เมื่อสาวประเภทสอง ต้องใช้คำนำหน้าว่า นางสาว

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าข่าวดีสำหรับสาวประเภทสองหรือไม่

เพราะเมื่อไม่นานมานี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไฟเขียวให้พวกเธอที่แปลงเพศแล้ว สามารถใช้คำนำหน้า ว่า "นางสาว" ได้เหมือนสาวแท้ทั่วไป

แต่ที่แน่ๆการอนุญาตให้ใช้นางสาวอย่างเต็มภาคภูมิ อย่างนี้ 

อาจส่งผลให้หนุ่มๆ ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าก็เป็นได้เพราะจะแยกไม่ออกว่าหญิงที่ตัวเองชอบนั้น เป็นหญิงแท้หรือเทียมกันแน่ ลองมาฟังความคิดเห็นของผู้คนในสังคมกันดีกว่า ว่าจะรู้สึกอย่างไร
 

เริ่มกันด้วย"จ๋า" อลิสา พันธุศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท ทิฟฟานี่โชว์ พัทยาจำกัด 

และในฐานะ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกระบวนการทางกฎหมายเกี่ยวกับการอนุญาตให้สาวประเภทสองเปลี่ยนมาใช้นางสาวนำหน้าได้ว่า ก่อนหน้านี้มักจะมีการเลือกปฏิบัติต่อสาวประเภทสองทุกครั้ง และสิทธิหลายอย่างถูกลิดรอนหายไป 



จริงๆ แล้วเรื่องการเปลี่ยนคำนำหน้าของผู้ชายที่แปลงเพศเป็นผู้หญิง 

ต่างประเทศเขาอนุญาตเรื่องนี้มานานแล้ว มีถึงขั้นขึ้นศาลเพื่อขอร้องให้เปลี่ยนเป็นนางสาวด้วยซ้ำ แต่ประเทศไทยเรายังไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงคำนำหน้ามาก่อน แล้วไทยเรามักจะเลือกปฏิบัติกับสาวประเภทสองมาก เห็นได้ชัดก็ตอนที่ไปคัดเลือกทหารกองเกิน พอเห็นว่าเป็นกะเทย ก็จะให้เขาถอดเสื้อผ้าเพื่อตรวจ บางคนเขาแปลงเพศเป็นผู้หญิงแล้วด้วยซ้ำ ให้เขาไปทำแบบนั้น เขาจะมีความรู้สึกยังไง หนึ่งในสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าว   

ด้วยการคลุกคลีอยู่กับสาวประเภทสองมานาน

ทำให้เธอมองว่า สาวๆ เหล่านี้ไม่ว่าจะไปไหนมักจะถูกล้อและถูกมองเป็นตัวประหลาดเสมอ แม้เจ้าตัวอาจจะรู้สึกชิน แต่เธอคิดว่าลึกๆ แล้วพวกเธอก็รู้สึกไม่ชอบใจนักหรอก ยิ่งคนที่แปลงเพศมาแล้ว นั่นหมายถึงเขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาเคยเป็นผู้ชายมาก่อนด้วยซ้ำ 



ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีการอนุญาตให้ใช้คำนำหน้าเป็นนางสาว 

เวลาที่เขาไปติดต่ออะไรที่ต้องใช้บัตรประชาชน ซึ่งยังเป็นคำนำหน้าว่านาย ก็กลายเป็นการตอกย้ำความรู้สึกเขาทุกครั้ง แล้วคนเหล่านี้จะโดนสอบสวนมากเวลาเดินทางไปต่างประเทศ เพราะหน้ากับชื่อไม่สอดคล้องกัน แต่การเปลี่ยนคำนำหน้าจะทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นในสังคม 

แต่ถึงจ๋าจะทำงานกับสาวประเภทสองแต่ทางบริษัทก็ไม่ได้มีนโยบายให้คนไปแปลงเพศกัน 

เพราะการแปลงเพศต้องมีการตรวจสอบทางจิตใจอย่างหนัก ซึ่งเราไม่รู้ว่าวิธีการปฏิบัติเขาดูแลเรื่องนี้ดีหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าบางช่วงเขาอยากเป็นผู้หญิง พอโตขึ้นมากลายเป็นว่าอยากกลับเป็นผู้ชาย แล้วแพทย์ที่ทำการแปลงเพศอาจจะทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ หรือทำผิดพลาด จะทำให้เขารู้สึกเสียใจส่งผลกระทบทางจิตใจ ทำให้เสียความรู้สึกในการดำรงชีพอีก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จำกัด กล่าว



ด้านคุณหญิงสุวิมลผึ่งประเสริฐ กรรมการบริหารนิตยสารคอสโมโพลิแทนและนิตยสารดิฉัน กล่าวว่า 

ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับการอนุญาตดังกล่าว เนื่องจากเธอมองในเรื่องของสิทธิเสรีภาพของบุคคลเป็นหลัก ซึ่งสาวประเภทสองก็มีสิทธิที่จะเลือกวิถีชีวิตของตัวเองโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
 
เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกของคน 

เมื่อโลกแห่งโลกาภิวัตน์เข้ามา โลกของเราก็พยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับอีกฝ่ายหนึ่ง ส่วนตัวแล้วก็เข้าใจสาวประเภทสอง แล้วก็มองว่าสังคมเราควรจะมีความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เหมือนกับที่เราต่อสู้เรื่องนามสกุลหลังจดทะเบียนสมรส เราสามารถใช้นามสกุลเดิมหรือนามสกุลสามีก็ได้ 

เรื่องนี้ก็เหมือนกันเมื่อเขาแปลงเพศเรียบร้อยแล้ว 

ใจและกายเขาได้เปลี่ยนเป็นหญิง สังคมก็ควรจะให้สิทธิเขาตรงนี้ เพราะเขาเป็นมนุษยชนคนหนึ่งเหมือนกับพวกเราทุกคน ส่วนตัวเลยมองว่าการอนุญาตเหล่านี้ จึงจำเป็นที่จะต้องให้เกิดขึ้น" คุณหญิงสุวิมล กล่าว



ด้านสาววัยใส"มายด์" แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา 

นักศึกษาปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บอกว่า เห็นด้วยที่จะเปลี่ยนแปลง เพราะคนเหล่านี้มีจิตใจและร่างกายที่เป็นเหมือนกับผู้หญิง ซึ่งเธอเชื่อแน่ว่าสาวๆ เหล่านั้นคงอยากจะใช้คำนำหน้าเป็นนางสาวอย่างแน่นอน

มายด์ไม่ได้สนับสนุนให้คนแปลงเพศเป็นสาวประเภทสอง

เพราะสาวประเภทสองถ้านับคนที่แปลงเพศจริงๆ ก็จะมีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นไม่ได้มากมายอะไร เพราะยังมีอีกหลายคนที่ยังต้องปิดบัง อาจจะด้วยที่บ้านไม่ยอมรับหรือภาระหน้าที่หลายๆ อย่าง แต่สำหรับสาวประเภทสองที่ครอบครัวรับได้ คงไม่มีปัญหาอะไรกับการใช้นางสาวนำหน้า" มายด์ แสดงความคิดเห็น ด้วยเพื่อนสนิทของเธอเป็นสาวประเภทสองแต่ยังไม่ได้แปลงเพศเพราะยังอยู่ระหว่างการศึกษา ทำให้เธอค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของเพื่อนดีกว่าใครๆ ทำให้เธอไม่ได้รู้สึกสงสารสาวประเภทสองแต่อย่างใด

อย่างเพื่อนมายด์ที่บ้านเขารับได้ 

แม่เขาก็จะคอยหาชุดนั้นชุดนี้มาให้เพื่อนมายด์ใส่ตลอดเวลา เพราะถึงยังไงเขาก็ยังเป็นคนดีคนหนึ่งของสังคม แต่ก็มีบางครอบครัวที่ยอมรับไม่ได้ ซึ่งมายด์อยากจะบอกว่า ในเมื่อเขาเป็นไปแล้วของแบบนี้เราไม่สามารถที่จะไปบังคับจิตใจเขาได้ ถ้าเราเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเขา ก็ต้องเป็นคนช่วยเติมเต็มในสิ่งที่เขาขาดหายไป ที่สำคัญเราต้องคอยดูแลให้เขาเป็นคนดีในสังคมเท่านั้นก็พอแล้ว" มายด์ กล่าว

"เป็ด" อภิชาติ นรเศรษฐาภรณ์ เมคอัพอาร์ติสต์ กล่าวว่า 

เห็นด้วยที่สาวประเภทสองจะได้สิทธินี้ เพราะที่ผ่านมาเมื่อแปลงเพศแล้ว ก็มักมีปัญหาเวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ เพราะรูปร่างหน้าตาเป็นผู้หญิงหมด แต่ชื่อมีคำนำหน้าว่านาย  


แต่ทั้งนี้ถ้ากฎหมายยินยอมก็เป็นการดี 

แต่ส่วนตัวขอเตือนไว้นิดว่า คนในเพศนี้ไม่ค่อยรู้จักพอ พอได้เรื่องหนึ่งก็อยากได้สอง สาม สี่ ต่อไปอีก ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลไม่ค่อยอยากให้อะไร ก็อยากจะเตือนสติ ถ้าได้แล้วก็ต้องรู้จักใช้ อย่านำคำว่านางสาวไปเที่ยวหลอกหลวงคนอื่น หลอกชาวบ้านและหลอกผู้ชาย หรือทำตัวเว่อร์จนเกินเหตุ เพราะภาพลักษณ์ของสาวประเภทนี้ก็เว่อร์อยู่แล้ว ได้แล้วต้องซื่อสัตย์ ต้องมีสามัญสำนึก" เมคอัพอาร์ติสต์ เตือน



ปิดท้ายที่"กวาง" ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สประจำปี2550 

กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่าเข้าใจและเห็นใจสาวประเภทสอง เพราะจิตใจและความรู้สึกของพวกเขาเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้ว และอยากให้สังคมเปิดกว้าง ส่วนตัวของเธอก็มีเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองอยู่พอสมควร 

จะบอกว่าถ้าให้คำนำชื่อเป็นนางสาวแก่พวกเขาแล้ว จะไปก่อเหตุไม่ดี 

คงไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นเพศใด กลุ่มไหน ก็ต้องมีคนที่ดีและไม่ดีเหมือนกัน เวลาจะเป็นสิ่งพิสูจน์ทุกอย่างเอง" กวาง กล่าวทิ้งท้าย 



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์