แอนงงข่าวนอนกับภูริ!!!

ตกเป็นข่าวควง "ภูริ หิรัญพฤกษ์"

ไปสวีตที่ปาย 3 วัน 3 คืน "แอน อลิชา ไล่ศัตรูไกล" ยอมรับว่าไปด้วยกันจริง แต่มีเพื่อนๆ ไปด้วยกันหลายคน ยันไม่ได้ไปนอนค้างอ้างแรมกันสองต่อสอง

เราไปด้วยกันจริงแต่มีเพื่อนๆ ไปด้วยเยอะ

แต่คนอาจจะเห็นเราแค่สองคน แอนไปงานเร้กเก้ไปช่วยเหลือเด็กๆ ปีที่แล้วปรายน้ำท่วม ก็เลยเอาเสื้อผ้าเอาข้าวของไปบริจาค และก็เอาเสื้อไปสกรีนขายด้วยรายได้มอบให้กับเด็กๆ"

ข่าวออกมาก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ

คิดอยู่แล้วว่าต้องมีข่าวเพราะคนเยอะมาก ทั้งที่ปกติจะมีแต่ฝรั่งแต่วันนั้นคนไทยไปเที่ยวเยอะมาก แต่แอนก็ไม่ได้อะไรก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นๆ เขาไปปั่นจักรยานกันเราก็ไป ยังเจอนักข่าวอยู่เลยก็เข้าไปทักทายสวัสดี แอนไม่ได้คิดจะเป็นข่าวหรือทำตัวอยากเป็นข่าว แต่พอขึ้นไปที่นั่นเห็นรถเยอะเห็นคนเยอะก็รู้แล้วว่า คงต้องเป็นข่าวแน่ๆ"

เผยไม่หวั่นเพราะไม่ได้ทำอะไรเสียหาย และรู้ตัวเองว่าทำอะไรอยู่

"ถ้าใครจะคิดอะไรในทางเสียหายมันก็แค่คำพูดคนๆ หนึ่ง เราไม่ได้ค้างอ้างแรมหรือทำอะไรเสียหาย ไม่ได้ไปค้างกันสองคน แอนไม่สนใจว่าใครจะคิดอะไร เรารู้ดีว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ที่จะไปทำตัวแบบนั้น เราเองก็โตพอสมควรแล้วอีกไม่กี่ปีก็จะครบ 30 อยู่แล้ว ไปไหนมาไหนแอนก็บอกพ่อบอกแม่ ไปกี่วันยังไงเขารู้หมดว่าไปกับใคร ไม่ได้หนีไม่ได้แอบไป"

ก็รู้อยู่ว่าไปคนก็ต้องคิดในทางที่ไม่ดี

คนชอบมองในแง่ร้าย ทำไมไม่คิดว่าเรามาทำในสิ่งที่ดี เราเอาเสื้อผ้ามาบริจาค ไม่ใช่อุ๊ย...ไปกับผู้ชาย ทั้งที่เราไปกัน 30 กว่าคน เข้าใจว่ามันเป็นกระแส แอนทำงานวงการนี้มา 12 ปีก็รู้ว่ามันจะมีข่าว เดี๋ยวเรื่องเรียน ไม่มีงาน โดนทิ้ง มันก็จะวนอยู่แบบนี้แหละ"

จวกแหลกเรื่องข่าวบู๊ระห่ำตบหน้า

"แป้ง อรจิรา แหลมวิไล" กลางกองถ่ายเอ็กแซกท์ พร้อมทั้งสับเละช่างภาพจอมส่อง หลังจากที่โดนแชะภาพเสื้อชั้นในโผ่ลลงในนิตยสารฉบับหนึ่ง

ข่าวบางข่าวมันก็ไม่มีมูลเลยนะ อย่างข่าวที่บอกว่า

แอนตบกับแป้งในกลางกองถ่าย มันไม่มีมูลเลย ไม่น่าเขียนแบบนี้เสียดายแทนคนอ่าน เค้าไม่ได้รับข่าวสารที่เป็นจริง แอนจะไปตบกับเค้าได้ไง ตอนที่ข่าวลงละครยังไม่เปิดกล้องด้วยซ้ำ มันสะท้อนให้เราเห็นว่า แล้วข่าวอื่นมันเชื่อถือได้มากแค่ไหน"

แต่ก็ปลงนะทำงานวงการนี้

ชีวิตเราเป็นยังไงเรียนจบหรือยังหรือเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตบ้าง เขาก็ย่อมอยากจะรู้เรื่องเป็นธรรมดา เมื่อก่อนแอนจะชอบอ่านข่าวกลอสสิปมาก เดี๋ยวนี้จะไม่ค่อยได้อ่าน แต่ถ้าใครบอกมีข่าวก็อ่านแต่จะกลัวพวกแอบถ่ายหน้าอก อย่างตอนเปิดกล้องก็โดนแอบถ่ายเสื้อชั้นใน ขนาดเราระวังแล้วก็ยังโดน มางานเปิดกล้องทำไมต้องมาแอบถ่ายนมคนอื่นด้วย"

เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนก็เลยต้องปิดให้มิดชิด

ต้องระวังตัวมากขึ้น อย่างแอบถ่ายกางเกงในก็ไม่รู้เขาจะถ่ายไปทำไม แอนรู้สึกเหมือนโดนลวนลามยังไงก็ไม่รู้ เวลาที่ช่างกล้องมองเราก็จะคอยมองว่าเค้าคิดอะไร รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้สังคมมันประหลาด มีอะไรแปลกๆ เยอะเมื่อก่อนมีแต่สิ่งดีๆ เดี๋ยวนี้มีแต่สิ่งเลวๆ มันคงขายได้"

และถ้าสมมติว่าแอนโดนแอบถ่ายกางเกงในจริงๆ

แอนก็คงจะดูก่อนว่าเป็นเพราะเราเผอเรอเกินไปหรือเปล่า หรือว่าเค้าจงใจช้อน แต่อย่างไรก็ตามถ้าโดนก็คงจะเสียใจ ช่างภาพเป็นผู้ชายทั้งนั้นรู้สึกเหมือนโดนลวนลาม เห็นคนอื่นโดนมันอายแทน เขาไม่ได้ตั้งใจอาจจะนั่งเรียบร้อย แต่พอจังหวะต้องเปลี่ยนขาก็อาจจะโดนโชะพอดี

เพราะคนก็จ้องจะถ่ายอยู่แล้ว

โดนเอาเปรียบน่าสงสาร ขนาดโดนไปนิดเดียวยังรู้สึกเสียใจและโกรธ คือมันมีเรื่องที่น่านำเสนอมากกว่านี้ ทำไมต้องมาแอบถ่ายแบบนี้ด้วย"

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์