โฟกัส โตเป็นสาวแล้วนะ

จากเด็กหญิงผมเปียอายุ 10 ขวบ ในภาพยนตร์ “แฟนฉัน” เมื่อหลายปีก่อน มาปีนี้ โฟกัส จีระกุล โตขึ้นเป็นสาวอายุ 15 แล้ว เธอเพิ่งทำบัตรประชาชนไปหมาด ๆ นี่เอง แถมกำลังมีหนัง     “ปิดเทอมใหญ่...หัวใจว้าวุ่น” ออกฉายอยู่ตอนนี้ เมื่อวันวานเธออาจจะดูเป็นเด็ก แต่ตอนนี้โฟกัสช่างพูดช่างเจรจามีมุมมองความคิดต่าง ๆ ที่โตเป็นผู้ใหญ่ วันนี้ “ดาวต่างมุม” จะไปพูดคุยกับเธอแบบหมดเปลือกกัน


จาก “แฟนฉัน” มาจนถึงวันนี้ชีวิตเปลี่ยนไปแค่ไหน?

 
- ก็เปลี่ยนไปมากเลยนะ จากที่ธรรมดาไม่มีใครรู้จักเลย ก็มีคนรู้   จัก มีคนมาทัก ชีวิตมันเปลี่ยนไป เวลาไป เที่ยวก็จะไม่ได้เที่ยวเหมือนที่เราเคยเที่ยว แบบเวลาส่วนตัวน้อยลง เรื่องเพื่อนเนี่ย เราก็จะไม่ได้เล่นกันบ่อยเหมือนกับตอนที่เรายังไม่ได้เป็นดารา และอาจจะต้องมีทำงานในเวลาเรียนบ้าง ก็เหนื่อยนะ แต่เหมือนเป็นประสบการณ์มากกว่า ก็เลยแบบว่าไม่รู้สึกท้อกับมัน เหมือนไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ ก็จะคิดว่าเราอยู่ตรงนี้เราได้ประสบ  การณ์มากกว่าคนอื่น


เข้าวงการเร็วอย่างนี้ รู้สึกว่าช่วงชีวิตบางช่วงเราหายไปไหม?
 
- มันไม่แตกต่างจากคนอื่นเท่าไหร่ ช่วงชีวิตวัยรุ่นไม่ได้หายไป แค่เราไม่มีเวลาให้มันเฉย ๆ ไม่ถึงกับหายไปเลย เรายังมีช่วงเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนได้บ้าง แต่ว่าแม่จะไม่ค่อยให้ไปไหน เพราะแม่เขาเป็นห่วง ก็อาจจะมีส่วนที่เราอยู่ตรงนี้ แต่แม่เคยบอกว่าถึงแม้หนูจะไม่ได้เป็นดารา ก็ไม่ให้ไปอยู่ดี

ชอบการเป็นนักแสดงหรือเปล่า?
 
- เป็นคนชอบเรื่องอย่างนี้มาตั้งแต่ เด็ก ๆ แล้ว พอมาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกรักมันแล้ว แต่จะพยายามที่จะไม่วาดฝันอะไรกับวันข้างหน้า เอาไว้ว่าโตไปเราต้องเป็นนางเอกโน่นนี่ เพราะว่าในที่สุดแล้วมันก็คงไม่ได้เป็นไปตามที่หวังไว้ขนาดนั้น แล้วมันก็ไม่แน่นอนอยู่แล้วสำหรับอาชีพนี้ เพราะว่ามีคนเข้ามาใหม่เรื่อย ๆ แล้วยิ่งถ้าไปหวังว่าเราต้องอยู่ให้ได้ตลอดไปนะ คงไม่ขนาดนั้น



อยากจะยึดเป็นอาชีพเลยไหมล่ะ?
 
- คิดว่าคงไม่ได้ยึดเป็นอาชีพ คือยังไงดี ถ้าทำไปเรื่อย ๆ หนูอาจจะเหนื่อย ไม่อยากทำแล้วก็ได้ แต่จริง ๆ ก็รักนะ แต่อาจจะมีที่ไม่อยากทำแล้ว ไม่ไหวแล้ว และก็คงไม่มีใครที่จะมาจ้างเราตลอดเวลา อย่างตอนนี้ก็ไม่มีงานอื่น แค่หนังเรื่องนี้ก็มีงานโปรโมตหนังทุกวัน ตอนนี้หนูไม่มีวันว่างเลย เต็มตลอดถึงเดือนหน้า ต้องเดินสายโปรโมตหนัง ไปทัวร์โรงหนังวันหนึ่ง 6-7 ที่ ถ้าไม่ได้   โปรโมตหนังก็ไม่เคยรับงานวิ่งรอกขนาดนี้ ไม่ชอบรับงานซ้ำซ้อนกัน กลัวว่าไปไม่ทันแล้วเขาจะด่าเอา งานเขาจะเสีย เราคงดูแย่ ๆ


การเรียนล่ะตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

 
- ตอนนี้จะขึ้น ม.4 ค่ะ  ที่โรงเรียนเบญจมราชาลัย ที่จริงแล้วหนูก็เป็นคนเรียนเก่งนะ ถ้ามีเวลา ก่อนเข้าวงการก็จะเรียนได้เกรดดีตลอด แต่พอเล่นหนังแล้ว ไม่มีเวลา เหมือนสมองมันเริ่มเต็ม แม่ก็ว่าทำไมถึงไม่ตั้งใจเรียน คือหนูเป็นคนที่จำอะไรได้สั้นมาก  ๆ ตอนเด็ก ๆ จะความจำดีนะ โตขึ้นมาความจำสั้น (หัวเราะ) ผลการเรียนก็ตกลงมาบ้าง ไม่เยอะนะ แต่ก็ไม่น้อย (หัวเราะ) อย่างเช่นที่เคยได้ เกรด 4 อาจจะตกลงมาเหลือเกรด 3-2  ซึ่งจริง ๆ ก็ตั้งใจเรียน แต่เหมือนสมองเต็ม เราคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด พอมาทำหนังก็คิดเรื่องหนัง มันเลยเต็มเร็ว เคยแบบไปหลับในห้องเรียนด้วย แต่ว่าไม่บ่อยหรอก เพื่อนจะชวนคุยเสียมากกว่า เคยทำงานแบบว่าข้ามวัน มาตอนตี 4-5 แล้วก็ทำต่อเนื่องไปจนถึง 7 โมงเช้า แล้วก็ไปโรงเรียนต่อ ก็ชอบนะ ตอนถ่ายทำไม่รู้สึกเหนื่อย แต่หลังจากนั้นแล้วสิ มันเพลียสุด ๆ


วางแผนเรื่องเรียนไว้ยังไงบ้าง?

 
- ก็ขึ้น ม.4 นี้ จะเรียนศิลป์-ญี่ปุ่น เพราะชอบภาษาญี่ปุ่น จริง ๆ อยากไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นด้วย แต่ต้องดูก่อน เพราะแม่ไม่อยากให้ไป หนูชอบประเทศญี่ปุ่น จากที่เคยไปโปรโมต “แฟนฉัน” ที่ญี่ปุ่น ชอบอะไรหลาย ๆ อย่างของประเทศนี้ รู้สึกว่าเป็นที่ที่เราชอบมากไปแล้วรู้สึกดี เรียนภาษาญี่ปุ่นก็ดีนะ เราไปรับวัฒนธรรมเขามาแล้วก็มาบอกต่อ มาพัฒนาปรับใช้ให้เข้ากับบ้านเราบ้างก็ได้ พอเรียน ม.ปลาย แล้ว ก็คิดว่าต่อมหาวิทยาลัยอยากเข้านิเทศฯ จุฬาฯ แต่ไม่รู้จะเข้าได้หรือเปล่า



เป็นเพราะอยู่กับพวกพี่ ๆ ที่จีทีเอช ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กจุฬาฯหรือเปล่า?
 
- ใช่ เพราะรู้สึกว่าพี่ ๆ เขาสนุกกับการทำงานมาก เราก็เลยอยากเป็นแบบพวกพี่ ๆ เขา ไม่ต้องมานั่งเครียดอยู่กับงานตลอดเวลา ผู้กำกับที่นี่ไม่เหมือนผู้กำกับที่อื่น พี่ ๆ เขาจะมีความสนุกสนานตลอดเวลา เขาไม่เครียด จนทำให้นักแสดงเครียดไปด้วย รู้สึกเหมือนเขาเอาใจลงไปกับงานด้วย รู้สึกว่ามันดีมาก ๆ


อยากทำงานเบื้องหลังล่ะสิ?

   
- คงใช่มั้งคะ อีกหน่อยถ้าแก่ไป หน้าไม่สวยแล้ว ตีนกาเริ่มขึ้น คงไม่มีคนจ้างแล้ว ก็มาอยู่เบื้องหลังดีกว่า ก็ชอบงานเบื้องหลังนะ เหมือนเราจะเห็นงานเบื้องหลังนี่สบายกว่างานเบื้องหน้า อันนี้สำหรับตัวหนูนะ แต่จริง ๆ แล้วงานเบื้องหลังมันเหนื่อยกว่ามาก แต่เราก็อยากได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่มันไม่เหมือนเดิม อยากเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ก็เลยอยากลองทำงานเบื้องหลังดูบ้าง ก็น่าจะสนุกดี


คิดว่าตัวเองมีพัฒนาการทางการแสดงแค่ไหน?

 
- ก็ไม่ได้สังเกตตัวเองนะว่าตัวเราเองพัฒนาไปทางไหน แต่จะฟังคนรอบ ๆ ข้างไว้ซะมากกว่า ส่วนใหญ่จะวิจารณ์ว่าเล่นพัฒนาขึ้น ซึ่งก็รู้สึกดีใจนะ เพราะเราทำงานเราก็อยากแสดงออกมาเต็มที่ อยากให้ออกมาดีที่สุด


วงการบันเทิงสอนอะไรโฟกัสบ้าง?

 
- มันก็ทำให้เราโตขึ้น ไม่ใช่เฉพาะภายนอก แต่เป็นเรื่องของความคิด โตมากขึ้น ได้รู้อะไรมากกว่าเพื่อน ประสบการณ์สามารถสอนให้ความคิดเราโตเป็นผู้ใหญ่ มีมุมมองที่แตกต่างไปจากเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน เวลาคุยกับเพื่อนบางทียังรู้สึกว่าเพื่อนเด็กกว่าเรา ถ้าดูภายนอกหนูอาจจะติงต๊องไปตามเรื่อง แต่เวลาพูดอะไรออกไปจะโตมาก ซึ่งบางทีเราไม่รู้ตัว แต่เพื่อนมักจะบอกว่า หนูดูเป็นผู้ใหญ่เลยนะ ความคิดดูผู้ใหญ่มาก แล้ววงการบันเทิงก็สอนให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้นด้วย


ตัวตนของโฟกัสเป็นยังไงบ้าง?

 
- ที่จริงเป็นคนที่สนุก ๆ ฮา ๆ บ้า ๆ เลย รู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่เหมือนผู้หญิงเท่าไหร่ จะห้าว ๆ มากกว่า บางครั้งภายนอกผู้ใหญ่อาจจะมองว่าเราเป็นผู้ยิ้งผู้หญิง แต่พอมาเจอตัวจริงโอ้โหเหมือนเด็กผู้ชายเลย



โตเป็นสาวแล้วมีคนมาจีบไหมเนี่ย?
 
- ไม่มีอะ หรือว่าอาจจะมี แต่หนูไม่รู้ตัวก็ได้นะ ส่วนใหญ่หนูจะติดเพื่อนมากกว่า คุยกับเพื่อน บางทีเพื่อนมาบอกว่ารู้ป่ะคนนั้นมาจีบ เราก็เหรอ ไม่รู้ คือเราไม่รู้ว่าการจีบมันคืออะไรยังไง อย่างไหนที่เรียกว่าจีบ คือมีคนมาเราก็คุย ไม่คิดว่าการที่เราคุยนั่นแหละคือการจีบ คือเราคุยกับเขาแบบเพื่อน แต่ความจริงคือเขาจีบเรา


กลัวคนมาจีบเพราะว่าเราเป็นดาราไหม?

 
- ก็นั่นน่ะสิ หนูไม่ชอบตรงนี้แหละ เพราะว่าเป็นดารายิ่งดูคนได้ยากขึ้น แต่ละคนที่เข้ามามันก็มีหลายแบบ บางคนก็จะคิดว่าดาราว่ะ น่าลองจีบดู จีบติดก็ดี จีบไม่ติดก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็เป็นดารา ใครมาจีบเราก็สามารถให้ร้ายเราได้หมดเลย บางคนอาจบอกว่า จีบติดแล้วโว้ย จีบดาราติด แต่มันไม่ใช่อ่ะ


เป็นเพราะเราอยู่ตรงนี้หรือเปล่าเลยต้องระวังตัว?

 
- ใช่ค่ะ เพราะอยู่ตรงนี้เราต้องยิ่งระวังตัว ต้องดูเยอะมาก แม่ก็ไม่ค่อยชอบให้คบเพื่อนชายเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับห้าม แต่จะคอยดูอยู่ห่าง ๆ มากกว่า ถ้าแม่บอกไม่ใช่มันก็คือไม่ใช่ เพราะว่าแม่ดูคนเก่ง แต่ว่าหนูก็ยังไม่มีนะ ไม่ได้อยากมีด้วย อยู่โรงเรียนเป็นโรงเรียนหญิงล้วนก็มีทอมมาชอบด้วย ที่จริงทอมมันก็ดีเหมือนกันนะ เพราะว่าอย่างน้อยมันก็ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าคุณต้องระวังตัว คือเราระวังตัวอยู่แล้ว แต่เราก็ยังระวังน้อยกว่าผู้ชาย ยังไงก็เป็นผู้หญิงด้วยกัน แค่เรามีเพื่อนเป็นแบบนี้ หนูก็มีเพื่อนเป็นทอมเยอะแยะ แต่หนูก็ไม่ได้เปลี่ยนรสนิยมนะ (หัวเราะ)


บทในหนังเป็นคนบ้าศิลปิน ตัวจริงเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า?

 
- ก็มี เพราะตัวเองก็เห็นคนหล่อไม่ได้เหมือนกัน (หัวเราะ) ก็กรี๊ดเหมือนกัน ด้วยความที่เรายังเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่นอยู่ คือวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น ก็มีบ้างที่แบบ อุ๊ย! หล่อ แต่ไม่ถึงกับ อุ๊ยชอบมากต้องเก็บรูปเขาไว้เยอะ ๆ ต้องเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเขา ไม่ถึงขนาดนั้น


อยากฝากอะไรกับหนังไหม?

  
- สำหรับเรื่อง “ปิดเทอมใหญ่ ...หัวใจว้าวุ่น” เป็นหนังที่ได้มุมมองหลายมุมมองดี ได้เห็นความรักในแง่มุมต่าง ๆ เป็นการรวบรวมนักแสดงวัยรุ่นจาก จีทีเอชเอาไว้ที่นี่ อยากให้ไปดูกัน คิดว่าน่าจะชอบ แล้วก็อยากให้ไปดูในโรงด้วยนะคะ สนุกกว่าดูที่บ้านและในแผ่นผีเยอะแยะ แผ่นผีมันดูไม่ค่อยชัดหรอกค่ะ ไม่สนุกด้วย


แล้วเคยเจอหนังแผ่นผีของเราแบบจัง ๆ ไหม?

 
- เคย เยอะแยะเลย เห็นแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรทำที่ดีกว่านี้แล้วเหรอชีวิตนี้  ถึงมาทำแผ่นผี เพราะว่าเขามาทำตรงนี้ก็เหมือนตัดรายได้หนังไปด้วย ซึ่งหนูไม่ได้ห่วงกลัวว่าหนังจะไม่มีรายได้ แต่มันเหมือนเป็นการทำร้ายคนทำหนังมากกว่า คนที่เขาอยากทำออกมาเต็มที่ แต่มาโดนทำแบบนี้ ซึ่งทั้งนักแสดงและคนทำหนังเขาก็เสียกำลังใจที่จะทำหนังต่อไป หนูเคยแบบว่าไปยืนอยู่หน้าแผงเลยนะ เพราะมีหนังเราอยู่ตรงนั้นด้วย พอเขาเห็นก็ร้อง อุ๊ย! แค่เนี้ย แล้วก็ขายต่อ เฮ้อ!
 
โถ...ทีหลังก็แจ้งตำรวจจับเลยนะจ๊ะ เล่นหนังเหนื่อยแทบตาย แต่ดันมาโดนแผ่นผีทำร้ายซะงั้น แหม...วันนี้คุยกันเต็มอิ่ม เห็นจากความคิด หนูโฟกัสโตเป็นสาวแล้วจริง ๆ ด้วย.



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์