เอส หนุ่มหน้าใส หัวใจธรรมะ


จุดเริ่มต้นในวงการ

เข้าวงการบันเทิงมาได้ยังไง?


“มากับพระเลยครับ (หัวเราะ) เพื่อนของพี่เอ-ศุภชัย ที่ชื่อพี่เดย์ ไปเจอผมที่วัดซึ่งผมกำลังไปจัดงานทำบุญ กับเพื่อน ๆ ที่วัด อยู่ ๆ มาขอถ่ายรูปไปเลยเป็นเหตุให้ได้มารู้จักพี่เอ แล้วก็ได้คุยชวนไปเจอ เราตัดสินใจอยู่นานกว่าจะไป พอไปเจอวันแรกก็ 4 ทุ่มกว่ากำลังพาน้องมาริโอ้ไปถ่ายละครในซอยที่มืดมาก ต้องใช้วิธีผมยืนตรงกลางแล้วเอารถสองคันมาเปิดไฟซ้ายขวาเข้าหน้าเพื่อให้พี่เอได้เห็นหน้า (หัวเราะ) พี่เอไม่ได้นอนมา 3 คืนตาแกมองไม่เห็นเลยบอกให้ผมมาเจออีกทีสว่าง ๆ (หัวเราะ) และพอได้เจออีกที พี่เอก็ผลักดันให้ได้เข้ามาในวงการ”

ประเดิมละครเรื่องแรกคือเรื่องอะไร?

“เรื่องคุณชายตำระเบิดกับน้องน้ำหวาน-กรรณาภรณ์ พวงทอง เป็นคู่สองให้เราได้ปรับตัวก่อน จากวันนั้นถึงวันนี้เรายังพยายามพัฒนาตัวเองตลอด ไม่เคยคิดว่าเราเล่นดีแล้วหรืออะไร คิดแค่ว่าต้องพัฒนาเรื่อย ๆ เพราะทุกบทบาทที่ได้รับต้องไปหาครูสอนการแสดงทุกครั้งครับ”

ชีวิตที่เข้ามาอยู่ในวงการต้องปรับตัวยังไงบ้าง?

“ปกติเป็นคนใช้ชีวิตแนวสันโดษอยู่แล้วครับ ชอบสงบ ๆ ผมชอบไปวิปัสสนาที่วัดจะไม่ค่อยมีปัญหาในการปรับตัวเพราะสถานที่ที่ไปไม่ค่อยเจอคน ผมชอบไปสวนสาธารณะ ไปเล่นเรือใบ ยิงปืน เป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวเลยไม่ค่อยมีปัญหาในการปรับตัวนะครับ ส่วนเพื่อน ๆในวงการก็รู้จักตามการทำงาน แต่กิจกรรมที่ทำจะได้อยู่กับตัวเองเป็นหลักครับ”


เอส หนุ่มหน้าใส หัวใจธรรมะ


“เป้าหมาย”

ความคาดหวังในวงการล่ะ เพราะวงการนี้เด็กรุ่นใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ?

“ผมรู้สึกแค่ว่าต้องทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดนะครับ การที่มีเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ เข้ามาดีอยู่แล้วครับ แต่เราต้องพัฒนาฝีมือเราตลอดเวลา ผมไม่ได้เลือกบทไม่ว่าคู่สองหรือคู่ที่หนึ่ง แล้วแต่ผู้ใหญ่ทางช่องเห็นความเหมาะสมว่าเราเหมาะกับบทแบบไหน เราเชื่อในวิสัยทัศน์ของผู้ใหญ่ที่อยู่วงการมานานต้องมองได้ขาดกว่าเราอยู่แล้ว”

เป้าหมายสูง สุดในวงการ?

“คงเป็นการแสดงที่ทำให้แฟน ๆ จด จำบทบาทในละครได้อยากให้แฟน ๆ เจอหน้าเราแล้วเรียกชื่อเราในละคร ซึ่งตอนนี้ก็มีแฟน ๆ จำได้เรียกชื่อในละคร เราก็รู้สึกประทับใจที่จำเราได้ เพราะผมรู้สึกว่าการที่เราเล่นละครคือการที่ต้องเปลี่ยนเป็นตัวละครนั้น ๆ เลย”

ชีวิต ตัวตน ครอบครัว

ตัวตนจริง ๆ ธรรมะ ธัมโมมั้ย เห็นเราชอบที่จะเข้าวัดเข้าวา?


“ขนาดเข้าวงการมาก็ยังมากับพระเลยครับ (หัวเราะ) เพราะเราศึกษาธรรมะมาตั้งแต่เด็ก ๆ ไงครับ พอโตมาเลยทำให้ไลฟ์สไตล์เรามาทางสันโดษครับ ผมเป็นคนกรุงเทพฯ มีพี่น้องสองคน ผมเป็นคนโต มีน้องชายอีกคน ครอบครัวผมรักกันดีนะ คุณพ่อเลี้ยงมาโดยให้อิสระผม ก่อนเข้าวงการผมก็ทำงานมาก่อนเป็นธุรกิจส่วนตัว

พอมีโอกาสตรงนี้รู้สึกเป็นช่วงที่เหมาะ เป็นสิ่งที่เรารักอยู่แล้ว ผมชอบดูหนัง ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรักในการมาเป็นนักแสดงแต่แค่รักในการที่จะดูหนังและรู้สึกว่าเราชอบตัวละครนี้ แค่รู้สึกว่าวันนึงถ้ามีโอกาสถ่ายทอดก็อยากทำหนังหรืออะไรดี ๆ ให้คนได้เห็นมุมมองของตัวละครที่สร้างชีวิตเราเพราะหลายอย่างแง่คิดในชีวิตผมก็มาจากหนังที่ดี ๆ ครับ”

ดูเราเป็นผู้ใหญ่โตมากเกินอายุ?

“ผมเพิ่งอายุ 26 แต่ผมทำงานมาตั้งแต่เรียนเอแบคคณะบริหารธุรกิจ แล้วเราก็เป็นประ ธานชมรมธุรกิจของมหาวิทยาลัยด้วยแล้วก็ทำธุรกิจจริง ๆ ที่ทำกับทางมหาวิทยาลัย พอเข้า
มาวงการก็ให้เพื่อน ทำแทน เราก็มาทุ่มตรงนี้แทน แต่อนาคตก็จะกลับไปมองไลน์ธุรกิจเหมือนกันครับ”


เอส หนุ่มหน้าใส หัวใจธรรมะ


ความรัก

หัวใจตอนนี้มีคนจับจองหรือยัง เพราะมีข่าวกับ ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ด้วย?

“ยังดูไปก่อนครับ ชีวิตเราเป็นแบบนี้เลยไม่ใช่คนแสวงหาเรื่องคู่ครอง ตัวน้องเขาก็ไม่ใช่คนแสวงหาเหมือนกัน เราแค่รู้สึกว่าต้องการคนที่เข้าใจกันก็ต้องดูไปว่าจะใช่หรือเปล่า ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อน พี่ น้อง มีอะไรก็ให้คำปรึกษากัน เพราะความคิดน้องเขาบางครั้งเป็นผู้ใหญ่กว่าผมมาก สอนผมได้ในบางเรื่อง ทั้งที่เวลาเราจะปรึกษาใครส่วนมากก็เป็นผู้ใหญ่ซะมากกว่า ก็ถือว่าโชคดีที่ได้ทำความรู้จักกัน ถามว่าสนิทมั้ยผมถือว่าผมสนิทกับน้องเขาที่สุดแล้วครับ”.

อรุณรัตน์ เศรษฐพูธ์ รายงาน


เอส หนุ่มหน้าใส หัวใจธรรมะ


เอส หนุ่มหน้าใส หัวใจธรรมะ


เอส หนุ่มหน้าใส หัวใจธรรมะ


เอส หนุ่มหน้าใส หัวใจธรรมะ

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์