เสี่ยเจียงให้อภัยจา พนมรักดั่งลูกชาย

"เสี่ยเจียง" เผยให้อภัย “จา” เสมือนลูกชายคนหนึ่ง โต้ฟ้องร้องถือว่าเปล่าประโยชน์ไม่คุ้มกับความเสียหาย เผยเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแค่การเข้าใจผิดเรื่องงบประมาณ ยันแก้วร้าวสามารถประสานต่อได้ เป็นไปไม่ได้หากมีการฉีกสัญญาทิ้ง

หลังจากพระเอกนักบู๊ "จา พนม ยีรัมย์" ที่ตอนนี้ได้หายตัวลึกลับ คงเป็นการเข้าใจผิดในเรื่องงบประมาณ ล่าสุด นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสิรฐ หรือ "เสี่ยเจียง"ประธานกรรมการบริหารบริษัท สหมลคงฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้มีการจัดแถลงข่าว ณ หน้าโรงภาพยนตร์ "เฮ้าส์" อาร์ซีเอ เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 25 กรกฎาคม 2551




โดย“เสี่ยเจียง” ชี้แจงการเข้าใจผิดเรื่องงบประมาณ220 กว่าล้าน กล่าวว่า

“เนื่องจากงบประมาณในการทำภาพยนตร์ จะแบ่งตัวเลขเงินทุนเป็นสองประเภท คือ

1.เป็นเงินสดที่จ่ายยออกไปแต่ละครั้ง

2.เป็นเรื่องของเครดิต ซึ่งจะใช้ในส่วนของค่าเช่าอุปกรณ์ และการซื้อฟิล์ม

จาอาจจะเข้าใจผิด คิดถึงแต่เงินสดที่จ่ายออกไปหน้ากองเท่านั้น ตัวเลขจึงไม่ตรงกัน เรื่องนี้ขอเงินผมถ่ายทำ198 ล้าน ผมก็เซ็นให้ 198 ล้านพอถ่ายทำไปได้สักพัก ช่วงนั้นผมไม่สบายนอนอยู่โรงพยาบาล เขาก็มาขอคบเพิ่ม ผมก็ให้เขา 200 กว่าล้าน แล้วก็เลยมีเรื่องครั้งขึ้นอีกโดยเขามาขออีก 230 กว่าล้าน ผมก็ทุ่มเท่าไหร่ผมก็ยอม เพราะเรายอมจ่ายเงินไปแล้ว เราไม่เคยทำหนังไม่ดีเลย บริษัทไม่เคยสร้างหนังไม่ดี ถ้าคนสร้างทำหนังไม่ดี เราก็ให้เอากลับไปแก้ใหม่”เสี่ยเจียงกล่าว

ผมไม่อยากให้หนังเรื่องหยุด อยากให้กองถ่ายเรื่องนี้ถ่ายทุกวัน

ถ้าเราจ่ายเงินไปแล้วแต่บอกว่าเงินหมดแสดงว่าฝ่ายบัญชีมันโกง เขาเป็นจ่ายเงินตามบัญชี ให้ดูตามแบบที่ออกไปทุกสตางค์ที่ออกไปหลังจากที่เข้าบัญชีจา เป็นบัญชีส่วนตัว บัญชีพ่อเขาซื้ออะไรทุกอย่างมีหลักฐานหมด เราไม่ใช่ว่าไม่มีหลักฐาน เราไม่มีปัญหาอะไรเป็นการเข้าใจผิดของเขา ถ้าจาพูดอย่างนี้แสดงว่าเกิดการเข้าใจผิด ก็อยากให้เคลียร์ให้เขามาถ่ายต่ออีก เตรียมเงินให้พร้อมถ่ายไปเถอะนะ จะมีเงินถ่าย เพราะหนังเรื่องนี้ต้องถ่ายทุกฉาก”


แก้วเริ่มจะร้าวแล้ว อย่างนี้จะประสานให้ต่อกันอย่างไร

“มันเป็นลูกชายผม ผมจะให้ผมไปฟ้องจาก็เปล่าประโยชน์ อยู่ด้วยกันมาแค่นี้ก็หายไป ก็แล้วแต่มันถ้ามันจะกลับมาเล่นต่อผมให้อภัยจาตลอดเวลา ผมอยากจะให้ถ่ายเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้น เขาบอกว่าเขารักหนังเรื่องนี้มาก ผมจะขอให้จริงเถอะ แล้วเรื่องความเสียหายผมไม่ยากพูดถึงจะไปฟ้องก่อนเปล่าประโยชน์ นี้มีคนซื้อหนังก่อนที่หนังจะถ่ายทำ โดยมีกำหนดว่าจะต้องสร้างให้เสร็จ ถ้าผมไม่ยอมคืนเงินเขาไป บริษัทผมก็ต้องเสียชื่อ ส่งเองนี้ไปสร้างที่เมืองคานส์ โดยภาพรวมผมอยากให้หนังออกมาดี ผมขอให้หนังไปโกอินเตอร์ วันจันทร์นี้ผมส่งให้ถ่ายทำหนังต่อ ทุกอย่างจะต้องถ่ายถ้าเขากลับมาทำงานผมก็ให้เขากลับเพราะผมเป็นคนให้อภัยคน สบายคนกันเองคุยกันได้ถ้าคนของผมตั้งใจทำงานจริง ถ้าทำหนังดีคุณคิดว่าจะใช้เงินแค่ 10 ล้านหรอ องค์บาทเรื่องแรกใช้เงิน 36 ล้าน ผมจำได้

ถ้าหากจา พนมจะฉีกสัญญาทิ้งจะเป็นไปได้มั๊ย

คงเป็นไปไม่ได้ เพราะทำสัญญา 10 ปี แล้วจะไปทำงานกับคนอื่นมีปัญหา เขาเคยมาบอกผมว่าถ้าจบหนังเรื่องนี้ เขาจะไปบวช จะไปเลี้ยงช้างที่บ้านพ่อ ผมก็บอกว่าดี ถ้ามันจะไปเลี้ยงช้างผมจะเบิกเงินให้มันใช้ทุกเดือน ไม่เล่นหนังก็ไม่ว่า แต่ถ้าไปเล่นหนังกับคนอื่นไม่ได้ บริษัทเสียหาย” เสี่ยเจียงกล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี INN NEWS


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์