?โน้ต? เล่นหนังไม่หวั่น ?ปู-อ่ำ? แย่งซีน บอกรู้ตัวมือใหม่

โน้ต เล่นหนังไม่หวั่น ปู-อ่ำ แย่งซีน บอกรู้ตัวมือใหม่

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2549 14:58 น.

รับบทเป็นพระเอกในจอแก้วหลายเรื่อง คราวนี้เปลี่ยนมารับบทพระเอกในจอเงินดูบ้าง สำหรับพระเอกมาดเรียบร้อยอย่าง โน้ต วัชรบูล ลี้สุวรรณ ประเดิมหนังเรื่องแรก มากับพระ ประกบ ปู ไปรยา เจ้าตัวไม่ได้คาดหวังมาก ลั่นที่รับเล่นไม่ได้อยากจะดัง แค่อยากลองทำ ไม่หวั่นอ่ำแย่งซีน ลั่นที่รับเล่นหนังเพราะเบื่อเล่นละครบทคนรวย

ตัดสินใจอยู่นานพอตัวสำหรับโน้ต วัชรบูล พระเอกละครช่อง 7 ที่เล่นละครหล่อ รวยมาหลายเรื่อง จะมาประเดิมหนังเรื่องแรกหนุ่มโน้ตเลยบอกรับเพราะเบื่อบทคนรวยเต็มทน ย้ำไม่กลัวอ่ำแย่งซีนแต่อย่างใด
เหตุผล ก็อยู่ที่ตัวผู้กำกับด้วย แล้วก็พระนครฟิล์ม ดูจากทีมงานก็น่าจะเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง แล้วก็เรื่องโลเกชั่น เรื่องของบทด้วย พอดูเรื่องราวต่างๆแล้ว มันก็น่าจะดี คือผมพูดตรงๆเลยว่า ผมค่อนข้างเบื่อ ละครที่แบบว่าต้องรับบทเป็นคนรวย หรือรับบทอะไรที่ใช้ชีวิตแบบนี้ไปวันๆ มันเบื่อ ไม่ใช่ว่าเกลียดนะ แต่อย่างนี้มันเป็นอะไรที่ท้าทาย อยากเปลี่ยนบทบาทบ้าง เผื่อว่าไปเล่นบทอย่างอื่นปุ๊บพอเล่นไปเรื่อยๆ แล้วกลับมาเล่นบทเดิมมันอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์ไอเดียขึ้น

ตอนแรกผมก็ตัดสินใจนานพอสมควร เพราะหนังนี่มันเป็นอะไรที่คนเสียตังค์เข้ามาดู มันไม่เหมือนละครที่ยังไงคนก็ดูอยู่แล้ว แต่พอมาคุยกับผู้กำกับมาดูบท มาดูโลเกชั่น ก็เลยโอเค ก็ไม่อยากคิดอะไรมาก ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเรา

ผมไม่กล้าคาดหวัง เพราะความชอบของคนมันบอกไม่ได้ มันมีปัจจัยเยอะ ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจเป็นยังไง สภาพของสังคมก็มีผล ค่านิยมต่างๆในสังคม ทำให้คาดหวังลำบาก ตอนที่ถ่ายมาผมก็งง ว่ายังไง ชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน ก็เลยไม่กล้าคาดหวังมาก

แม้จะเป็นหนังเรื่องแรกที่เล่น แต่หนุ่มโน้ตก็ไม่ได้กังวลกับบทบาทที่ได้รับ บอกเลิฟซีนกับปูมีเล็กน้อย ส่วนอ่ำนั้นก็ไม่กลัวว่าใครจะเด่นกว่ากัน เพราะก็เล่นตามบท ยอมรับตัวเองก็มือใหม่

หนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องแรกซึ่งก็ไม่หนักใจเท่าไหร่ เพราะ การแสดงถ้าหนักใจ ไปเครียดอะไรกับมัน หรือวิตกก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ต้องทำใจให้สบายๆ การเล่นหนังก็เหมือนการเล่นละครแหละ คือพยายามดูบท และหาคาแรคเตอร์ให้มันชัดๆ ผมว่าหนังนี่ คนต้องเสียเงินเข้าไปดู เค้าก็ต้องการดูอะไรที่มันสนุกมีรสชาติ ให้มันชัดเจน

คาแรคเตอร์จะเป็นผู้ชายที่ผิดหวังในชีวิต แล้วก็ออกเดินทางไปยังวัด ไปหาความสงบทางใจ คิดว่าการบวชมันจะลดความผิดหวังได้ จริงๆแล้วมันไม่ใช่ เพราะเวลาไปอยู่กับพระ ไปอยู่กับสถานที่ ที่ต่างจังหวัด มันค่อยๆสอนเค้าว่าจริงๆแล้วมันอยู่ที่ตัวเรามากว่า ไม่จำเป็นหรอกว่าต้องบวช ต้องหลบหนีจากโลกภายนอก ไปอยู่ในที่ไกลๆ จริงๆแล้วมันอยู่ที่ตัวเราข้างในอย่างเดียวเลย

เรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่ใกล้เคียงกับตัวเอง คือมันก็ไม่เชิงใกล้ตัวนะ มันเป็นเรื่องชายหนุ่มอายุ 25-26 ที่ผิดหวังในชีวิต ผิดหวังในเรื่องการงาน แล้วหลบหนีไป มันก็ไม่ไกลตัว มันก็อยู่ในโลกที่ผมเพิ่งผ่าน อย่างชีวิตออฟฟิศ ผมก็หลุดออกมาแป๊บเดียวเอง ไม่ได้ไกลตัวมาก ซึ่งผมกำลังคิดอยู่ว่า คาแรคเตอร์อย่างนี้มันจะทำอะไรให้โดดเด่นออกมาได้บ้าง

และยังได้ร่วมแสดงกับน้อง ปู ไปรยา และพี่อ่ำ อัมรินทร์ ด้วย ก็โอเค เพราะกับน้องปูเรา รู้จักกันอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร บทเลิฟซีนในเรื่องก็มีแค่นิดหน่อยเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ต้องแสดงร่วมกับพี่อ่ำ ก็ไม่รู้สึกหนักใจอะไรนะครับ เพราะถ้าไม่มีครั้งแรก มันก็ไม่มีครั้งต่อไป ถ้าพี่เค้าจะขโมยซีน ก็ขโมยไป เพราะว่ามันก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว คือผมมือใหม่ผมก็ทำเท่าที่ผมทำได้

เล่นละครเป็นพระเอกมาก็หลายเรื่อง แถมมีงานหนังเข้ามาอีกแต่ชื่อเสียงของหนุ่มโน้ตก็ยังไม่ตู้มต้ามกับเขาเสียที โน้ตเลยแจงว่าตัวเองไม่เคยหลงระเริงกับวงการบันเทิง และไม่นิยมเป็นข่าวฉาวกับนางเอกก็เลยไม่ค่อยดัง
ผมไม่ได้ป้องกันตัวเองเลยนะ ผมก็ใช้ชีวิตปกติของผม อาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยหลงระเริงกับวงการบันเทิงมากนัก ไม่ใช่ว่าเจอผู้หญิงสวยทุกวัน แล้วผมจะรู้สึกว่าอยากทำอะไรเค้า ก็เฉยๆเป็นแค่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง

โลกส่วนตัวก็ไม่สูงนะ ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไปเที่ยวกลางคืนบ้างกับเพื่อนผมนะ แต่ถ้าไปกับนักแสดงเยอะๆ มันก็จะเป็นข่าว แต่ก็คุยกันได้ อย่างสนิทๆ ก็ยุ้ย ชมพู่ จุ๋ย สนิทสนมคุยกันได้แบบสบายๆ เออ..แต่ก็แปลกนะ ทุกคนที่โน้ตสนิทนะ อย่างชมพู่ก็มีแฟนไปแล้ว จุ๋ยกะยุ้ยก็สุภาพน่ารัก อย่างจุ๋ยนี่เค้าก็ไม่เที่ยวกลางคืนเลย

ผมไม่อยากดังมาก ผมอยากใช้ชีวิตปกติ ไปกินข้าวกับที่บ้าน กับเพื่อนกับใครอย่างสบายๆ ไม่มีใครมาตามถ่ายรูป จะว่าไปแล้วการทำงานกับวงการบันเทิงมันก็อาจจะขัดกับผมตรงที่ไลฟ์สไตล์ของผม แต่โดยการทำงานมันไม่ขัดกันมาก มันก็เหมือนชีวิตทำงานปกติของผม มันก็เหนื่อยต้องทุ่มเท กับงานเต็มที่