โบ-ชญาดา กับรักที่หวานน้อยลง

โบ-ชญาดา กับรักที่หวานน้อยลง

มีข่าวออกมาหลายระลอก ถึงความสัมพันธ์ของคาสโนว่า ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช กับภรรยาสาว โบ-ชญาดา มัสยวาณิช ขาเตียงยังแน่นดีรึเปล่า วันนี้ โบ เปิดใจกับ “ดาวต่างมุม” หมดเปลือก ตอบทุกคำถามที่คาใจถึงเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา

 

ช่วงนี้งานหลัก ๆ มีอะไรบ้าง?
 
- ตอนนี้เปิดบริษัทห้องตัดต่อ จัดอีเว้นท์ และกำลังจะเปิดร้านอาหารชื่อ “แอพพิไทท์” ส่วนงานเบื้องหน้าจะเน้นไปทางโชว์ตัว มีพิธีกรบ้าง ชีวิตช่วงนี้ยุ่งเพราะทำร้านอาหาร งานหลักก็ยุ่งกับการเลี้ยงลูก เหมือนต้องทำงานตลอด 24 ชม. โบทำหลายบทบาทมาก ซึ่งมันเหนื่อยแต่มีความสุข อาจเพราะเป็นคนบ้างานมั้ง ก็ค่อย ๆ ทำให้สำเร็จทีละอย่าง ได้เขียนหนังสือ ทำรายการทีวี และร้านอาหาร เหลือแต่ทำรายการอาหารอีกหนึ่งอย่างเท่านั้น แล้วก็คงพอแค่นี้ แต่กว่าฝันจะเป็นจริงได้ก็หนักหนาสาหัส เราต้องตั้งใจจริง อดทนและต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วมันจะสร้างรอยยิ้มและความภูมิใจให้กับเราได้ทุกครั้ง

มีวิธีรับมือปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างไร?
 
- ทำใจ เวลาเกิดอะไรขึ้นไม่ยึดติดปัญหานั้น ๆ ให้มันผ่านไป คิดว่าชีวิตเราต้องเดินต่อไป ต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเอง เมื่อก่อนเป็นคนแคร์คนอื่น เสียใจง่าย อ่อนไหว ร้องไห้ตลอด เดี๋ยวนี้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด คิดว่าทุกคนก็ล้วนแต่เคยทำเรื่องดีและไม่ดี เราต้องให้โอกาสตัวเองและให้อภัยกับมัน ก็ต้องขอบคุณพ่อกับแม่นะ ที่สอนให้โบเข้าใจชีวิต บางทีเราต้องรู้จักคำว่า   “ปลง” และ “ให้อภัย” พ่อแม่ปลูกฝังซะจนเราคิดได้ว่า ชีวิตก็ไม่มีอะไรมาก แค่ “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” จะไปเอาอะไรนักหนากับสิ่งรอบข้าง จริง ๆ แล้วเรามีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่นตั้งเยอะ

ตอนนี้เป็นแม่มากี่ปีแล้ว ?
 
- ก็ 4 ปี น้องอชิ 4 ขวบแล้ว ชีวิตเปลี่ยนเยอะมาก ตั้งแต่กลับจากเมืองนอกก็เข้าวงการเป็นพิธีกรรายการ “ตีสิบ” จนมามีลูก เจอสิ่งที่เราไม่เคยเจอ จากเป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเรียนจบมา จนต้องมาเป็นคนที่คนรู้จักทั้งประเทศ รับหลายบทบาทในเวลาเดียวกัน เหมือนกับว่าต้องโตแบบเร่ง สปีด มันเร็วจนถึงขนาดวางแผนชีวิตให้ลูกแล้ว เราต้องเลี้ยงให้เขาโตขึ้นมามีจุดหมายที่ดี



โบเลี้ยงอชิแบบไหน ?
 
- เลี้ยงแบบเป็นเพื่อน คือเราจะสอนให้เขาเข้าใจทั้งเหตุและผล ให้รู้จักเรื่องของการทำงาน น้องอชิเป็นคนที่บ้าของเล่นมาก ชอบซื้อของ แต่เราก็สอนว่าต้องทำงานเพื่อแลกมากับการที่เราจะได้อะไรสักชิ้น อชิแตกต่างกับเด็กคนอื่นตรงที่เขาต้องทำงานตั้งแต่ตอนนี้แล้ว บางทีต้องไปโชว์ตัว เราก็ต้องสอนให้เขาเข้าใจด้วยว่า เราดีได้แต่เราอย่าเด่น เขาซนมาก แต่ไม่ดื้อ เขาเป็นเด็กที่ชอบอยากรู้อยากเห็น ลูกยิ่งโตยิ่งเหนื่อยคนละแบบ ตอนนี้ลูกเริ่มพูด เริ่มถาม เราก็ต้องมีวิธีสอน ต้องทันว่าเขาคิดอะไร เพื่อไม่ให้เขาเข้าใจอะไรผิด ถ้าลูกดื้อก็จะดุ ต้องถือไม้กันเลย แล้วเขาก็จะกลัว

ถ้าเลือกได้อยากให้ลูกเป็นเด็กธรรมดาหรือเป็นแบบนี้ ?
 
- ถ้าเลือกได้จริง ๆ คงอยากให้ลูกเป็นเด็กปกติทั่ว ๆ ไป เพราะยืนอยู่จุดนี้มันก็เป็นดาบสองคม มีทั้งข้อดีในการเป็นที่รู้จัก แต่ถ้าเราทำอะไรที่ผิดพลาดไปสังคมก็พร้อมจะลงโทษเราได้ทุกเมื่อ ถ้าเขาไม่เข้าใจชีวิต อาจจะเสียใจ คิดมาก แต่ว่าเขาเกิดมาเป็นลูกเราแล้ว เราก็ต้องสอนเขา แต่อชิไม่ค่อยทำให้โบผิดหวังในเรื่องของการงอแง ไม่ว่าจะดึกจะเหนื่อย เขาก็ไม่เคยจะร้องไห้กลับบ้าน ถ้าลูกจะต้องทำงานเราต้องให้เขานอนให้เต็มที่ กินให้อิ่ม แล้วก็สร้างอารมณ์ว่าเขาจะต้องสนุกกับงานนี้ แต่เขาก็เริ่มชินกับคน เคยคิดว่าเขาจะแปลกไหมนะ ที่เวลาไปไหนมาไหนโดนแต่สัมภาษณ์ ซึ่งเขาเองก็เริ่มรู้ “อ๋อ ! อชิเป็นดารา” แต่การได้เงินมาก็ไม่ใช่เพื่อตัวเขาคนเดียว ต้องรู้จักแบ่งปัน พยายามปลูกฝังตรงนี้ให้เขา จริง ๆ โบไม่อยากให้เข้าวงการเท่าไหร่ อยากให้เขาเก่งในมุมอื่นบ้างอย่างกีฬาหรือดนตรี แต่ไม่ได้บังคับ เขาชอบอะไรก็ส่งเสริมในสิ่งที่เขารัก ไม่ได้วางแผนอะไรมาก เราจะสร้างความมั่นคงให้กับลูกมากกว่า ให้มีต้นทุนชีวิตที่ดี คือมีบ้าน มีรถ มีหน้าที่การงาน ให้เขาดำเนินชีวิตต่อไป เดี๋ยวนี้มันหาเงินยาก ถ้าเรามีเรื่องของปัจจัย 4 ให้เขา เขาก็จะได้ไม่ต้องทำงานหาเงินมาผ่อนบ้านผ่อนรถ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

แล้วจะมีน้องให้อชิไหม ?
 
- โบรู้สึกเหนื่อยกับการเลี้ยงลูก แล้วก็ไม่อยากท้อง ตอนนี้รู้สึกแฮปปี้ที่ลูกโตแล้ว โบคิดว่าคนที่มีลูกคนเดียวก็ไม่ได้มีปัญหา มันอยู่ที่ว่าคนที่เป็นพ่อเป็นแม่พร้อมแค่ไหนกับการมีลูก เราเลี้ยงเขาได้ดีรึเปล่า มีเวลารึเปล่า ถ้าทำไม่ได้อย่ามีดีกว่า เคยคิดกลัวว่าอชิจะเหงา แต่ถ้าลูกเหงาลูกก็ต้องยอมรับกับมัน เพราะเกิดเป็นลูกเรา แค่นี้ลูกก็โชคดีกว่าหลาย ๆ คนแล้ว

ข่าวที่เกิดขึ้นระหว่างโบกับฟลุคเท็จจริงเป็นยังไง?
 
- คิดว่าคงเป็นชีวิตครอบครัวที่ปกติ มันก็มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี แต่ว่าข้อสรุปมันไม่มีคำตอบสุดท้าย มันคือชีวิตจริง มันไม่สามารถตอบได้ว่าวันนี้คืออะไร ชีวิตวันนี้อาจจะดี พรุ่งนี้อาจจะไม่ดี แต่ว่าเวลาสัมภาษณ์ทุกครั้งมันต้องการบทสรุป ถ้าถามอย่างนั้นโบไม่มีคำตอบ เพราะชีวิตมันดำเนินไปเรื่อย ๆ แต่อาจจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอย่างที่ทุกคนเห็นหรือต้องการให้เป็นอย่าง การออกงานด้วยกัน คือมันไม่มีงานที่ต้องออกด้วยกัน หรือถ้าต้องไปด้วยกันก็ไม่มีคนเห็น ถ้าอธิบายมันก็ยาว ไม่รู้จะพูดยังไง คือมันอาจจะดี หรือไม่ดีก็ได้ แต่ว่าวันนี้มันยังไม่มีอะไรที่จะเป็นบทสรุป

ชีวิตคู่มันหวานน้อยลงกว่าตอนที่แต่งงานกันใหม่ ๆ ไหม ?
 
- ความหวานมันต้องน้อยลงทุกวันอยู่แล้วแหละ คนเรารู้จักกันมา 7-8 ปี ความหวานความรักมันมีให้กันอยู่แล้ว แต่ว่าทุกวันนี้เรามีความเข้าใจมากขึ้น ในเรื่องตัวตนที่แท้จริง ครอบครัว ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ มันกลายเป็นความอดทน ความเสียสละ สิ่งเหล่านี้มันเพิ่มมากขึ้น แต่ความรักมันต้องมีให้กันตลอดไปจนตาย เพราะเราไม่ใช่คนใจร้าย หรือคนไม่มีหัวใจ เพียงแต่ว่ากาลเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป วันนี้มันไม่ได้มีแค่คนสองคน มีอชิอีกคนหนึ่ง โบอาจจะทำหน้าที่ได้ไม่ดีก็ได้ เพราะโบต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงาน เขาเองก็อาจจะต้องมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ คือมัน 8 ปี มันต้องเปลี่ยนไปมาก ๆ แต่ว่าความเข้าใจ ความเป็นผู้ใหญ่ในชีวิตคนสองคนมันมากขึ้นด้วย เราเข้าใจกันและรับได้ในสิ่งที่เราเป็นวันนี้ มันก็ไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพื่ออะไร

มีข่าวถึงขนาดแยกบ้านกันอยู่เลยนะ ?
 
- จริง ๆ โบมีบ้าน และก็ซื้อคอนโดไว้หลายที่ คือเราลงทุนกับ เรื่องอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างเยอะ ไลฟ์สไตล์ที่ผ่านมาบางทีก็ไปอยู่คอนโด บางทีก็อยู่บ้าน ตัวฟลุคเองบางทีไปเที่ยวมาก็ไปอยู่คอนโดบ้าง คือเข้าใจ และโบก็รู้ว่าคนจะคิดไปในมุมมองไหน

คนก็เลยสงสัยไง เลยต้องตามถามกันเรื่อย ๆ อึดอัดรึเปล่า ?
 
- ไม่อึดอัด คือโบไม่ได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนกับตรงนั้น คนเรามันต้องให้อิสระในความคิดแล้วก็ให้พื้นที่กับชีวิตของแต่ละคน คนบางคนอยู่บ้านเดียวกันตลอดเวลาอาจจะรู้สึกเบื่อก็ได้ สำหรับโบกับเขาเองก็เป็นคนที่สบาย ๆ โบไม่ใช่คนที่จะแบบว่าจิกตาม ห้ามโน่นห้ามนี่ โบไม่ใช่คนอย่างนี้ตั้งแต่แรก ตัวเขาเองก็เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวเยอะ ชอบเล่นเกม สังสรรค์กับเพื่อน บางทีคนเรามานั่งวุ่นวายกันมากเกินไปก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี ส่วนเรื่องความเจ้าชู้โบก็รู้จุดนี้ตั้งแต่แรก โบก็รับได้อยู่แล้วว่าเป็นแบบไหน โบไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่กวนใจ เป็นปัญหาที่ทำให้เราต้องตีโพยตีพาย



อย่างงี้ก็เท่ากับให้อิสระซึ่งกันและกัน ?
 
- ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าทั้งของตัวเองและเรื่องของลูก เหมือนกับว่าจุดศูนย์กลางคือ น้องอชิ ส่วนเรื่องของปัญหามันก็ไม่ได้มีอยู่แล้ว มันก็เรื่อย ๆ ไง อย่างที่บอกมันก็ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ทะเลาะบ้าง แต่มันก็ไร้สาระ มีเรื่องไม่เป็นเรื่องเยอะ เขาอาจจะเป็นคนง่าย ๆ แต่โบอาจจะจุกจิก เวลามีข่าวส่วนใหญ่เขาจะไม่พูด จนมีคนมาถามโบเยอะ ๆ โบก็จะบอกว่ามันมีคนมาบอกตรงนี้ รู้รึเปล่า บางทีเขาก็เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง อย่างที่ผ่านมามีข่าวล่าสุด เขาก็บอกว่าเขาไปพัทยามา มีเพื่อนฝรั่งไปด้วยก็เป็นข่าว โบก็บอกเขาว่าให้ระวังหน่อย

ชีวิตถูกจับตามองมาตลอด รู้สึกยังไงบ้าง?
 
- รู้สึกว่ามันทำให้เข้มแข็งขึ้น โตขึ้น จากที่เคยออกทีวีกับคุณวิทวัส 3 เทปแรกโดนโจมตีเรื่องฟลุค ร้องไห้ จนมาวันนี้ เออเราผ่านมันมาได้ ไม่ได้รู้สึกว่ารำคาญ เพราะทุกคนคือพี่น้อง น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า มาก ๆ เราก็รู้จักกับทุกคนนะ บางคนเมื่อก่อนเขายังดูเด็กอยู่เลยเรียก น้องโบ แต่ทุกวันนี้มีแต่รุ่นน้องมาสัมภาษณ์เรียก พี่โบ คือเราจะทำงานอะไรก็ตาม จะประสบความสำเร็จได้ไหม นอกจากทีมงานแล้ว ก็ต้องมีสื่อมวลชนด้วย ที่ช่วยกระจายสิ่งเหล่านี้ออกไป ให้คนรับรู้ว่าเรามีผลงาน ไม่อึดอัด เวลามีข่าวเยอะ ๆ ก็คือไม่ดูเลย ก็จบก็ผ่านไป จนบางทีมีคนมาถามเยอะ ๆ ก็ต้องให้เลขาไปหามาดูสิคืออะไร บางทีเราไม่รู้เรื่องจริง ๆ

ถามตรง ๆ เลยทุกวันนี้ยังอยู่ด้วยกันไหม ?
 
- ก็ยังอยู่ ทุกวันนี้โบยอมรับว่ามันไม่ใช่แค่สามีภรรยา สิ่งที่ต้องทำคือ เราคือพ่อและแม่ของน้องอชิ เราต้องทำยังไงให้เป็นพ่อและแม่ที่ดี ความสัมพันธ์ก็อย่างที่บอกว่าดี แต่อาจจะไม่เหมือนเดิม

มีคนมองว่าสร้างภาพรึเปล่า ?
 
- จะให้โบทำยังไงล่ะ ให้สร้างภาพว่าไม่เลิกน่ะเหรอ โบไม่ได้อยากสร้างภาพอยู่แล้ว แต่โบว่าคนอื่น ๆ สร้างภาพให้โบนะ เขาสร้างให้โบเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ แต่สิ่งที่โบเป็นก็คือเป็นอย่างเนี้ย เรารู้ตัวเราอยู่ว่าเราเป็นอะไร ไม่ได้รู้สึกอะไร คนรอบข้างรักและเข้าใจก็พอแล้ว มันเหมือนกับว่าเราต้องมีเรื่องอื่นให้คิดอีกเยอะ ทั้งเลี้ยงลูกและ
ทำงาน

สุดท้ายอยากพูดอะไรไหม ? 
 
- ขอบคุณสำหรับหลาย ๆ กำลังใจที่มอบให้ โบรู้ว่าทุกคนเป็นห่วง แต่ว่าบางสิ่งบางอย่างก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทุกวันนี้โบก็มีความสุขกับชีวิตดี แล้วก็อยากให้ติดตามผลงานมากกว่า ชีวิตคนเราอาจจะไม่สมบูรณ์ครบได้ทุกเรื่อง ชีวิตของโบไม่ใช่ละครที่จะมีตอนอวสาน มันยังไม่จบ ถึงพูดอะไรไปวันนี้ พรุ่งนี้ก็คงมีอีก เพราะชีวิตเรามันยังไม่ตาย แต่เราเป็นคนของประชาชน ก็ต้องแจกแจง เราเข้าใจทุก ๆ ขั้นตอน แต่บางทีก็ไม่มีคำตอบ และเหนื่อยกับการอธิบาย เพราะว่าบางทีเรายังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไรเหมือนกัน
 
ถึงจะยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ก็ได้แต่หวังว่าความรักของ โบและฟลุค จะผ่านมรสุมข่าวเหล่านี้ไปได้ “ความรักอยู่ที่ความเข้าใจจริง ๆ” อย่างนี้ต้องยกตำแหน่ง “เมียดีเด่น” ให้ซะแล้ว.

คนกลาง เรื่อง
อมรรัตน์ สีม่วง ภาพ



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์