แบรด พิตต์ รับบทหนักเข้าชิงออสการ์ใน Benjamin Button

พระเอกพ่อลูกอ่อน แบรด พิตต์ กลับคืนจอเงินกับบทบาทครั้งสำคัญในชีวิตที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในภาพยนตร์ดราม่าสะเทือนอารมณ์ “The Curious Case of Benjamin Button”(เดอะ คิวเรียส เคส ออฟ เบนจามิน บัททัน)

ว่าด้วยเรื่องของชายที่เกิดมาด้วยวัยแปดสิบและย้อนอายุถอยหลัง เขาก็เหมือนเราทุกคนที่ไม่สามารถหยุดเวลาได้ จากภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของชายผู้ที่ไม่เหมือนคนทั่วไป การค้นพบ และความรักที่ได้พบและสูญเสียไป สีสันความสุขแห่งชีวิตและความโศกเศร้าแห่งความตาย และบางสิ่งที่ยังคงอยู่เหนือกาลเวลา

“The Curious Case of Benjamin Button” สร้างจากเรื่องสั้นของ เอฟ สก๊อต ฟิทซ์เจอราลด์ ที่เขียนขึ้นในปี 1920 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของมาร์ค ทเวน ที่ว่า “ชีวิตน่าจะมีความสุขเหลือล้นถ้าพวกเราเกิดมาที่อายุแปดสิบแล้วค่อยๆ ลดอายุลงมาจนสิบแปด”

เรื่องราวของฟิทซ์เจอราลด์นั้นต้องมีความเข้าใจอย่างยิ่งที่จะมาสร้างเป็นภาพยนตร์ที่สมจริงได้ โปรเจกท์นี้จึงต้องรอกว่า 40 ปีกระทั่งผู้อำนวยการสร้าง แคทเธอรีน เคนเนดี และแฟรงค์ มาร์แชล

อีริค ร็อธ ผู้ที่รับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์กล่าวถึงงานหินครั้งนี้ว่า "ดูผิวเผินแล้ว คุณจะคิดว่ามันคงจะดีจัง แต่มันเป็นชีวิตที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งตัวผมคิดว่ามันมีความประทับใจเกี่ยวกับเรื่องราวนี้นะครับ ถึงแม้ว่าเบนจามินจะมีวัยที่ย้อนกลับ แต่จูบแรกและความรักครั้งแรกยังคงเป็นสิ่งสำคัญและมีความหมายอย่างยิ่งสำหรับตัวเขา มันไม่ได้มีความแตกต่างเลยว่าคุณจะมีชีวิตตามวัย หรือว่าย้อนกลับนะครับ มันก็คือว่าเราจะมีชีวิตอยู่อย่างไรต่างหากครับ”

ในขณะที่สภาพของเบนจามินนั้นแปลกประหลาด การเดินทางได้นำเสนอความรู้สึกที่ซับซ้อนซึ่งเป็นจุดสำคัญในชีวิตของคนทุกคน “มันจะตั้งคำถามหลายข้อที่พวกเราต้องถามตัวเองเมื่อเราต้องผ่านการดำเนินชีวิตของเราครับ” ผู้อำนวยการสร้าง แฟรงค์ มาร์แชล เล่า

“และมันเป็นเรื่องยากที่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะตีแผ่แง่มุมความคิดส่วนบุคคลที่แตกต่างและหลากหลาย ใครที่อายุ 60 หรือ 70 จะมองภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วคิดไปอีกทางหนึ่ง ในขณะที่คนอายุ 20 ก็จะได้แนวคิดของเรื่องนี้ไปอีกทางหนึ่งเลย” 

สำหรับนักแสดง แบรด พิตต์ ที่ต้องรับบท เบนจามิน บัททัน บทบาทครั้งสำคัญครั้งนี้ก็มีผลกระทบกับความคิดและการใช้ชีวิตของเขาไม่น้อยเช่นกัน "ผมเดินออกจากกองถ่ายด้วยมุมมองที่ไม่เหมือนเดิม ผมรู้สึกได้เลยว่าเวลาสั้นนัก ไม่รู้หรอกว่าผมจะมีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้กี่วัน กี่เดือน กี่ปี ไม่รู้ว่าเดินมาถึงครึ่งทางสู่ความตายหรือยัง หรือจวนเจียนจะถึงตรงนั้นแล้ว ไม่รู้หรอกครับ เพราะฉะนั้นผมจะไม่ยอมเสียเวลาไปกับความไร้สาระ ความไม่เป็นสุข ความขมขื่นหรือเกียจคร้านที่รายล้อมตัวผมอยู่เด็ดขาด อีกอย่างคือผมได้อยู่กับคนที่มีความหมายกับผมมากๆ ผมกับ แองเจลินา อยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุขเพราะเราเติมซึ่งกันและกัน และเรายังมีลูกๆ ที่น่ารัก"

นักแสดงหลักอีกคนที่มองข้ามไปไม่ได้ใน "The Curious Case of Benjamin Button" คือ เคท แบลนเชตต์ ที่รับบท เดซี่ ภรรยาของเบนจามิน แบรด กล่าวถึงการโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกว่า "เคท เป็นคนเติมเต็มการแสดงของเราครับ เธอน่ารักเป็นเพื่อนที่ดี เธอเข้าถึงแต่ละซีนได้อย่างที่นักแสดงน้อยคนนักจะทำได้ ผมพบว่าเธอเกิดมาพร้อมกับความสง่างาม ผมชอบที่เธอแสดงเป็นนักเต้น มันเหมาะสมกับเธอมากเพราะมันคือความเป็นเธอ รวมทั้งความสะโอดสะองของเธอด้วย” 

เคท รับบท เดซี่ ที่ได้ใช้ประสบการณ์ที่เธอมีในการเต้นบัลเลต์เมื่อตอนเป็นเด็ก “เมื่อตอนฉันเป็นเด็กฉันทำในสิ่งที่เด็กผู้หญิงต้องทำและยังได้เรียนบัลเลต์ แต่ยังต้องเลือกระหว่างการเต้นกับการเรียนเปียโนค่ะ”

นักแสดงรูปร่างเพรียวเล่า “ฉันเลือกเล่นเปียโนแต่เลิกเล่นเพื่อมาแสดงละคร ฉันชอบการเต้นรำแต่รู้ข้อจำกัดของตัวเองค่ะ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่จะได้กลับไปทำในสิ่งที่ชอบอีกครั้ง”

พบกับบทบาทการแสดงของนักแสดงคุณภาพทั้งสองได้ใน "The Curious Case of Benjamin Button" ที่เข้าฉายแล้วในโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดถึง 13 รางวัล รวมทั้งรางวัลใหญ่อย่างนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีด้วย โดยการประกาศรางวัลออสการ์จะมีขึ้นเช้าวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์นี้