โม ขอเคลียร์ แม่ไม่คิดแย่งสิทธิ์เลี้ยงดู



กลายเป็นที่ฮือฮาไม่น้อย เมื่อจู่ ๆ ก็มีข่าวว่าแม่ที่แท้จริงของดาราสาวแห่งวิกหมอชิตอย่าง "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" โผล่ออกมาทวงสิทธิ์เลี้ยงดู


โดยก่อนหน้านี้สาวแตงโมถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อมีข่าวว่าไฮโซ "พนิดา ศิริยุทธโยธิน" ซึ่งแม่ที่แท้จริงนั้น โผล่ออกมาขอสิทธิ์เลี้ยงดูดาราสาว ทั้งนี้เจ้าตัวอ้างงงมากที่หนังสือพิมพ์เอาไปลงทั้ง ๆ ที่ข้อมูลบางอย่างรู้มากกว่าที่เจ้าตัวรู้เสียอีก ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องขึ้น สาวแตงโมขอเวลากับสื่อเพื่อไปเคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวก่อนเมื่อพร้อมยืนยันแถลงแน่


ล่าสุดสาวแตงโมพร้อมเคลียร์ชัดกับข่าวที่เกิดขึ้นแล้ว โดยสาวแตงโมกล่าวว่าเรื่องที่แม่ออกมาเรียกร้องสิทธิ์เลี้ยงดูนั้นไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันชีวิตครอบครัวปกติ มีเจอแม่เรื่อย ๆ


"เรื่องคุณแม่ก็ได้คุยกับคุณแม่แล้ว เป็นเหมือนที่โมได้คิดไว้เลยว่าข่าวค่อนข้างบิดเบือนไปจากความจริงเยอะมาก ๆ ก็คุยกับคุณแม่ทานข้าวกันแล้วก็ถามว่าได้เห็นข่าวคุณแม่มั้ย คุณแม่บอกว่า คุณแม่ไม่ได้พูดเหมือนในหนังสือพิมพ์ลง อาจจะมีปรึกษาบ้าง เพราะคุณยิ่งยงกับคุณแม่ก็เป็นเพื่อนกันมาหลาย 10
ปีแล้ว สมัยที่คุณแม่ยังอยู่ในวงการบันเทิง อาจจะเป็นการคุยกันปกติ เป็นการสนทนาส่วนตัวไม่ใช่การ บอกเล่าข่าวเพื่อให้หนังสือพิมพ์เอาไปลงข่าว จุดประสงค์ของคุณยิ่งยงที่ลงไปนั้น โมก็ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร





" แต่โมเข้าใจว่าเพื่อนอาจจะอยากช่วยเพื่อน เพราะคุณแม่ก็บ่นคิดถึงลูก ไม่รู้ลูกเหนื่อยหรือเปล่า อาจจะอยากมาดูแลลูกบ้าง

เห็นช่วงนี้ลูกงานเยอะก็เลยอยากจะมาช่วยดูแล แล้วก็อาจจะได้ข่าวว่าโมสุขภาพไม่ค่อยดีเลยอยากจะมาช่วยแบ่งเบาภาระของโมบ้าง อันนี้เป็นการระหว่างคุณแม่กับคุณยิ่งยง ใจความสำคัญมีอยู่เท่านี้จริง ๆ ค่ะ

คุณแม่บอกว่าอ่านแล้วก็งงมาก ๆ เหมือนกัน ตั้งตัวไม่ติดเหมือนกันว่า เพราะอะไรหนังสือถึงลงไปในทำนองว่า อยากจะได้ลูกคืน มีการแย่งชิงกันระหว่างพ่อแม่ ซึ่งแม่เองก็ยังพูดติดตลกอยู่เลยว่า ตายแล้ว ... ลงไปอย่างนี้ ลองถามลูกดูสิว่าลูกอยากอยู่กับฉันหรือเปล่า"


"ซึ่งหนังสือลงไปนั้นค่อนข้างจะร้ายแรงกว่าความเป็นจริงมาก อย่างที่โมเคยบอกว่าเรื่องนี้ยังไม่เคยเป็นประเด็นที่บ้านโม ก็เลยต่างคนต่างงง ทุกวันนี้โมกับคุณแม่ก็เป็นไปในลักษณะเดิม ถ้ามีเวลาว่างหรือคุณแม่คุณลูกคิดถึง ต้องการไปช้อปปิ้งแบบผู้หญิงๆ เราก็ไปทานข้าว พูดคุยกัน เหมือนที่ผ่าน ๆ มา เรา 3 คนพ่อ แม่ ลูก ไม่ได้มีความต้องการให้สถานภาพเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ไม่มีการพูดคุย ไม่มีการตกลงกันเรื่องการเลี้ยงดู เพราะโมก็อายุค่อนข้างมากแล้ว แล้วเรื่องทุกอย่างก็ดำเนินมาตั้งแต่โมยังเล็ก ก็ยังไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้

อยากจะให้ทุกคนที่ติดตามข่าวเข้าใจมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตื่นตูมไปเอง ในความเป็นจริงก็ขอใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จริง ๆ คุณแม่ก็อยากจะมาอยู่ใกล้ชิด ยกตัวอย่างเช่น เรื่องโมไม่ค่อยได้ทำงานบ้าน ส่วนมากที่คุณแม่เป็นห่วงจะเป็นเรื่องงานบ้าน เรื่องแม่บ้าน คุณแม่อยากจะเข้ามาช่วยตรงนี้มากกว่า เพราะโมไม่ค่อยมีเวลาได้ทำตรงนี้สักเท่าไหร่"


ทั้งนี้สาวแตงโมยังกล่าวด้วยว่า ในความเป็นจริงนั้นเธอกับคุณแม่นั้นก็ค่อนข้างสนิทสนมกันพอสมควร ซึ่งในเรื่องแบบผู้หญิง ๆ นั้นก็ถือว่าสนิทกัน แต่สำหรับเรื่องส่วนตัวมาก ๆ ก็อาจจะไม่ค่อยสนิทกัน เพราะสาวแตงโมนั้นอยู่กับคุณพ่อตลอด แต่ก็ยังติดต่อกันเรื่อย ๆ อย่างสมัยเด็ก ๆ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์สาวแตงโมก็จะไปอาศัยอยู่กับคุณแม่





สำหรับโอกาสที่จะกลับมาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน สามคน พ่อแม่ลูกนั้น สาวแตงโมกล่าวว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้มานานแล้ว

ซึ่งสาวโมเองก็เข้าใจ ณ จุดนี้เนื่องจากต่างคนต่างก็มีโลกของตัวเอง แตงโมก็มีโลกของแตงโม คุณพ่อก็มีโลกของคุณพ่อ ในขณะที่คุณแม่ก็มีโลกส่วนตัวของคุณแม่ ซึ่งครอบครัวของเธอก็ดำเนินชีวิตแบบนี้มากว่า 20 ปีบางทีหากการกลับมารวมเป็นครอบครัวเดียวกันอาจจะไม่ใช่เรื่องดีก็ได้


สำหรับประเด็นที่ว่า คุณแม่ของสาวแตงโมเป็นอดีตภรรยาท่านฑูตนั้นเจ้าตัวไม่ขอตอบ แต่ให้ไปถามกับตัวคุณแม่ของเธอเอง เพราะไม่ว่าคุณแม่จะมีครอบครัวใหม่ หรือไม่มีครอบครัวใหม่ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณแม่ก็ยังคงเดิม


ส่วนสาเหตุที่เป็นข่าวนั้นสาวแตงโมกล่าวว่า น่าจะเป็นเพราะคุณแม่ก็มักจะบ่นกับเพื่อน ๆ หรือญาติ ๆ อยู่แล้วว่าคิดถึงลูก โดยเฉพาะช่วงที่สาวแตงโมเข้าวงการมา เพราะทำให้เวลาที่จะเจอกันนั้นมีน้อยลง แต่คาดว่าคุณแม่คงไม่คิดว่าเพื่อนจะเอาเรื่องไปนำเสนอเป็นข่าว


สุดท้ายสาวแตงโมยังกล่าวอีกด้วยว่า ข่าวที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าโหดร้ายกับครอบครัวของสาวโมมาก ๆ เพราะมีผลกระทบต่อจิตใจของคนในครอบครัวมาก ๆ

อีกทั้งเรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ในส่วนของคุณพ่อของสาวแตงโมเองก็งงไม่น้อย และพยายามไม่ให้เจ้าตัวออกมาพูดอะไร เพราะไม่อยากให้มีผลกระทบ เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งเจ้าตัวก็บอกคุณพ่อว่าให้เชื่อใจเพราะ เจ้าตัวเองก็พูดในความจริง และไม่ได้มีอะไรร้ายแรง และตอนนี้แฮปปี้กันทุกฝ่ายแล้ว



เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์