แหม่มร่ำไห้..ตามหาแม่ที่แท้จริง!!

"แหม่ม" วิชุดา ร่ำไห้ประกาศหาแม่บังเกิดเกล้า หลังป่วยโรคประหลาด ประสบภาวะความรู้สึกแปลกแยกจากตัวเองและผู้อื่น

ขณะที่“แอ๊ด”วงแบ็คอัพ ดื่มเหล้าหนักจนเพี้ยน ต้องเข้ารับการรักษาที่ศรีธัญญา ปัจจุบันอาการดีขึ้น ถูกย้ายมาอยู่สถาบันธัญญารักษ์แล้ว  ทั้งที่อยู่วงการมานาน และสร้างเสียงหัวเราะให้แก่แฟนๆ จากบท "เจ๊มินท์" ในซิทคอม "เป็นต่อ" นานกว่า 6 ปี ล่าสุด น.ส.วิชุดา พินดัม หรือแหม่ม กลับประสบภาวะความรู้สึกแปลกแยกจากตัวเองและผู้อื่น โดยมีอาการประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา อาการหนักถึงขั้นปิดห้องขังตัวเองอยู่ในความมืด ไม่อยากติดต่อใคร และกินยานอนหลับเกินขนาด จนต้องเข้ารับการบำบัดจาก ดร.พงษ์รพี บูรณสมภพ ผอ.ศูนย์เพื่อรักษ์ เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา



โดยรายละเอียดต่างๆ นักแสดงคนดังเล่าให้ฟังขณะบันทึกเทปรายการ บางกอกสเตชั่น ที่สตูดิโอมนตรีว่า รู้สึกว่าตัวเองเริ่มทำอะไรไม่รู้ตัว กินยาเยอะโดยไม่รู้ตัว กินยานอนหลับครั้งละ 2-3 แผง

"ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย แค่อยากนอน มันนอนไม่ได้ติดกัน 3-5 วัน ร่างกายง่วงแต่ไม่ยอมหลับ พอคุยกับดร.พงษ์รพี เขาก็รู้ว่าอาการอย่างนี้อันตราย ต้องค้นหาว่าตัวเองต้องการอะไร และแหม่มได้ทราบว่าตัวเองอยากเจอแม่ ที่ต้องตามหาแม่ เพราะมันใช้ชีวิตยาก เราไม่รู้ว่าวันไหนจะทำอะไร มันน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ มันเหงาแทบขาดใจ รู้สึกว่าตัวเองอยู่ไม่ไหว ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าต้องการอะไร รู้แต่ว่าตัวเองรอคอยอะไรบางอย่าง ไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี้ เพราะเราเป็นนักแสดง มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องมาแสดงให้คนเห็น เราเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวที่บ้าน เวลาอยู่คนเดียวมันแย่ มันทรมาน" น.ส.วิชุดากล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาที่บ้านที่ น.ส.วิชุดาใช้ชีวิตอยู่ด้วย ซึ่งเป็นบิดามารดาบุญธรรมทราบเรื่องนี้หรือไม่

แหม่มถึงกับร่ำไห้ พร้อมกับบอกว่า ตนรู้ดีว่าทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้ ที่บ้านจะไม่มีความสุข ซึ่งไม่รู้ว่ากลัวอะไร ทั้งที่ได้ทำทุกอย่างให้ รู้ว่าอย่างไรก็ไม่ทอดทิ้ง ถึงแม้จะเจอพ่อแม่ที่แท้จริงแล้วก็ตาม ซึ่งคนที่บ้านก็ไม่มีความสุข "แหม่มก็เลยเสียสละ ไม่ต้องรู้ แต่การเสียสละมันเจ็บปวดทรมาน ถ้าตายได้โดยไม่ต้องฆ่าตัวตาย แหม่มก็อยากตาย แต่ไม่คิดฆ่าตัวตายนะ เพราะกลัวเจ็บ วันนี้พร้อมที่จะรับผลทุกอย่าง เพราะเรามานั่งคิดว่า 33 ปีแล้ว เป็นผู้ใหญ่พอสมควร เท่าที่จำได้ในชีวิตไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเอง ถ้าพ่อแม่บุญธรรมเขารักเราจริงๆ เขาต้องเห็นใจเรา เขาต้องไม่โกรธ ถ้าจะให้พูดถึงแม่ที่แท้จริง แหม่มเชื่อว่าแม่ยังรักแหม่ม ถึงแม้ว่าแม่จะมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว แต่ก็เชื่อว่าแม่ยังรักแหม่ม และอยากเจอแหม่ม แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่าง ที่แหม่มไม่สามารถพูดตรงนี้ได้ ทำให้แม่ไม่กล้าที่จะมาพบ" แหม่มกล่าว


อย่างไรก็ตาม แหม่มได้ฝากบอกไปถึงแม่ที่แท้จริงว่าอยากให้กล้า เหมือนที่แหม่มกล้าในวันนี้ ตนไม่อยากได้อะไร แค่อยากให้แม่กอดแหม่ม อยากจะบอกแม่ว่าแหม่มไม่โกรธแม่

ทั้งนี้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวแม่แค่ว่าชื่อตุ๊ก ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหน้า เพียงแค่ได้ยินเสียงแม่จากเทปคาสเซ็ท "คือตอนแหม่มอายุ 9 ขวบ ตั้งใจจะส่งเพลงไปประกวดในรายการผึ้งน้อย จึงได้ค้นหาเทปเพื่อที่จะเอามาอัดร้องใส่ประกวด แต่ปรากฏว่าไปเจอเทปอันหนึ่ง เมื่อได้เปิดฟัง เป็นเสียงผู้หญิงบอกว่าชื่อ ตุ๊ก และเป็นแม่ของแหม่ม บอกว่าเขารัก และรู้สึกผิดไปแล้วอยากจะกลับมาหาลูก แต่ตอนนั้นยังเด็ก แหม่มเลยไม่รับรู้อะไร กระทั่งมาออกรายการ เที่ยงวันกันเอง ตอนแหม่มอายุ 17 ปี ซึ่งในรายการต้องพาพ่อกับแม่ไปด้วย ตอนนั้นพี่แซม (ยุรนันท์ ภมรมนตรี) เป็นพิธีกร แซวว่าทำไมหน้าตาไม่เหมือนพ่อแม่ ตอนนั้นพ่อกับแม่จึงบอกว่าแหม่มไม่ใช่ลูกจริงๆ กลางรายการ ยังไงแหม่มขอฝากเบอร์โทรศัพท์ 08-9050-7130 เพื่อให้แม่โทรมาหาแหม่ม" น.ส.วิชุดากล่าวทั้งน้ำตา

ส่วนนักร้องอีกรายที่เงียบหายจากวงการบันเทิงไปนาน ล่าสุด นายประจวบ พิมพ์ทรัพย์ หรือ “แอ๊ด” นักร้องนำวงแบ็คอัพ เจ้าของเพลงปั้นปึง

ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ตีสิบ” โดยมีนางอารี พิมพ์ทรัพย์ มารดา และ น.ส.สายธาร นิยมกาญจน์ หรือ “ต่าย” เพื่อนสนิทมาร่วมรายการด้วย น.ส.สายธาร กล่าวว่า สนิทกับแอ๊ดมานานเกือบ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ทำอัลบั้มอยู่ค่ายนีโอด้วยกัน อาการป่วยเริ่มแรกนั้น ทราบเมื่อให้แอ๊ดมาช่วยสอนหลานร้องเพลงที่บ้าน เมื่อมาถึงก็ขอกินเหล้า เราก็ไปซื้อมาให้กิน กินอยู่ไม่นานก็อาเจียนอย่างหนัก ถามว่าเป็นอะไร เขาก็บอกว่าเป็นโรคกระเพาะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่ออีกเลย


ขณะที่นางอารี กล่าวว่า ก่อนที่จะตัดสินใจพาแอ๊ดเข้าโรงพยาบาล เขาจะตาแข็งตลอดเวลา หูแว่ว แล้วก็เพ้อ บอกแม่ว่ามีคนมายิง ให้หลบ บางทีก็พูดคุยคนเดียว

แม่มาเห็นเขาตอนที่อาการหนักแล้ว เถ้าแก่ที่แอ๊ดร้องเพลงที่ร้านเขาโทรมาหาแม่ บอกให้มารับแอ๊ด เพราะแอ๊ดอาการแย่มากแล้ว ตอนแรกที่พาไปโรงพยาบาลหมอบอกว่าเป็นพิษสุราเรื้อรัง มีอาการสมองฝ่อเพราะพิษเหล้า ต้องส่งเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ซึ่งทางโรงพยาบาลบอกว่าสมองเขาเหมือนคนอายุ 60 ปี จะหลงๆ ลืมๆ บ้าง ถ้าได้รับยาที่ดีก็มีโอกาสฟื้นขึ้นมาถึง 60-70% แม่นักร้องกล่าวอีกว่า แอ๊ดเคยอาละวาดอยากจะออกจากโรงพยาบาล แม่เข้าไปห้าม แอ๊ดเลยจับแม่ฟาดกับกำแพง เป็นแผลต้องเย็บถึง 5 เข็ม อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อาการลูกชายดีขึ้นมาก ย้ายมารักษาตัวที่สถาบันธัญญารักษ์ กำลังอยู่ในขั้นฟื้นฟูจิตใจ อีกไม่นานน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้

ขณะที่นักร้องหนุ่ม ซึ่งเดินทางมาถึงห้องส่งหลังอัดรายการไปสักครู่ ให้สัมภาษณ์พิธีกรว่า เคยมาออกรายการตีสิบนานมาแล้ว

ตอนนั้นมาแลกกันร้องกับคุณอาไวพจน์ เพชรสุพรรณ ร้องเพลงอีลุบตุ๊บป่อง และเมื่อถามว่าเคยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ตอนนั้นป่วยเป็นอะไร แอ๊ดตอบว่า เป็นเพราะกินเหล้าเยอะเกินไป และเมื่อถามว่าตอนนี้ย้ายมาฟื้นฟูที่สถาบันธัญญารักษ์ ทำอะไรบ้างในวันหนึ่งๆ แอ๊ดบอกว่า สวดมนต์ นั่งสมาธิ “ส่วนสาเหตุที่เราป่วยเป็นเพราะกินเหล้าเยอะ แล้วผมไม่ค่อยกินข้าวด้วย ก็เลยทำให้เป็นพิษสุราเรื้อรัง” แอ๊ดกล่าวและว่า สุราเป็นสิ่งไม่ดี อย่าดื่มสุรา ให้หันมาดื่มนมกันดีกว่า


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์