมีปรับบ้าง แต่บางครั้งก็หลงลืม ผมเป็นคนสมาธิสั้น ยิ่งถ้าถ่ายฉากเลิฟซีนก็จะเขินๆ


มาวันนี้คิดว่าตัวเองดังหรือยัง
 

สำหรับผมปกตินะแต่มีคนรู้จัก และให้ความสนใจมากขึ้น เรื่องชื่อเสียงคิดว่าเหมือนเดิม ไม่มีอะไรมากมาย ปกติผมไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้ว


ด้วยความที่มีชื่อเสียงทำให้วางตัวลำบากมากขึ้นด้วยหรือเปล่า
 

ก็มีส่วนมันก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวบ้าง แต่ผมไม่มีอะไรมาก คือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว ผมก็จะอยู่บ้าน คือคงจะไม่ไปไหน ก็ต้องเข้าใจว่าเราก็เหมือนเป็นคนของประชาชน
 

อึดอัดไหมที่ถูกจับตามองในทุกๆเรื่อง
 

เมื่อก่อนเกร็งแต่เดี๋ยวนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้ว เวลาไปไหนมาไหนเราก็ต้องยิ้มเข้าไว้



 แสดงว่าเคยมีคนทักว่าหยิ่ง

บางคนเขาก็เขียนว่าผมหยิ่งถามว่าโดนทักแบบนี้ ต้องปรับตัวเองมั้ย ผมก็ปรับ แต่ปรับไม่มาก คนที่บอกว่าผมหยิ่ง อาจจะเป็นเพราะเข้าใจผิด ด้วยวาระโอกาส และจังหวะ อย่างบางคนมาสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อยไปแล้ว แต่ก็มีอีกคนมาสัมภาษณ์ต่อ ซึ่งผมต้องรีบไปงานที่อื่น โดยที่เข้าไม่รู้ ก็เลยเขียนไปว่าผมหยิ่ง เข้าถึงตัวยาก จริงๆ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นเลย

ตอนนี้กลายเป็นลูกรักคนใหม่ของช่อง3

ตอนนี้ผมเจอแต่คำถามนี้ตลอดเลย(หัวเราะ) ผมว่ามันก็ปกติ ไม่คิดว่าตัวเองเป็นลูกรักอะไร เป็นจังหวะ เล่นละครแล้วกระแสตอบรับดี ก็เลยมีละครต่อเท่านั้นเอง ผมก็พยายามทำงานที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้ออกมาดี ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นลูกรักของใคร

แต่ดูเหมือนว่าจะมีละครมากกว่าเพื่อนๆในกลุ่มพาวเวอร์ทรี

ทุกคนก็มีงานตลอดนะผมว่ามันเป็นจังหวะมากกว่า ช่วงต่อไป มันอาจจะไม่มีก็ได้ หรือพอไม่มีงานก็อาจจะโดนเขียนว่าผมโดนเขี่ยทิ้งก็ได้ (หัวเราะ)


แสดงว่าไม่ซีเรียสกับข่าวสักเท่าไร

ผมไม่ซีเรียสกับข่าวเลยข่าวก็คือองค์ประกอบหนึ่งในการทำงาน ผมทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดดีกว่า  ผมว่ามีข่าวเป็นเรื่องปกติ ถึงจะทำตัวดียังไงมันก็มีข่าว ปล่อยให้มันผ่านไปคนก็ลืม เดี๋ยวก็มีข่าวใหม่มา ผมชินแล้วกับเรื่องข่าว อย่างข่าวเกย์ก็โดนตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ ตอนนั้นผมตัวดำปี๋ ก็เลยโดนล้อว่าเป็นเกย์ อาจจะเป็นเพราะติดแม่ด้วยมั้ง ก็เลยโดนข่าวนี้

เรื่องข่าวค(ร) าว

พอเจอข่าวเป็นเกย์เวลาไปไหนมาไหนโดนถามตรงๆ บ้างหรือเปล่า

ไม่มีใครกล้าถามเลยผมว่าถ้าเขาถาม เขาจะกล้าไปมั้ย (หัวเราะ) แต่ถ้าเขาถามผมก็คงจะบอก ว่าผมไม่ได้เป็นเกย์ และเชื่อว่าผู้ชายประเภทนั้น เขาก็คงไม่กล้าเข้ามาจีบผมหรอก ส่วนใหญ่ที่จะล้อเล่นกัน ก็เป็นพวกช่างแต่งหน้า ทำผมมากกว่า ณ ตอนนี้ผมก็ยังยืนยันว่าผมชอบผู้หญิงอยู่นะ

มีข่าวออกมาว่าโฬมมีผู้บริหารบีอีซี เลี้ยงด้วย

โอ๊ย...ถ้าเขาเลี้ยงป่านนี้ผมคงไปเป็นผู้บริหารแล้วมั้ง หรือไม่ก็คงไปเปิดธุรกิจของตัวเองแล้วล่ะ

ในอินเทอร์เน็ตเขียนรุนแรงว่าโฬมเป็น"แมงดา" เกาะผู้หญิงกิน

เหรอ...ผมว่าแมงดาอร่อยนะกินแล้วจะติดใจ (หัวเราะ) คือในอินเทอร์เน็ตเชื่อไม่ได้หรอก ใครจะเขียนอะไรก็ได้ ยอมรับว่ามันแรง แต่ผมไม่ซีเรียส  เพราะผมว่าคนอื่นเขาก็เจอข่าวแรงๆ โดนเยอะกว่าผมนะ


มีข่าวกับ"ไก่" วรายุธ ด้วย
 

แหม...พี่ไก่เขาก็มีข่าวกับทุกคนอยู่ที่นักข่าวจะเขียนหรือเปล่า จริงๆ พี่ไก่เขาดูแลทุกคนในกอง ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่พอดีนักข่าวมาเห็นตอนที่พี่ไก่ดูแลผมพอดี ก็เลยเอาไปเขียน
 

ดูเหมือนว่าหลังจากได้ตำแหน่ง"เอ็ม ไทยแลนด์" บีอีซี เทโร ไม่ค่อยป้อนงานให้สักเท่าไร

ที่ผมได้ตำแหน่ง"เอ็ม ไทยแลนด์" โดยส่วนตัวไม่เคยคิด ว่าจะเข้าวงการบันเทิงเลยด้วย ผมโชคดี และฟลุคมากกว่า เราอยากจะเป็นนักกอล์ฟ แต่เป็นดวงมากกว่าที่ได้มาเล่นละครเรื่อง "สร้อยแสงจันทร์" จะบอกว่าช่วง 1 ปี ผมไม่มีงานเลยมันก็คงไม่ใช่ อาจเป็นเพราะละครเรื่อง "สร้อยแสงจันทร์" ถ่ายนาน ก็เลยเหมือนว่าพอได้ตำแหน่งผมหายไป

ล่าสุดมีข่าวว่ามีปัญหากับบีอีซี เทโร เพราะบริษัทจะขอดูแลเรื่องงานหลังจากที่โฬมโด่งดัง

จริงๆตอนนี้ผมสังกัด บีอีซี และกับช่อง 3 คือสัญญากับบีอีซี ผมเซ็นปีต่อปี ตอนนี้ก็เซ็นรอบที่สองแล้ว ส่วนกับช่อง 3 ก็เซ็นมาปีกว่าแล้ว มีระยะเวลา 3 ปี คือผมไม่ได้มีปัญหากับบีอีซี เขาก็ยังคงดูแลงานให้ผมอยู่

อนาคตในวงการบันเทิง

วางอนาคตงานในวงการบันเทิงอย่างไรบ้าง

อยากอยู่วงการนี้ให้นานที่สุดผมก็ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดตรงไหน อนาคตอยากมีธุรกิจของตัวเองที่ทำกับครอบครัว คือถ้ายังมีใครสนใจผม ผมก็จะทำงานในวงการบันเทิงต่อไป หรือไม่ผมอาจจะไปเป็นครูสอนตีกอล์ฟก็ได้ เพราะทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ทิ้งกีฬากอล์ฟนะ  ผมเป็นนักกอล์ฟมาตั้งแต่เด็ก เล่นกอล์ฟมา 11 ปี ถ้าไม่ได้เข้ามาในวงการนี้ ผมอาจเป็นนักกอล์ฟไปแล้วก็ได้

เหมือนทำงานเหนื่อยมาตลอดมีรางวัลอะไรให้แก่ตัวเองบ้างหรือยัง

ผมก็ซื้อรถแล้วส่วนบ้านก็คงเร็วๆ นี้ ถ้ามีกำลังทรัพย์ก็จะซื้อไปเรื่อยๆ ทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ

มีวิธีการรักษามาตรฐานของตัวเองอย่างไรเพื่อการดำรงอยู่ตรงนี้

ไม่มีนะนอกจากตั้งใจทำงาน รับผิดชอบงานที่ทำให้ดีที่สุด รู้จักกาลเทศะ อ่อนน้อมถ่อมตน จริงๆ มันอาจจะมีวิธีที่ทำให้อยู่นานๆ ก็ได้ แต่ผมไม่รู้ คิดว่าด้วยระยะเวลามันก็จะสอนเราเอง

ทำอย่างไรให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนในฐานะที่เป็นคนสาธารณะ

ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เยาวชนได้(หัวเราะ) เพราะเป็นคนไม่คิดอะไรมาก แต่อยากจะบอกว่าให้ทุกคนเป็นเด็กดีของพ่อแม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้ว อย่างผมเองงานที่ยากกว่านี้ งานที่ลำบากผมก็ทำมาแล้ว ผ่านมาแล้ว

แสดงว่าตอนเด็กๆชีวิตเคยลำบากมาก่อน

โดยพื้นฐานครอบครัวผมไม่ลำบากหรอกแต่ผมลำบากเอง อยากลอง อยากทำอะไรที่สนุกๆ ดูบ้าง ผมเคยทำงานหนักเรียกว่าเป็นกรรมกรเลยก็ว่าได้นะ ผมเป็นคนขอนแก่น เมื่อก่อนพ่อทำฝ่ายสโตร์คลังสินค้า ตอนเด็กๆ ผมก็เลยไปรับจ้างยกกล่องแบตเตอรี่ หนัก 30 กิโล ขึ้นรถหกล้อ ทำได้อยู่ 3 เดือน กว่าจะได้เงินร้อยสองร้อยบาท ได้ทิปเป็นกระทิงแดง มันเหนื่อยมาก แล้วผมก็อยู่สนามกอล์ฟ ตัวดำปี๋ ผมคิดว่าเราอยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องเลิศหรูอะไร

เรื่องความรัก

ตอนนี้มีสาวๆเข้ามาหาบ้างหรือเปล่า

ไม่มีนะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร อย่างคนในวงการผมก็เจอแต่นักแสดงรุ่นพี่เยอะ เลยไม่เจอใคร อาจจะเป็นเพราะไปไหนก็ไปกับแม่ด้วยมั้ง เป็นคนติดแม่ แต่ตอนนี้แม่ติดผมแล้วนะ (หัวเราะ)

แสดงว่าถ้ามีแฟนต้องผ่านแม่ด้วย

ต้องเจอกันอยู่แล้วไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องเจอ แม่ผมก็ไม่ได้วางสเปคแฟนผม ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ลูกรักใครแม่ก็รัก ถามว่าเคยมีแฟนมั้ย แหม...สมัยเรียนก็เป็นเรื่องปกติ โตขนาดนี้แล้ว แต่ผมเป็นคนไม่จีบใคร เรียกว่าจีบสาวไม่เป็น ได้แค่มองแล้วก็ยิ้มให้เขาแค่นั้น แต่ตอนนี้ผมโสด

เอ้า!!! สาวๆ รีบยื่นใบสมัครเข้ามารักหนุ่มหน้ามนคนนี้ด่วน



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์