โฟร์ สาวขี้งอน แต่ชอบคนเทคแคร์

กลายเป็นประเด็นมาตลอดสำหรับเรื่องความรักของ โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร กับหนุ่มรู้ใจ พิชญ์ กาไชย แห่งวงซีควินท์

ที่มีข่าวว่าระหองระแหง เพราะความขี้งอนของสาวโฟร์ จนมีข่าวรัก ๆ เลิก ๆ ออกมาให้เห็นอยู่ตลอด วันนี้ สาวโฟร์เลยเปิดใจให้ “ดาวต่างมุม” ล้วงลึกถึงเรื่องความรักของเธอแบบละเอียดยิบ แถมยังเผยถึงตัวตนของเธอที่ชอบงานทางด้านการแสดงไม่น้อยไปกว่าการเป็นนักร้องเลย และเปิดใจถึงการได้รับคำวิจารณ์ต่าง ๆ นานา ในการทำงาน 

*โฟร์เป็นคนที่ชอบการแสดงมาก?
   

โฟร์เป็นคนชอบการแสดง แต่การร้องเพลงเหมือนเป็นอาชีพเรา เริ่มแรกเลยโฟร์ไม่ได้ชอบร้องเพลง คิดว่าตัวเองร้องไม่ได้เพราะเสียงแหบ แต่พอได้ทำและอยู่กับมันทุกวันกว่า 6 ปีแล้ว ก็เริ่มรู้สึกว่าเริ่มรักมัน ก็รู้สึกว่ามันไม่ยากกว่าที่คิดนะ และก็โชคดีที่เพลงดัง ก็เลยส่งผลให้ตัวโฟร์-มด คนจำชื่อได้ เลยมีความรู้สึกที่อยากจะร้องเพลง ไปไหนก็มีคนทักโฟร์-มด เราก็ดีใจ แต่พอมีโอกาสได้มาเล่นละคร เรารู้สึกว่าการแสดงมันก็เป็นตัวตนอีกด้านหนึ่งเหมือนกัน เวลาไปกองถ่ายแล้วรู้สึกมีความสุขมาก แล้วเวลาได้เล่นบทที่ชีวิตจริงเป็นไม่ได้ เหมือนได้ปลดปล่อยว่าฉันเต็ม  ที่กับสิ่งที่ฉันทำมาก ทุกวันนี้ก็ยังต้องมีเรียนแอ๊คติ้ง ฝึกการแสดงอยู่เรื่อย ๆ


*งานแสดงเป็นงานที่ถนัดกว่าการร้องเพลงหรือเปล่า?
   
ไม่ใช่ถนัดกว่าหรอก การร้องเพลงโฟร์ถนัดร้องเพลงเร็ว โฟร์จะตอบโจทย์เพลงช้าไม่ค่อยได้ เพราะว่าเสียงต้องเศร้า ต้องกินถึงอารมณ์ ตรงนี้จะทำไม่ค่อยได้ มดจะทำได้ดีในเพลงช้า แต่การแสดงโฟร์พยายามฝึกมากกว่า แต่โฟร์ก็ยังไม่คิดว่าตัวเองทำได้ดีหรืออะไร ก็จะพยายามพัฒนาไปเรื่อย ๆ ถ้าให้คะแนนนะ เต็ม 10 โฟร์ให้แค่ครึ่งเดียว เพราะว่าหลัก ๆ เลยคือเราเป็นนักร้อง เราต้องทุ่มเทกับการร้องเพลงมากกว่าอยู่แล้ว แต่ว่าทุกครั้งที่มีโอกาสแสดง เราก็จะฝึกฝน คนดูทั่วไปอาจจะไม่เชื่อกับภาพที่โฟร์เป็นนักแสดง เขาอาจจะยังติดว่าโฟร์เป็นนักร้อง พอดังหน่อยก็มาเล่นละคร เราก็เลยรู้สึกว่าสักวันเราค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ คนดูก็จะเห็นเองว่าเรามีความสามารถทางด้านนี้เหมือนกัน

*หลังจากนี้จะมีงานอะไรออกมาให้เห็นอีก?
   
เร็ว ๆ นี้ก็จะมีคอนเสิร์ต “กามิกาเซ่ เวฟ 2010” วันที่ 26 มิ.ย. นี้ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เมื่อปีที่แล้วเราก็มีคอนเสิร์ตไปแล้ว ถัดมาปีนี้เราก็ได้กลับมาทำอีกครั้งหนึ่ง คอนเสิร์ตจะมีความแตกต่างจากครั้งก่อน คือ ครั้งที่แล้วจะเหมือนโชว์ใครโชว์มัน แต่ครั้งนี้จะมีพาร์ทหนึ่งที่ดูโอของกามิกาเซ่ทั้งหมด มาร้องเพลงแข่งกัน จะเกิดความรู้สึกว่า โฟร์-มด ขึ้นเวทีเดียวร้องเพลงกับ แคท-แพท เหรอ จะเป็นอะไรที่น้อง ๆ หรือแฟนคลับไม่ค่อยได้เห็น



*ต้องมารวมกลุ่มกับน้อง ๆ เราจะเป็นป้าแก่อยู่คนเดียวหรือเปล่า?
   
เวลาเราเต้นผิดเนี่ย น้อง ๆ จะให้อภัย เพราะทุกคนจะบอกว่าพี่โฟร์แก่แล้วความจำไม่ค่อยดี โฟร์จะรู้สึกว่าเราจะต้องไม่ผิดอีกครั้งแล้วนะ เวลามารวมกลุ่มกับน้อง ๆ ตอนแรกก็รู้สึกนอยด์ ก็คุยกับพี่ที่ค่ายว่า เราอายุเยอะแล้วอ่ะ เราออกจากกามิกาเซ่ไหม แต่เขาจะบอกว่า หน้าเธอยังได้อยู่ แต่เราก็จะบอกว่าเราอายมาก น้องที่อายุน้อยสุดกับเราห่างกัน 10 ปี และแบบว่ามาอยู่กลุ่มเดียวกันมันใช่เหรอ พี่เขาก็บอกว่าอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะทุกวันนี้ โฟร์-มด เด็ก ๆ ก็ชอบอยู่ เราเลยรู้สึกว่าโอเค

*เคยคิดไหมว่าจะอยู่กับความเป็นโฟร์-มดไปได้อีกนานแค่ไหน?
   
คิดค่ะ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โฟร์คุยกับพี่ที่เป็นแคสติ้งบอกว่า เด็กมากันตึมเลย หนูตายแน่เลย เด็กมันขึ้นมาใหม่ ๆ นะ คนก็ต้องเบื่อเราแล้ว เราอยู่มาเป็นโฟร์-มด มา 6 ปีแล้ว ถ้าเกิดต้องมาเทียบกับคนที่เพิ่งขึ้นมาใหม่ล่ะ พี่เขาก็บอกว่า หน้าเธอก็ยังเด็ก ตัวเธอก็ยังเล็ก เธอไม่บอกอายุ เขาก็ไม่รู้หรอก เธอก็กลมกลืนกับเขาไปสิ เราก็ถามว่าจริงเหรอพี่ เขาก็บอกว่า จริง งานเด็กตรงนี้เรายังทำได้อยู่ก็ให้ทำไปก่อน ไม่ต้องรีบร้อนที่จะโต เพราะโอกาสที่จะโตมันมีอีกเยอะ เขาก็บอกว่ารูปร่างเธอก็แค่นี้ เธอจะไปเล่นละครเป็นแม่หรือเป็นนางเอกรุ่นใหญ่เหรอ เธอทำไม่ได้หรอก เธอกินงานตรงนี้ไปก่อนดีกว่า ถ้าเกิดว่าสักวันที่มันถึงจุดอิ่มตัวค่อยคิดว่าเราจะยังอยากร้องเพลงอยู่หรือเปล่า หรือว่าจะไปทางการแสดงเลย

*ทำเพลงขายแต่กลุ่มเด็กรู้สึกยังไงบ้าง?
   
ตอนแรกเราสนุกนะ แต่ตอนนี้คนที่ชอบเราจริง ๆ ตัวแค่นี้ 5-6 ขวบ เลยรู้สึกว่าตายแล้ว เราเป็นไอดอลของเด็ก เราจะพูดยังไงดีให้เด็กรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนเขา มันก็รู้สึกว่ายากมาก แต่พอดีโฟร์เป็นคนชอบเด็ก มันก็ไม่ใช่ปัญหา แต่แค่เขาเห็นเราเป็นตัวอย่าง ปกติหนูก็เป็นคนที่ดูแลตัวเองในระดับหนึ่งนะ แล้วก็แบบเวลาจะไปไหนมาไหนก็เป็นห่วงภาพลักษณ์ตัวเองด้วย เราก็สนใจคนรอบข้าง เวลาเดินปุ๊บ เราก็จะแบบ อุ๊ย น้องมองอยู่ ต้องเดินยังไง พูดคำหยาบไม่ได้ ต้องระวังตัวเอง ไม่อยากให้น้อง ๆ เห็นว่า อุ๊ย โฟร์-มด พูดคำหยาบ เท่อ่ะ เอาไปพูดที่โรงเรียนบ้างดีกว่า



*แล้วงานที่ต้องเซ็กซี่ อย่างชุดที่ใส่ในเพลงเชียร์ฟุตบอลโลก ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างเยอะ? 
   
จริง ๆ โปรเจคท์นี้ก็ทำขึ้นมาแล้วมีแต่สาว ๆ มาถ่ายเอ็มวีกัน เฮียก็บอกว่า ฟุตบอล ก็จะต้องมีผู้หญิงอะไรแบบนี้บ้าง เสื้อผ้าเราก็ใส่เฉพาะในเอ็มวีเฉย ๆ เราไม่ได้ใส่มาเดินข้างนอกจริง ๆ โฟร์คิดว่าผู้ปกครองหรือคนที่โตแล้ว น่าจะรู้และเข้าใจได้ว่าอันนี้คืองานและแผนการโปรโมต เป็นการตลาด ก็อยากบอกว่า มันเป็นแฟชั่น หรือสีสันในช่วงบอลโลกเฉย ๆ แต่ว่าในชีวิตจริงหรือในอัลบั้มเราก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น ความจริงในส่วนของโฟร์-มด เราไม่ได้เน้นเซ็กซี่เท่าไหร่ ไม่ได้โพสท่าเซ็กซี่ โฟร์รู้คำวิจารณ์ทุกอย่าง เพราะชอบเช็กในเน็ต บางทีโดนว่ามาปุ๊บเราก็คิดว่า มันเป็นงานนะ บางทีเราก็เลือกไม่ได้ เพราะว่าทางบริษัทจัดมาให้เราแบบนี้ เราก็รู้สึกว่างั้นทำให้เต็มที่แล้วกัน อย่างของโฟร์จะไม่ค่อยโดนแรงมากเท่าไหร่ ชุดมันเซ็กซี่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้ทำตัวโป๊หรือเซ็กซี่ เขาให้ท่าเต้นมาเราก็พยายามเต้นแบบเด็ก ๆ น่ารัก ๆ

*ความรักเป็นยังไงบ้างมีข่าวเยอะเหลือเกิน?
   
จริง ๆ มันไม่ได้มีอะไรเลย เหมือนว่าเรางอนกันปุ๊บอีกคนเอาไปพูดต่อว่า “ทะเลาะกัน” อีกคนพูดต่อว่า “เลิกกัน” พอหลายปากคำพูดมันก็เลยเพี้ยนไป ความจริงมันคือไม่มีอะไร มันก็แค่เหมือนเพื่อนงอนเพื่อนกันเฉย ๆ ทะเลาะกัน ความจริงโฟร์ก็ขี้งอนนะ หนูเป็นคนขี้หงุดหงิด ขี้โมโห มากกว่า พออะไรไม่ได้ดั่ง  ใจปุ๊บ ต้องพูดแล้ว แล้วพิชญ์เนี่ยเขาพยายามเปลี่ยนนิสัยโฟร์ เขาจะบอกว่า อย่าหงุดหงิด มีอะไรให้คุยเลย แต่เวลาโมโหปุ๊บ โฟร์จะ สะบัดเดินหนีเลย บางทีเรื่องมันนิดเดียว แต่ถ้ามันมีเหตุผลว่าเราผิดจริง เราก็ขอโทษ  เท่านั้นเอง เคยงอนกันมากสุดก็ 4-5 วัน ที่ไม่ได้คุยกันเลย ส่วนใหญ่เวลาที่งอน กันแม่เขาจะโทรฯ  มาถามว่า อยู่ไหนลูกไม่ มากินข้าวเหรอ เรา ก็จะค่ะ เดี๋ยวไปกิน

*มีเรื่องอะไรที่ต้องงอนกันบ่อย ๆ?
   
หนูเป็นคนไม่ยิ้ม หน้าหนูเป็นคนนิ่ง ๆ แล้วเวลาเจอเพื่อนเขา หนูก็จะยืนเฉย ๆ เขาก็จะแบบยิ้มสิ ยิ้มสิ แต่ทำไมเธอไม่แนะนำให้รู้จักก่อน คือเขาไม่แนะนำไง หนูก็เลยรู้สึกว่า ไม่รู้จักอ่ะ ไปยิ้มทำไม เขาก็จะแบบอยากให้โฟร์เปลี่ยนนิสัย เพราะว่าโฟร์ไม่ยิ้มให้ใครก่อน ทุกคนก็จะมองว่าโฟร์หยิ่ง แต่จริง ๆ แล้วมันทำไม่เป็น หนูไม่ได้เป็นคนเฟรนด์ลี่ขนาดนั้น นี่ก็คือสาเหตุที่ทะเลาะกัน บางทีมันเรื่องเล็กมาก ส่วนเรื่องใหญ่ ๆ แบบเธอไปมีกิ๊กอะไรอย่างนี้ ไม่มีเลย



*พอมีข่าวเลิกออกมาบ่อย ๆ มีผลต่อความสัมพันธ์ไหม?
   
ไม่มีเลย เข้าใจว่าทุกคนอาจจะอยากรู้ หรือว่าเป็นห่วง เราก็ขอบคุณ คือถ้าเราจะเลิกกันจริง ๆ ไม่ยุ่ง ไม่เป็นเพื่อนกันแล้ว เราก็จะบอก แต่ว่า ณ จุดนี้มันยังเป็นเหมือนเดิมอยู่

*จุดที่เขาดีและเราประทับใจมาก ๆ คืออะไร?

   
เขาเทคแคร์โฟร์ดีมาก ๆ ตั้งแต่วันแรกเลย รับส่งโฟร์ยังไง ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ เขาไม่ให้โฟร์นั่งมอเตอร์ไซค์ ไม่ให้โฟร์นั่งแท็กซี่ ถ้าเขาไม่ว่างเขาก็จะให้พี่ชายหรือไม่ก็คุณแม่เขามารับมาส่งเราแทน ซึ่งเราก็เกรงใจ แต่เขาก็จะบอกว่าก็ดีกว่านั่งแท็กซี่ ถ้านั่งแท็กซี่แล้วเป็นไรไปจะทำยังไง โฟร์ก็สนิทกับครอบครัวเขามาก มีอะไรก็โทรฯหาพี่ชายเขาได้



*โฟร์อยากให้เขาเปลี่ยนอะไรบ้าง?
   
ความจริงเขาไม่ต้องเปลี่ยนอะไรหรอก แต่เขาเป็นลูกคนเล็ก แล้วก็นิสัยผู้หญิง จุกจิก ค่อนข้างระเบียบ ซึ่งหนูเป็นผู้หญิงแมน ๆ ห้าว ๆ เขาเป็นห่วงภาพลักษณ์เราด้วยว่าอย่าทำแบบนี้ เวลาแต่งตัวไปข้างนอก โฟร์จะชอบใส่รองเท้าแตะ แต่เขาจะแบบไม่ได้ คนอื่นเขาเห็นเราเขาก็อยากเห็นเราดูดี สวยจังเลย หน้าผมพร้อม คือโฟร์จะไม่ชอบแต่งหน้า ชอบใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ เขาจะบอกว่า ลองนึกสภาพถ้าเราชอบดาราคนหนึ่งมาก ๆ แล้วเดินมาแบบนี้ มันใช่เหรอ เรารู้สึกแย่ เขาก็รู้สึกแย่เหมือนกัน ตอนนี้หนูไปไหนต้องหน้าผมเต็ม เป๊ะตลอด คือเขาเป็นห่วงเรา เขาจะดูแลเราหัวจดเท้า ออกจากบ้านต้องดูดี เวลาคนอื่นเห็นจะได้บอกต่อกันได้ว่า ตัวจริงน่ารัก ตัวจริงสวย 

*คบกันมานานเท่าไหร่เรียกว่าใช่หรือยัง? 
   
3 ปี 7 เดือนค่ะ แต่เรื่องใช่หรือไม่ ตอนนี้ไม่รู้ ทางบ้านก็จะบอกว่า ใจเย็น ๆ อย่าเต็มที่ ถ้าเกิดมันผิดหวัง หรือเสียใจมันเหมือนขาหักเลยนะ ทุกวันนี้เราก็ให้เขาเท่าที่ให้ได้ และก็หวังเท่าที่หวังได้ เราไม่ได้แบบว่า เธอต้องแต่งงานกับฉันนะ มันไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น ถ้าเกิดเรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คบกันไปเรื่อย ๆ แล้วเราสบายใจ เราก็ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าคบไปเรื่อย ๆ สัก 5 ปี แล้วรู้สึกว่า เราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ ก็เป็นเพื่อนกันก็ได้ เราไม่เคยคุยกันเรื่องอนาคต เพราะว่าเราก็อายุ 24 เอง ไม่ได้โตขนาดจะคุยเรื่องว่าจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ แต่เขาก็เข้าใจเรามาก ๆ ค่ะ เขาถึงพยายามจะเปลี่ยนโฟร์ทุกอย่าง เขาอยากจะเปลี่ยนให้โฟร์ดีขึ้นในสายตาคนอื่น เราก็รับฟัง
   
อุ๊ย ! แต่ระวังนะจ๊ะ งอนมาก ๆ เดี๋ยวหนุ่มพิชญ์เขาจะเบื่อง้อซะก่อนนะจ๊ะ.   


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์