เวียร์ ศุกลวัฒน์ เป็นดาราไม่ง่ายอย่างที่คิด

"แค่เรื่องแรกก็แจ้งเกิดแล้ว"

เพียงแค่เล่นละครเรื่องแรก "พลิกดินสู่ดาว" ชื่อของพระเอกหน้าใหม่อย่าง "เวียร์" ศุกลวัฒน์ คณารศ ก็แจ้งเกิดขึ้นในทำเนียบทันที ระยะเวลาการก้าวเข้าสู่วงการเพียงไม่เท่าไร วันนี้หนุ่มหล่อเมืองขอนแก่น

มีผลงานละครออกมาให้ได้ชมแล้วถึง 3 เรื่องด้วยกันคือ พลิกดินสู่ดาว สายน้ำสามชีวิต และ ภารกิจพิชิตดอกฟ้า ซึ่งกำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ทางช่อง 7 สี

แรงขนาดนี้ ถูกพูดถึงว่าเป็นลูกรักเบอร์ใหม่ประจำวิกหมอชิตอีกด้วย เพื่อเป็นการไม่ตกกระแส "คม ชัด ลึก" ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ พูดคุยกับ "เวียร์" ศุกลวัฒน์ ในฐานะพระเอกเบอร์ใหม่ ออกสตาร์ททำความรู้จักกับหนุ่มคนนี้กันเลยดีกว่า

กว่าจะมาเป็น "ดาว"

เสียงตอบรับจาก "ภารกิจพิชิตดอกฟ้า" เป็นอย่างไรบ้าง

คาแรคเตอร์จะออกแนวบ้านๆ ตอนนี้เวลาไปซื้อของที่ไหน ก็จะถูกแซวว่า "ซื้ออะไรจ๊ะ" มีคำว่า จ๊ะ ตลอด กับบท สมสนุก ที่ได้รับสนุกดีนะ จริงๆ มันก็ไม่ต่างกับบุคลิกเวียร์มาก เพราะตัวเวียร์เองก็จะไม่ใช่คนเฮ้วอะไร จะออกแนวบ้านๆ แบบ สมสนุก เพราะเป็นคนต่างจังหวัดเหมือนกัน

จากเรื่องแรก พลิกดินฯ จนมาถึงเรื่องล่าสุด ภารกิจฯ มองว่าตัวเองมีพัฒนาการทางด้านการแสดงมากขึ้นแค่ไหน

จริงๆ ก็ดีขึ้นในเรื่องของประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแอ็คติ้ง มุมกล้อง ไดอะล็อก ดีขึ้น เวียร์ว่ามันดีอย่างหนึ่งที่ได้เล่นละครกับ วิน (ธาวิน เยาวพลกุล) ทำให้ทำงานสบายขึ้น หลังจากได้เรียนรู้อะไรมามากขึ้นแล้ว ไม่ตื่นเต้นเหมือนตอนแรกๆ ที่เล่น ก่อนหน้านี้ก็ได้เรียนการแสดงมาบ้าง แต่พอสักพักหนึ่งก็หยุดเรียน เพราะไม่มีเวลา ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเรียนต่อ ทุกวันนี้เล่นละคร 4-5 วัน ที่เหลือก็ต้องกลับไปเรียน

เรียนวิศวกรรมแต่มาทำงานเป็นนักแสดงดูมันค่อนข้างแตกต่างกัน

ก็มีส่วนที่เหมือนกันและต่างกันอยู่ เหมือนกันคือมันเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ คืองานที่ทำก็ต้องรับผิดชอบ ขณะที่เรื่องเรียนก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน แต่ลักษณะงานจะต่างกัน เป็นวิศวกรจะต้องออกไปคุมงาน ก่อสร้าง ใช้หัวสมองในเรื่องของการคำนวณ การแสดงก็ใช้ความคิด และก็มีเรื่องของแอ็คติ้ง สมาธิเข้ามาด้วย

หากย้อนกลับไปความตั้งใจจริงของเวียร์คือวิศวกรไม่ใช่ดารา

ใช่ครับ

อะไรทำให้คิดอยากจะลองมาลิ้มรสงานแสดง

มันเริ่มจากเวียร์ได้รับการติดต่อจากพี่เอ ผู้จัดการพี่ป๋อ (ณัฐวุฒิ สกิดใจ) ให้มาทำงานตรงนี้ ซึ่งมองว่าอาชีพตรงนี้ โอกาสอย่างนี้ก็ไม่ใช่ว่าใครจะได้มาง่ายๆ น้อยคนมากที่จะได้รับโอกาสตรงนี้ และเวียร์ก็ไม่ใช่ประเภทบอร์นทูบี เกิดมาเพื่อจะมาเป็นดารา และเราไม่ได้ผ่านการประกวดมาก่อน ได้มาเล่นละครเลย ก็อยากจะลองดู เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ

ครอบครัวให้การสนับสนุนอย่างไรบ้าง

คุณแม่ชอบ อยากให้มาเป็น แต่คุณพ่อก็ธรรมดา เฉยๆ ถ้าเราทำงานอะไร พ่อก็บอกว่าทำให้เต็มที่แล้วกัน เขาก็บอกว่ามันเป็นโอกาสก็ทำตรงนี้ไปก่อน แต่เราต้องไม่ทิ้งการเรียน

วันที่ดาวจรัสแสง

เล่นละครเรื่องแรกก็ได้รับการตอบรับที่ดีแล้ว

ละครเรื่องแรกไม่ได้ถึงกับเปรี้ยงปร้าง เอาเป็นว่ามีคนคุ้นหน้ามากขึ้น ก็รู้สึกดี เพราะตอนที่ตัดสินใจเข้ามาทำงานตรงนี้ ก็มีคิดเหมือนกัน ว่าจะดีไหม จะดังหรือเปล่า ซึ่งพอเข้ามาแล้วได้รับการตอบรับแบบนี้มันก็หายเหนื่อย เหมือนกับว่าสิ่งที่เราตัดสินใจมานั้นมันไม่ผิด

พอใจมากน้อยแค่ไหนกับชื่อเสียงที่ได้มาในวันนี้

พอใจในระดับหนึ่ง อย่างที่บอกว่ามันยังอีกยาว เพราะยังอยู่ในวงการนี้ไปอีกนาน คงต้องพัฒนาฝีมือกันไปเรื่อยๆ ต้องดูว่าเรายังต้องปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้าง

มีแอบเหลิงบ้างไหมกับชื่อเสียงที่ได้มาเร็วขนาดนี้

ไม่นะครับ คือเราคิดว่ามันเป็นงาน เราก็ทำไป สมมติว่ามีคนชอบ แสดงว่าเราทำงานออกมาได้ดี แต่เราก็ต้องขยันและตั้งใจทำงานแบบนี้ไปตลอด

นอกจากเรื่องของการแสดงแล้ว คิดว่าตัวเองยังต้องปรับอะไรอีกบ้างไหมกับการเป็นนักแสดง

เยอะเหมือนกันครับ อย่างสมัยก่อนตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยก็เป็นสังคมไม่ใหญ่มาก พอมาอยู่ในวงการบันเทิงมันเป็นสังคมที่กว้างกว่ามาก ต้องมาพบปะกับผู้คนซึ่งเราไม่เคยรู้จักมาก่อน เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ในระดับไหน เราควรจะเข้าไปยังไง หรือเขาเข้ามาหาเราเขาต้องการอะไรจากเราหรือเปล่า มาดีหรือมาร้าย ก็ต้องมีการเรียนรู้ มีพี่ๆ คอยบอกคอยแนะนำ เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราได้รู้จักสังเกตคน

วงการบันเทิงแตกต่างจากที่เราเคยคิดเคยมองไว้อย่างไรบ้าง

จริงๆ ก่อนหน้านี้ เวียร์ก็ไม่ค่อยมองภาพวงการบันเทิงเอาไว้มากมาย ต้องบอกว่าไม่ค่อยได้ติดตามชมละครสักเท่าไรด้วย ตามประสาหนุ่มวิศวกรไม่ค่อยมองอะไร (หัวเราะ) แต่ก็คิดว่ามันเป็นอีกอาชีพที่ทำให้คนดูมีความสุข ซึ่งก็คิดว่ามันเป็นอาชีพที่สุจริต

พอเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงแล้ว รู้เลยว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด ไม่ได้มานั่งๆ นอนๆ แล้วได้เงินเยอะ มันเป็นงานที่หนักมาก ใครบอกว่าดาราสบายผมว่าไม่ใช่เลย

ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะไหม

เรามีชื่อเสียงมากขึ้น มีคนรู้จักและจับตาดูมากขึ้น ความเป็นส่วนตัวอาจจะลดน้อยลง ไปไหนมาไหนก็มีคนรู้จักเข้ามาคุยด้วย ขอถ่ายรูป แต่ก็ปรับตัวได้ และก็ดีใจที่มีคนรู้จัก มีแฟนคลับ มีคนให้กำลังใจ ถ้าเกิดเราไม่มีพวกเขาเราก็อยู่ไม่ได้

เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยมีล้าหรือท้อบ้างหรือเปล่า

ช่วงแรกๆ ก็มีบ้าง เพราะยังจัดคิวงานแสดงกับการเรียนไม่ลงตัว ต้องบินไปบินกลับ บางทีขออาจารย์หยุดไม่ได้ ต้องขาดเรียน ปวดหัววุ่นวาย พอสักพักจัดตารางเรียน และงานได้เสร็จก็โอเค ไม่ยุ่งมากแล้ว

ติดใจงานแสดงแล้วล่ะสิ

มันไม่ถึงกับติดใจ แต่อย่างที่บอกว่าตัดสินใจมาทางนี้แล้ว ก็ต้องทำงานตามสิ่งที่เราตัดสินใจไว้ให้ดีที่สุด

ถูกจับตามองว่าเป็นลูกรักคนใหม่ของคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์)

(หัวเราะ) จริงๆ ก็เจอคนถามเยอะ แต่ไม่ใช่หรอกครับ เวียร์ว่าท่านก็รักทุกคน

ความแรงของเวียร์ก็ถูกจับเอาไปเปรียบเทียบกับรุ่นพี่ๆ

จริงๆ คนเราไม่เหมือนกันนะ จะไปเปรียบเทียบคงไม่ได้ เหมือนกับว่าช่วงนี้เพิ่งมา เลยอาจจะเห็นหน้าบ่อยหน่อย ซึ่งทุกคนก็มีงานเท่าๆ กัน คิดว่าผู้ใหญ่เขาดูแลทุกคน คงไม่ให้ใครมาแทนที่ใคร

วางแผนอนาคตกับอาชีพนักแสดงไว้อย่างไรบ้าง

ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนอะไรมาก ทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุด เพราะผมเซ็นสัญญา 7 ปี ก็ต้องทำไป และคิดไว้ว่าเรียนจบแล้ว อาจจะต่อปริญญาโทที่กรุงเทพฯ คงแค่นี้แหละไม่ได้วางอะไรไกลกว่านี้

งานเยอะแบบนี้มีเวลาให้ครอบครัวบ้างหรือเปล่า

ตอนที่เรียนเวียร์ก็อยู่หอพักอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้เจอคุณพ่อคุณแม่ หรือพี่เท่าไร จะโทรคุยกันมากกว่า แต่พอมาทำงานตรงนี้ท่านก็จะโทรหาบ่อยขึ้น เพราะเป็นห่วงสุขภาพ

หัวใจของ "เวียร์"

ทั้งเรียนทั้งทำงานมีเวลาให้เรื่องความรักบ้างไหม

ไม่เลยครับ (หัวเราะ) ไม่มีเวลาจะคิด แค่เวลาดูแลตัวเองก็น้อยแล้ว ไม่รู้จะไปดูแลคนอื่นได้ยังไง

ก่อนหน้าที่จะมาเป็นดารามีใครให้ดูแลบ้างหรือเปล่า

ก็ไม่นะครับ ส่วนมากจะเป็นเพื่อนๆ กันมากกว่า

เรียกว่าตอนนี้หัวใจยังว่าง

หัวใจยังว่าง จะมีใครบ้างจับจอง (เวียร์ร้องเป็นเพลง)

เข้าวงการมาไม่นานก็มีข่าวกับสาวแพนเค้ก (เขมนิจ จามิกรณ์) แล้ว

คงเป็นข่าวโปรโมทละครมากกว่า แต่ก็มีคนบอก ว่าทำไมละครจบแล้วยังมีข่าว ไม่รู้เหมือนกัน อาจเพราะเราสนิทกัน มีไปกินข้าว ดูหนังด้วยกันเป็นกลุ่ม

สเปคสาวในใจต้องเป็นแบบไหน

เวียร์ชอบผู้หญิงสูงขาว ฉลาด ไม่จู้จี้จุกจิก เข้าใจเรา

ตอนเป็นดารากับไม่เป็นดาราตอนไหนสาวๆ เข้ามาเยอะกว่ากัน

เวียร์ว่าตอนไม่เป็นนะ (หัวเราะ) พอมาเป็นแล้วคงกลัวมั้ง กลัวว่าหยิ่ง หรือไม่คุยกับเขาหรือเปล่า

พอเป็นดาราทำให้เลือกหรือดูคนยากขึ้นไหม

ตอนนี้ยังไม่มีใครจริงๆ นะครับ ก็ยังงงๆ เหมือนกัน ว่าทำไมไม่มีใครเข้ามา หรือว่าเราต้องเข้าไปจีบเขาก่อนเนี่ย (หัวเราะ) ก็น่าคิดเหมือนกัน ว่าบางทีเรามีชื่อเสียงแล้ว คนที่เข้ามาเขาต้องการอะไรกันแน่

มุมมองความรักสำหรับเวียร์

จริงๆ แล้วเวียร์มีความรักอยู่ทุกวัน พยายามจะมอบความรักให้แก่ทุกคน พ่อแม่ พี่ หรือเพื่อนๆ คนในวงการที่เวียร์รู้จัก ความรักเป็นสิ่งที่ดี สวยงาม เป็นสิ่งที่ควรให้กันและกัน

ออกตัวว่าหัวใจยังว่างขนาดนี้ มีหวังสาวๆ เตรียมกรอกใบสมัครกันเพียบแน่

พรสวรรค์ เหลืองอ่อน / เรื่อง

ทีวีอินไซด์/ภาพ


เขาคนนี้... "เวียร์" ศุกลวัฒน์

ชื่อจริง ศุกลวัฒน์ คณารศ

วันเกิด 18 เมษายน 2528

การศึกษา ปี 4 คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยขอนแก่น

งานอดิเรก เล่นบาสเกตบอล

ผลงานเรื่องแรก พลิกดินสู่ดาว

ผลงานสร้างชื่อ พลิกดินสู่ดาว