เสี่ยอู๊ดเปิดใจ!! ผมไม่จำเป็นต้องโฆษณาความดีตัวเอง

ชื่อของสิทธิกร บุญฉิม หรือ "เสี่ยอู๊ด" ตกเป็นข่าวครึกโครมขึ้นอีกครั้ง กรณีสร้างพระเครื่องรุ่นดัง ด้วยข้อกล่าวหาโฆษณาเกินจริง และฉ้อโกงประชาชน กระทั่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรวบตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ จนเจ้าตัวไม่ได้บินไปพักผ่อนที่ประเทญี่ปุ่นช่วงก่อนปีใหม่ เวลานั้นทั้งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เร่งสอบปากคำและหาหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมๆ กับปิดช่องทางการเช่าพระ จากนั้นเสี่ยอู๊ด ก็เงียบหายไป...
 

วันนี้เสี่ยอู๊ด ยอมเปิดใจให้สัมภาษณ์ในทุกแง่มุมของชีวิต ปูมเหตุที่ส่งผลให้เขาพบวิบากกรรมครั้งนี้... ทุกคำถามที่อยากรู้
 

0จริงๆ ตัวตนเสี่ยอู๊ดเป็นคนยังไง
 

คนทุกคนไม่มีใครอยากเป็นคนชั่วคนทุกคนอยากเป็นคนดี คนทุกคนอยากจะทำดี แต่สิ่งที่ตัวเองทำนั้นยากที่จะให้คนทุกคนตอบได้ว่า เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี ถูกหรือไม่ถูก เพราะบางครั้งถูกใจ แต่อาจจะไม่ถูกต้อง บางครั้งถูกต้อง แต่ก็อาจจะไม่ถูกใจคน มันเป็นธรรมชาติ เราเกิดมาเป็นสัตว์โลก สำหรับตัวเองสิ่งใดถ้าคิดว่าดีจะทำทันทีไม่สนใจใคร
 

0คิดว่าพื้นฐานเราคิดดี ทำดีแล้วใช่ไหม
 

ไม่ๆๆไม่ใช่ว่าพื้นฐานเป็นคนที่มีความคิดดี สำหรับพื้นฐานผมไม่ว่าจะคิดอะไร ทำอะไร จะยึดตามหลักและแก่นตามคำสอนในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ยึดตาม ระบบ ระบอบ ระเบียบ คำสั่ง หรือคำสอน ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ยึดตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา เช่น พระพุทธศาสนาบอกว่า ทำความดี, ละเว้นความชั่ว, ทำใจให้บริสุทธิ์ เกิดเรื่องครั้งนี้ผมว่าตัวผมสอบผ่านแล้ว เพราะผลคือ 

1.ได้ทำความดี ก็ผมตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่ดีของผม 
2.ละเว้นความชั่ว ผมรู้มาก่อนหน้าว่าใครคิดร้ายหรือจะทำอะไรกับผม หรือหลังเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ผมก็ไม่ทำร้ายและไม่คิดร้ายกับเขา 
3.ทำใจให้บริสุทธิ์ แม้นเกิดเรื่องใหญ่โต จิตใจยังปิ๊งทุกวัน (หัวเราะ) ยังร่าเริงทุกวัน แล้วดีใจด้วยซ้ำกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นไปตามที่คาดไว้



0สรุปตอนนี้โดดเดี่ยวคนเดียว
 

เรามั่นใจในสิ่งที่ทำเพราะก่อนทำเราวิเคราะห์แล้ว ว่าเรายืนพื้นอยู่บนความจริง แต่บางครั้งมันอาจจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้องตามระบอบ ระเบียบ หรือเปล่า เราก็ยากที่จะไปชี้ได้ เพราะว่าโดยพื้นส่วนตัวแล้ว เป็นคนมีการศึกษาน้อย เมื่อมีการศึกษาน้อย ในเรื่องของระเบียบ ระบบ และกฎหมายก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร แต่ความจริงก็คือ คิดในเรื่องที่ดีและเป็นจริงนะ คิดจะทำอะไรต้องคิดว่าสิ่งนั้นสามารถทำได้จริง พูดก็พูดแต่เรื่องจริง พูดจริงหมายความว่า พูดแล้วต้องเป็นไปตามคำพูด ทำก็ทำจริง คือตั้งหน้าตั้งตาทำ ทำให้มันสำเร็จ ทำให้มันดีที่สุด ผลงานมันถึงได้ดังตูมๆ เพราะว่ามันตั้งใจทำมากเกินไป คนเลยหมั่นไส้(หัวเราะ)
 

0 แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น เรียกวิบากกรรมหรือเปล่า
 

ยกตัวอย่างนะ(นิ่งคิด) ถ้าคิดจะขุดลอกคูคลอง แล้วเราจะไปกลัวทำไมว่าจะเปื้อนดินโคลน เปื้อนขี้เลน แม่บ้านเข้าครัวทำอาหาร กลิ่นตัวก็ต้องเหม็น แต่คนอื่นไม่รู้ รู้แต่ว่าอาหารอร่อย ไม่มีใครคิดว่าแม่ครัวต้องคอยไล่แมลงวัน ไล่แมว ไล่หมา คอยไล่คนที่จะมาหยิบฉกชิ้นพุงปลาไปกินก่อน ซึ่งทั้งคน ทั้งหมู หมา แมว ก็รังเกียจแม่ครัว เพราะอะไร เพราะแม่ครัวปกป้องพุงปลา ผลประโยชน์คือ ปลาในจาน เพื่อเอาปลาในจานนั้นขึ้นไปเสิร์ฟบนโต๊ะอย่างบริบูรณ์และสมบูรณ์ที่สุด คนกินก็กินอย่างสมบูรณ์ จนลืมคิดไปว่า แม่ครัวต้องฝ่าวิบากกรรมขนาดหนัก ไอ้พวกที่ไม่ชอบแม่ครัวก็หาวิธีเล่นงานแม่ครัว เพราะแม่ครัวไม่ให้มันกิน แต่คนกินชิ้นปลาอร่อยลืมนึกถึงตรงจุดนี้ 

เชื่อคนโน้นคนนี้ว่าแม่ครัวคนนี้ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ สุดท้ายอนาคตตัวเขาเอง จะไม่ได้กินอาหารจานเด็ดจากแม่ครัวนี้อีกเลย ถึงจะได้กินพุงปลาก็อยู่ไม่ครบ (หัวเราะ) ผมทำงานใหญ่ให้มูลนิธิฯ ก็ต้องมีคนอยากได้ประโยชน์บ้างธรรมดา พอเขาไม่ได้เขาคงไม่ชมผมหรอก
 

0เรียกว่าดังทะลุปรี๊ดแตกทั้งวงการบันเทิง และวงการพระเครื่อง
  

ปรี๊ดแตกเหรอ(หัวเราะ) จริงๆ เคยสังเกตดูว่าหนังสือพิมพ์เนี่ยนะ ถ้าจะจับกลุ่มลูกค้าเขาก็จะเอาลูกค้าระดับชาวบ้าน ทีนี้สิ่งที่จะน่าสนใจก็มีเรื่องของชาวบ้าน เรื่องของสวย ๆ งามๆ เรื่องของสังคมดาราที่ชาวบ้านชอบ อีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา เรื่องของมูลค่า ของสะสม ของรักของหวง มันก็กลายเป็นพวกพระเครื่องซะ นี่คือจุดที่เป็นพื้นฐานของสังคมของนิสัยคนไทยที่ชอบ เพราะฉะนั้นข่าวสองวงการนี้จะครองตลาด จะเน้นข่าวเศรษฐกิจนักก็ไม่ได้ เพราะว่าคนรวยมีกลุ่มน้อย ข่าวการเมืองก็ของไม่แน่ ชาวบ้านพูดการเมืองแต่ไม่ได้เล่นการเมือง ชาวบ้านพูดเรื่องพระเครื่อง แต่เขามีพระเครื่องเก็บ ชาวบ้านพูดเรื่องดารา อย่างน้อยก็มีโทรทัศน์ดู เขาชื่นชอบดารา คลั่งไคล้ดารา ฉะนั้น 2 ข่าวนี้จึงเป็นจุดสนใจของกระแสความเคลื่อนไหวของสังคมไทย แล้วผมไปเกี่ยวข้องกับ 2 วงการ 2 กระแสนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการเป็นข่าวดัง



0แล้วถ้ามีคนพูดกับเราว่าหากินกับพระเครื่องจะโกรธไหม
 

มันเป็นสิ่งที่สุจริตโดยชอบธรรมไม่ผิดหรอก ผมพูดเอง ที่ว่าไม่ผิดเพราะอะไร เพราะไม่ได้ไปขโมยเขามานี่ ไม่ได้ไปปล้นเขามา ไม่ได้ไปโกง การทำ ทำโดยสมยอม ส่วนใหญ่ผมทำเฉพาะองค์กรการกุศลมากกว่า กับพระเจ้าไม่ค่อยทำ ถ้าทำก็เป็นงานช่วย เช่นงานนี้ก็ช่วย เพราะทำบุญ ถ้าคนบอกว่า ผมไปหากินกับการสร้างพระ แล้วทำไมองค์กรการกุศลยังชอบว่าจ้างให้ผมทำล่ะ ถ้าจะบอกว่าผมผิด คนที่ให้ผมทำนั่นผิดก่อนเลยล่ะมั้ง
 

0แปลว่าทุกคนเชื่อมือในการสร้าง และเชื่อในแผนโฆษณา
 

เชื่อคำว่าเชื่อแปลมาจากคำว่า ศรัทธา ถ้าเขาเชื่อผมก็แปลว่าเขาศรัทธาผม การเชื่อในคำจำกัดความของผมที่ใช้สอนคน และยึดมาในการดำรงชีวิต มี 3 เชื่อคือ 1.คำพูดเราต้องทำให้คนอื่นเชื่อถือเราให้ได้ 2.การงานของเราต้องทำให้คนอื่นเชื่อมือเราให้ได้ และ 3.นิสัยเราต้องทำให้คนอื่นเชื่อใจเราให้ได้  เชื่อถือก็หมายถึง คำพูดเรา พูดอะไรแล้วคนเชื่อถือว่าเป็นจริง เชื่อมือก็หมายความว่า ให้เราทำแล้วสำเร็จ มันดี มันยิ่งใหญ่ สุดท้ายคือเชื่อใจ คือไว้ใจว่าเราไม่โกงเขาแน่
 

0เส้นแบ่งของคำว่าโฆษณากับโฆษณาเกินจริง อยู่ตรงไหน
 

ที่เขาบอกว่าเกินจริง แล้วเขารู้หรือเปล่าว่าความจริงคืออะไร ถ้ายังไม่รู้ความจริง ยังไม่รู้ความกระจ่างของความเป็นจริง แล้วจะมาพูดได้ยังไงว่าเกินจริง... มีใครเคยเห็นผมทำโฆษณาประชาสัมพันธ์พระเครื่องว่า รุ่นนี้มีอิทธิปาฏิหาริย์ เหาะเหิน เดินอากาศได้ ยิงไม่เข้า ฟันไม่ออก ห้อยแล้วรวยเป็นเศรษฐีร้อยล้าน พันล้าน โคตรรวย โคตรเศรษฐี มหาเศรษฐี มีไหม? แต่ผมโฆษณาชวนเชื่อให้เขาคล้อยตามกับสิ่งที่ผมจะแฝงไว้เป็นปริศนาธรรม นำธรรมะ นำหลักธรรม คำสั่งสอน นำสิ่งที่ดีๆ ที่จะเป็นคติสอนใจ เป็นหลักที่ดีที่จะยึดไว้ในการดำรงค์ชีวิตให้เขาเชื่อตรงนี้ ดีกว่าให้เขาเชื่อว่าห้อยไว้จะรวยแสนล้านพันล้าน ห้อยแล้วฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก ห้อยแล้วหนังเหนียว ผมไม่อยากให้บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ไปสนับสนุนการสร้างวัตถุมงคล ที่อ้างว่าเหาะเหินเดินอากาศ ห้อยแล้วรวยเป็นเศรษฐีหมื่นล้านพันล้าน ผมไม่อยากให้บรรณาธิการทั้งหมดโง่เหมือนคนสร้าง หรือไปสนับสนุนให้คนอ่านคนเช่าโง่กันทั้งประเทศ



0ตั้งแต่สร้างมารุ่นไหนที่ดังที่สุด
 

รุ่นใหญ่ที่ผมทั้งหมดไม่เคยมีรุ่นไหนปีไหนไม่ประสบความสำเร็จ เวลาคิดให้คิดอย่างเด็กเวลาทำให้ทำอย่างผู้ใหญ่ แต่คนส่วนใหญ่มักจะเป็นย้อนกันไอ้ผู้ใหญ่จะคิดแบบเด็ก ไอ้ที่เด็กก็อยากจะทำแบบผู้ใหญ่ เด็กทำแบบผู้ใหญ่ก็จะเกินตัวจะทำไม่สำเร็จ เหมือนเด็กยกตุ่มน้ำ ส่วนผู้ใหญ่ก็จะคิดแบบเด็ก คิดติงต๊อง ไม่เหมาะสม แต่ถ้าเรานำทั้งสองอย่างมารวมกัน คือคิดอย่างเด็ก มีจินตนาการยิ่งใหญ่ ส่วนผู้ใหญ่เมื่อวุฒิภาวะเขาใหญ่ เขาต้องรับผิดชอบเขาก็ต้องทำให้สำเร็จ และเขามีความระแวดระวัง มีการบริหารความเสี่ยงให้ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อทำอย่างผู้ใหญ่ก็จะต้องให้มีความเสี่ยงน้อย มีความรับผิดชอบสูง และก็ต้องทำให้สำเร็จ เพราะฉะนั้นผมมีความคิดใฝ่ฝัน หรือวาดฝันมาตั้งแต่เด็กและก็ยังวาดฝันอยู่ทุกวันนี้ และความฝันที่ผมคิดก็ต้องเป็นความจริง ทำจริงเหมือนผู้ใหญ่ ความฝันของวันนี้เกิดเป็นรูปธรรมนับพันล้านแล้ว
 

0พูดเป็นรุ่นๆได้ไหมว่ามีรุ่นไหนที่ประสบความสำเร็จบ้าง
 

รุ่นใหญ่ทุกรุ่นสำเร็จหมดสำเร็จข้อที่ 1 คือ วัตถุประสงค์สำเร็จ ได้สาธารณูประโยชน์ สาธารณูปการ สาธารณสถาน องค์กรการกุศลและศาสนสถานอย่างเป็นรูปธรรมทุกครั้ง สำเร็จ 2 คือ เป็นที่กล่าวขาน โด่งดังอยู่ในจิตใจของคนไทยชาวพุทธ ผู้ที่สะสมและนิยมพระเครื่อง สำเร็จที่ 3 คือ รายได้ที่เป็นผลแห่งความสำเร็จจากการทำได้รับความสนใจแล้ว คือเพระเขาสนใจ เขาไม่ชอบบูชาถือว่าไม่สำเร็จนะ แต่อันนี้เขาชอบและเขาเช่าด้วย ถ้าชอบแต่ไม่เช่านี่แย่
 

ขยายความสำเร็จที่3 คือมีคนเช่า เหมือนพระสมเด็จ 5 สีรุ่นดังนี้ที่ทำอยู่ ถึงข่าวจะครึกโครมแต่แปลกคนเช่าเป็นแสนคน แต่คนที่มาคืนเพราะกระแสมีแค่หลักสิบ แต่คนอีกเป็นแสนไม่ยอมคืน และมีคนอีกหลายพันคนที่พยายามติดต่อขอเช่าบูชากัน เหตุเพราะกลัวว่าหลังจากเกิดข่าวทั้งหมดนี้แล้วพระจะถูกเรียกเก็บกลับคืนไม่มีการเปิดให้เช่าบูชาอีก และกลัวกันว่า พระรุ่นนี้จะสูญหายหมด จึงมีการที่จะเช่าเพิ่มเป็นจำนวนมาก สำหรับตอนนี้ปิดให้บูชาหมดแล้ว มีคนโทรมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ให้เช่า
 

0ตอนนี้ยอดจองเท่าไรแล้ว

ผมไม่รู้ตัวเลขชัดเจนเพราะผมยังไม่ได้รับปัจจัยหรือเงินจำนวนนั้นมาทั้งหมด คือถ้าได้รับมาแล้วเงินนั้นก็ต้องนำมาเป็นเงินทุนค่าใช้จ่าย เพราะบอกแล้วว่างานนี้เป็นงานบุญ เราช่วยมูลนิธิ ช่วยหลวงพ่อวัดสุทัศน์ เราออกเงินให้แทนก่อน ส่วนที่เหลือจากค่าใช้จ่ายก็ต้องบริจาคไป และส่วนตัวเราจะสมบทเท่าไรก็แล้วแต่ตัวเรา แต่ในส่วนที่ให้เช่าบูชาในส่วนหนึ่งเขาก็ไม่ได้หักค่าใช้จ่าย ส่วนนั้นก็เอาไปเพื่อทำการสร้างที่เขากำหนดวัตถุประสงค์ไว้



0ตั้งไว้ 300 ล้าน
 

ไม่จริงๆเวลาผมทำงานใหญ่ผมต้องตั้งเป้าไว้ให้ได้เกินกว่านั้น 3 เท่า ไม่เคยมีสิ่งก่อสร้างใดที่ใช้เงินสร้างต่ำกว่าเป้าสักที อันนี้เป็นเรื่องที่ 1 เรื่องที่ 2 เวลาสร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆ โตๆ ดูสวยงาม แต่หลังจากนั้น 5-10 ปีปัญหาไม่มีเงินบูรณะบำรุงรักษาดูแล เพราะฉะนั้นผมต้องการทำครั้งเดียวให้มันแล้วเสร็จ ไม่ได้กำหนดไว้ว่าเท่าไร แต่ต้องการทำให้ดีให้ได้มากที่สุด แล้วก็ต้องการให้เป็นบุญสุดๆ เพราะครั้งนี้ถือว่าทำบุญใหญ่ถวายผู้มีพระคุณ
 

0เมื่อเป็นข่าวแล้ว ไม่ประสบความสำเร็จ...

ใครบอกยังไม่ใช่ ผมยังพูดไม่ได้ สิ่งที่คนมองว่ามันไม่ประสบความสำเร็จตรงไหนล่ะที่ว่าไม่สำเร็จ ไม่ใช่คนไม่กล้าเช่า แต่หาเช่าบูชาไม่ได้ ตอนนี้มีคนต้องการมาก แต่แรกๆ คนทั่วไปอาจจะไม่รู้ คนที่อยากได้ก็เป็นพวกเสือนอนหลับ พอเป็นข่าวก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะว่าข่าวมันดัง คราวนี้อยากได้กันใหญ่ พระจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ข่าว อยู่ที่พุทธคุณพิธีกรรม อยู่ที่มวลสารแห่งเนื้ออนุมูลขององค์พระที่มาจากมวลสารเป็นหมื่นๆชนิดทั่วแผ่นดิน
 

0ต่อไปต้องระวังตัวมากขึ้นหรือเปล่า
 

ใจจริงไม่อยากรับงานใหญ่ทำให้ใครแล้ว เพราะวางแผนไว้ว่าหลังจากงานนี้เสร็จอยากจะอยู่แบบเงียบๆ ใช้ชีวิตให้มีความสุขตามอำเภอใจ แล้วก็เสียสละส่วนหนึ่งของชีวิตอุทิศให้กับบ้านเกิดที่จ.ระยอง ในเรื่องของการส่งเสริมการศึกษาและสงเคราะห์งานพระพุทธศาสนาในบ้านเกิด แล้วก็อยากจะอุทิศสติปัญญา แรงกาย แรงใจในการช่วยองค์กรต่างๆทางการกุศล หรือวัดวาอารามทั่วประเทศ ที่จะหาเงินต่างๆในการสร้างพระเครื่องที่มีแก่นสารดีๆ วัตถุประสงค์ที่ดี อยากจะไปช่วยเขาฟรีๆ ทีแรกตั้งเป้าไว้ว่าสร้างพระสมเด็จ ครั้งนี้เสร็จก็จะถอย เพราะถือว่าได้ทำสิ่งที่ตั้งเป้าไว้สูงสุดเสร็จแล้วคือสร้างอุโบสถถวายให้กับผู้ที่มีพระคุณ
 

0คิดอย่างนี้ก่อนที่จะมีข่าวหรือ

ผู้ใหญ่ท่านก็รู้ เตรียมการไว้เรียบร้อยจึงทำผลงานไว้เต็มที่ ทำแล้วมอบถวายให้เต็มที่ ท่านอยากจะสร้างอะไรก็จะได้ให้เรียบร้อย เราก็ไปตามทางของเรา 



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์