โบ-ฟลุคจบปัญหา เซ็นหย่าแล้ว

จบสิ้นปัญหาคาราคาซัง ที่ทำให้กระอักกระอ่วนใจกันทั้งสองฝ่ายเสียที

เมื่อพระเอกละครคนดัง เจ้าของฉายาคาสโนว่าแห่งวงการบันเทิง “ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช” ได้ฤกษ์ตวัดปากกาเซ็นใบหย่าอย่างเป็นทางการกับ “โบ-ชญาดา” อดีตภรรยาที่เคยใช้ชีวิตครอบครัว ครองคู่อยู่กินกันมานานถึง 4 ปี โดยทั้งคู่ซุ่มเงียบไปเซ็นใบหย่ากันที่เขตวังทองหลาง ซอยลาดพร้าว 85
 เมื่อเย็นวันที่ 14 มี.ค. ก่อนสำนักงานเขตวังทองหลางปิดทำการเพียง 5 นาทีและหลังจากทั้งสองคนใช้เวลาจัดการเกี่ยวกับเอกสารอยู่ในสำนักงานนาน 2 ชั่วโมง ก็ได้นั่งรถบีเอ็มดับบลิว รุ่น 325 I สีขาวป้ายแดง ทะเบียน ศ 5356 เดินทางมาร่วมงานแกรนด์โอเพนนิ่ง เสื้อเชิ้ตขาว สวมสูทดำทับ เป็นผู้ขับรถ ส่วนอดีตภรรยาใส่ชุดสีน้ำตาล นั่งคู่มาด้านหน้า หลังจากมาถึงงานทั้งคู่ได้ยืนให้สัมภาษณ์คู่กันด้วยใบหน้าเศร้าสลด ปิดฉากความหวานที่เคยมีให้ซึ่งกันและกันเมื่อครั้งความรักยังไม่โรยรา
 

พระเอกคาสโนว่า “ฟลุค มัสยวาณิช” เป็นผู้กล่าวยอมรับก่อนว่า

ได้ขึ้นอำเภอเซ็นใบหย่ากับโบเรียบร้อยแล้ว ที่ตัดสินใจเป็นวันนี้ เพราะเป็นวันที่สะดวกด้วยกันทั้งคู่ เพราะที่ผ่านมาต่างคนต่างงานยุ่งและยังไม่มีเวลาลงตัว แต่วันนี้ลงตัวที่สุด ตอนที่เซ็นใบหย่ายอมรับว่ารู้สึกเป็นห้วงๆรู้สึกแปลกๆพอเซ็นเสร็จก็มองหน้ากันก็รู้สึกเหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรเพราะเรายังเป็นฟลุคเป็นโบ เหมือนเดิม ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็มีมากกว่าเป็นเพื่อนกัน
 

ขณะที่โบ-ชญาดา กล่าวยอมรับด้วยดวงตาที่ฉายแววเศร้าสลด

บ่งบอกถึงความรู้สึกในใจว่า รู้สึกใจหายไม่แตกต่างกันกับฟลุคยิ่งใจหายมากขึ้น เมื่อตอนหันมามองหน้าฟลุค อย่างไรก็ตามถึงเราทั้งคู่จะเปลี่ยนสถานะก็จริง แต่เรามีน้องอชิที่น่ารัก ทุกอย่างคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก




ผู้สื่อข่าวถามว่า การเซ็นใบหย่าที่เกิดขึ้นในวันนี้เพราะกระแสข่าวค่อนข้างแรงด้วยหรือเปล่า

โบกล่าวว่าสำหรับข่าวที่เกิดขึ้น มีผลกระทบต่อ “เราทั้งสามคน” อยู่แล้ว อย่างที่เคยบอก ถ้าทำอะไรถูกต้องชัดเจนทุกคนคงจะเข้าใจ จะได้ไม่ต้องมีใครเสียเวลากับข่าวเราอีก จริงๆ เราเองสองคนถึงแม้ว่าวันนี้จะเซ็นหรือไม่เซ็นใบหย่า ความรู้สึกมีให้กันอยู่แล้ว แต่ความถูกต้องคือเรื่องจริงที่สำคัญที่สุด เรื่องลูกตกลงกันว่าจะแบ่งกันเลี้ยง เป็นผู้ปกครองกันคนละครึ่ง
 

สำหรับทรัพย์สินที่ต้องมีการแบ่งแยกกันนั้น ฟลุค อธิบายว่า

เรื่องทรัพย์สินไม่ใช่เรื่องใหญ่ ลูกคือทรัพย์สินที่มีค่าของเราทั้งสองคน เราตกลงเรื่องลูกได้ โบอยู่บ้าน ก็อยู่ไป ตนอยู่คอนโดฯก็อยู่ไป บริษัทที่โบทำหน้าที่หลักก็ทำไป ตนทำหน้าที่บริหารก็ทำไป รายการของเรายังทำอยู่ ยังเหมือนเดิมตั้งใจทำให้ลูกทุกอย่างเหมือนเดิม อย่างที่เคยได้พูดแค่ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นเอง
 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จากกระแสข่าว “เราสามคน” ได้มีผลกระทบต่อฟลุค-แป้ง ถึงขนาดโดนปลดจากละคร ความลับของซุปเปอร์สตาร์ ฟลุคได้กล่าวว่า

 ตนรู้สึกเสียใจ เสียดาย แต่ก็เข้าใจผู้จัด ซึ่งผู้ใหญ่ให้เหตุผลมาว่า เขาไม่สามารถต้านกระแสได้ กระแสว่ายังไงเขาก็ว่าอย่างนั้น เขาทำธุรกิจก็เข้าใจ ส่วนอากัปกิริยากับคนรอบข้าง ตนก็ไม่เคยเจอคนรอบข้างที่ไม่น่ารักกับตนเลย ไม่เคยเจอเลยไม่ทราบจริงๆ ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ที่จะไปหย่าแป้งรู้มั้ย ฟลุคตอบเพียงสั้นๆว่า น้องรู้ว่าจะหย่า แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นวันไหน 




เมื่อถามว่าใครเป็นคนตัดสินใจบอกลูกว่าจะหย่า

ฟลุคให้คำตอบว่า ทั้งตนและโบไม่ได้บอกลูกว่าจะหย่า ขณะที่โบกล่าวเสริมว่า จริงๆแล้วน้องอชิอาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างมาก เพราะสิ่งที่เราทำมากับลูกยังเหมือนเดิม จริงๆแล้วเวลาไปไหนมาไหน ที่ภาพเหล่านั้นไม่ได้ออกสื่อ ตัวฟลุคเองเป็นคนที่น่ารัก ดูแลลูก ส่วนโบมีหน้าที่หลักเลี้ยงดูลูกอยู่แล้ว เรื่องลูกตราบใดที่พ่อแม่มีความรักที่เข้มแข็งกับลูกเข้าใจรับรองว่าเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วนอนาคตตนไม่ได้วางแผน พยายามทำทุกวันให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ยังคงทำภารกิจในแต่ละวันต่อไป มุ่งเน้นในเรื่องของการศึกษาของลูกจะทำยังไง การเลี้ยงลูกต่อไปให้ดีที่สุด มีเวลาให้ลูกมากที่สุดในฐานะพ่อแม่ การวางแผนเรื่องนี้ลูกคือสิ่งสำคัญที่สุด
 

ฟลุคกล่าวด้วยว่า ถึงแม้ตอนนี้จะถูกมองในด้านลบ แต่กับงานในวงการตนเองยังรักอาชีพนี้เพราะเกิดจากที่นี่

อยู่ที่นี้มาตั้งนาน คุ้นเคย ตนทำหน้าที่ของตนเองในฐานะนักแสดงให้ดีที่สุด ในฐานะของประชาชน วันนี้ได้ทำให้ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น ในฐานะของพ่อก็ปกติเหมือนเดิม




หลังจากนั้น โบ ชญาดา ได้กล่าวเสริมขึ้นมาว่า

รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่น่าเสียใจที่สุดคือ แป้ง ฟลุค ต้องถูกถอดจากละคร เพราะกระแสสังคมตรงนี้ค่อนข้างแรง บางทีโบรู้สึกไม่เป็นธรรมด้วยซ้ำสำหรับนักแสดงสองคนที่ตั้งใจทำงาน อนาคตค่อนข้างยาว โบอยากให้กระแสตรงนี้มองด้วยวิจารญาณนิดนึง เห็นใจเพราะว่าทั้งสองคนตั้งใจเล่นละคร โบรู้ว่าต้องโดนถูกถอด มีผลกระทบต่างๆนานา และเข้าใจว่ากระแสส่วนใหญ่ที่ต่อต้านฟลุค-แป้ง เพราะทุกคนสงสารโบที่เป็นผู้ถูกกระทำ แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้ ไม่มีใครเป็นผู้ถูกกระทำ เรื่องนี้ไม่มีใครผิด สุดท้ายกระแสส่งผลทำร้ายโบกับลูกทางอ้อมเหมือนกัน เพราะฟลุคยังต้องดูแลรับผิดชอบลูกอยู่ เรื่องนี้ไม่มีใครผิด เราสองคนจบกันด้วยดี ด้วยความเข้าใจ คิดว่าหลังจากนี้ทุกคนคงเข้าใจในสิ่งที่เราทำ ขอให้ไม่ยึดติด หรือติดตามข่าวสารไร้สาระเรื่องโบและฟลุคเป็นเรื่องไม่ค่อยมีประโยชน์และติดตามกันยาวนาน ทำให้คนคาใจและเสียใจ เราจากกันด้วยความเข้าใจ
  

ส่วนการดูแลน้องอชิ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั้น ฟลุคยืนยันว่า เป็นการช่วยกันดู อยู่ที่ว่าใครสะดวกคนนั้นเป็นคนเลี้ยง

แต่ปัจจุบันน้องอชิอยู่โรงเรียนใกล้บ้าน วันธรรมดาจึงอยู่กับโบเป็นหลัก เสาร์-อาทิตย์ อยู่กับฟลุคเหมือนเดิม การหย่าเป็นแค่กระดาษจริงๆ ที่ผ่านมาเราไม่ทราบกระแสจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เลยไม่ได้ทำให้มันเรียบร้อย แต่ตอนนี้เราเข้าใจและทำให้เรียบร้อย การตัดสินใจทุกอย่างเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามระหว่างที่ฟลุคตอบคำถามผู้สื่อข่าว โบได้หันมามองหน้าฟลุคเป็นระยะๆ และก้มหน้า พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความร้าวรานใจ ไม่ให้หลั่งออกมา
  

ผู้สื่อข่าวถาม หลังจากหย่ากันแล้ว ตอนนี้สำหรับโบอยู่ในฐานะอะไร ฟลุคตอบว่า เหมือนเดิมเป็นพ่อแม่ ของอชิ

และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดตลอดไป ต่างคนไม่ได้สัญญาอะไรยังไง เพราะคำว่าพ่อแม่ตัดกันไม่ขาด การขาดจากการเป็นสามี-ภรรยา ก็แค่กระดาษหนึ่งใบ แต่พ่อแม่เป็นสายเลือดยังไงก็ตัดไม่ขาด คงไม่มีทางเปลี่ยน และจะไม่มีการฟ้องร้องสิทธิ์ เพื่อดูแลลูกอย่างเด็ดขาด ทั้งตนและโบทำไม่ได้ ทำไม่ลง และไม่มีเหตุผลต้องทำด้วย



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์