เมย์ ผู้ชายดี ๆ มีแต่ในนิยาย

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย เมย์ ผู้ชายดี ๆ มีแต่ในนิยาย

นอกจากพักหลัง นางร้ายหน้าใส เมย์-เฟื่องอารมย์ จะมีงานเยอะแล้ว 2 ปีที่ผ่านมานี้เธอก็ตกเป็นข่าวบ่อยมาก ซึ่งล้วนแต่เป็นข่าวดังสนั่นเมืองแทบทั้งสิ้น วันนี้ “ดาวต่างมุม” จึงชวนเธอมาเปิดใจถึงเรื่องต่าง ๆ หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายในชีวิตมาได้ โดยเฉพาะเรื่องราวความรักระหว่างเธอและนักแสดงชื่อดัง หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย

เริ่มแรกเลยจำได้ว่า เมย์ ไม่ได้เข้าวงการจากบทร้าย

ใช่ จุดเริ่มต้น เรื่องแรกก็จะเป็นเรื่องโรงแรมผี ช่อง 9 เป็นละครตอนบ่าย ตอนนั้นแสดงเป็นตัวรอง และจากนั้นก็มีติดต่อมาให้เป็นนางเอก แต่ก็ไม่ค่อยได้รับการตอบรับมากเท่าไหร่ ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างสู้นางเอกคนอื่นไม่ได้ ลองเล่นนางเอกมันเฉย ๆ ก็เลยเล่นร้าย ช่วงแรกสมัยก่อนให้เล่นร้ายใครก็ไม่อยากเล่น แต่เดี๋ยวนี้นางเอกก็ร้ายแล้ว ถ้าเล่นร้ายแล้วยังไม่รุ่งก็แสดงว่าอาชีพการแสดงเราไม่เวิร์กแล้ว ก็ถือว่าเสี่ยงมาก แต่ก็ตัดสินใจมาเล่นร้ายเรื่องแรกใน “แม่คุณเอ๋ย” กับ น้องกบ-สุวนันท์ คงยิ่ง ตอนแรก ๆ ไม่ชอบหรอก อ่านบทแล้วต้องมากรี๊ดใครจะชอบมันเหมือนคนบ้า มันยากเพราะชีวิตจริงเราไม่ใช่อย่างนั้นต้องมาวิ่งตามพระเอกแล้วโดนเขาผลักไส หลัง ๆ เราถอดตรงนั้นออกมาเราต้องเป็นตัวนั้นให้ได้ ต้องเล่นยังไงก็ได้ให้คนเกลียด หลัง ๆ ก็ปล่อยเต็มที่ ทำให้เราเริ่มรู้ว่าเรามีพลังอยู่ข้างใน ก็เลยเริ่มดีขึ้น การแสดงเราก็ดีขึ้น

เบื่อบ้างมั้ยเล่นบทอย่างนี้

ไม่เบื่อค่ะ เมย์ชอบเล่นละคร เป็นคนชอบทำงาน ไม่เคยรู้สึกเบื่อกับการทำงาน ตื่นเต้นและดีใจมากเวลาได้บท เหมือนได้การบ้านใหม่ อยากดูว่าหน้าต่อไปเป็นยังไงอยากดูบท ถามว่าอยากเปลี่ยนบทบาทบ้างมั้ย ก็อยากเปลี่ยนนะคะแต่ว่าในเมื่อร้ายมาแล้วมันคงต้องร้ายต่อไป บทดีก็อยากกลับมาเล่นถ้าเขาคิดว่าเราเล่นได้ บทอื่น ๆ เราก็เล่นได้เพราะเราเป็นนักแสดงเราเล่นได้ทุกบท

นอกจากงานละครแล้ว เมย์ทำธุรกิจส่วนตัวด้วย

ก็มีร้านเสื้อผ้า “บับบาลี” ที่ ซอยทองหล่อ 13 นอกจากนี้ก็มีร้านทำผมที่แถวแยกวังหิน ร้านน้ำ ชื่อร้าน “อาหลิว” แล้วก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้าง ๆ กัน เมย์เป็นคนชอบทำธุรกิจอยู่แล้ว ทำหลายอย่างมาก แต่บางอย่างก็ต้อง หยุดไป เพราะปีสองปีที่แล้วต้องหยุดเพราะงานเยอะมากไม่มีเวลาดูแลเพราะเปิดคนเดียวด้วย หรือบางครั้งก็เปิดกับเพื่อนดาราด้วยกัน ก็จะไม่ค่อยมีเวลามาดู ตอนนี้ก็เลยหันไปทำกับเพื่อนนอกวงการ เนื่องจากเขาจะช่วยเราดูแลร้านได้

ดูเมย์จะไว้ใจเพื่อนมาก

เพื่อนต่างหากที่ไว้ใจเมย์ ชอบชวนมาทำธุรกิจด้วย ไม่ค่อยมีปัญหากับใคร เพื่อนก็จะไว้ใจ แต่เมย์ไม่ค่อยมีเพื่อนเยอะ แต่ก็จะรู้จักบ้าง มีแค่กลุ่มเพื่อนสนิทนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ถ้าสนิทก็จะคบกันนานเลย อย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ คบกันมาเจ็ดปีได้ ที่จริงเจอกันมานานแล้ว พอดีว่าเริ่มต้นพี่เอ ผู้จัดการของอั้มเป็นเพื่อนกับเมย์ ก็จะเจออั้มในวันสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ่อย ๆ มาสนิทกันตอนที่เมย์เปิดร้านเสื้อผ้าที่หลังการบินไทย แล้วอั้มก็มาเดินเล่นที่หลังการบินไทยก็โทรฯมาถามว่าร้านอยู่ตรงไหน พอมาถึงอั้มเขาก็บอกว่าอยากทำบ้างต้องทำยังไง ก็เริ่มคุยกันก็เริ่มสนิทกัน จากที่คุยแต่เรื่องงานก็เริ่มเปิดใจคุยเรื่องส่วนตัวมากขึ้น

เมย์กับอั้มเหมือนคนละขั้วกันเลยนะ

งงมาก เพราะเขาเป็นคนพูดและทำอะไรเร็ว เมย์ตามไม่ทัน เมย์เป็นคนเฉย ๆ ขณะที่อั้มเป็นคนเฟรนด์ลี่ เมย์เคยถามเขาว่าไม่เบื่อเหรอพี่เป็นคนเงียบ ๆ อั้มก็บอกไม่เบื่ออั้มชอบอย่างนี้แหละ อั้มเจอเพื่อนแย่งพูดไม่ชอบ อั้มชอบพูดคนเดียว พอเราฟังอย่างนี้เราก็โอเค

มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้สนิทกันมาก

ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์นะ อาจจะเป็นความผูกพันมากกว่า เมย์อยากบอกว่าจริง ๆ แล้วอั้มเป็นคนที่รักเพื่อนทุกคนนะ บางครั้งเวลาที่เขามีหนุ่ม ๆ เขาก็จะบอกเพื่อน ๆ ว่าเขารักเพื่อนมากกว่าผู้ชายอีก เขาบอกว่าถ้าไปดูหนังเขาต้องมีเพื่อนไปด้วย ถ้าไปกินข้าวก็ต้องมีเพื่อน จนบางครั้งเราก็ต้องบอกว่าช่วยถามเพื่อนนิดหนึ่งว่าเพื่อนอยากอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะบางทีเราก็ไม่ได้อยากอยู่ด้วย แต่เขาอาจสนิทกับเมย์มากกว่าตรงที่ทำงานอยู่ในอาชีพเดียวกัน มีอะไรก็ปรึกษากันได้ แต่เมย์นี่เขาก็รักออกแนวเป็นห่วงด้วย บางทีกลัวเราโดนเอาเปรียบ มีอะไรก็จะพูดแทน

ความสัมพันธ์กับ พี่หนุ่ม ณ วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ถ้าคนอื่นมองก็คงคิดว่ามันมีเรื่องมีราวเยอะนะ ตอนนี้มันก็เลยพูดถึงอนาคตยังไม่ได้ บางครั้งมันก็มีเรื่องที่มีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง เหมือนกับว่าพี่หนุ่มเขาก็ต้องเข้ามาพูดคุยกับที่บ้าน เรื่องจะมีโอกาสกลับไปคบกันเหมือนเดิมมั้ย พูดยากนะเพราะพูดไปคนเขาก็บอกว่ามันน่าเบื่อแล้ว ตอนนี้มันก็เหมือน กับว่าเรายังตอบอะไรไม่ได้ แต่ถามว่ามีการพูดคุยกันอยู่ไหมก็ยังมีการพูดคุย กันอยู่ แต่เรื่องความสัมพันธ์ตรงนี้ต้องให้ทางผู้ใหญ่เข้ามาดูว่ายังไง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ใหญ่ทางเมย์ค่อนข้างซีเรียสค่ะ เพราะมันเป็นข่าวใหญ่โตด้วย แต่ตอนนี้เขาก็พยายามทำอะไรให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวเขามากขึ้น ตรงนี้เมย์ก็เลยให้เป็นเรื่องของเขากับผู้ใหญ่ที่จะคุยกันมากกว่า เพราะเมย์ก็ไม่รู้จะยังไงแล้ว เรื่องอื่น ๆ พี่หนุ่มเขาก็ดี เขาก็ติดอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องผู้หญิง ก็เข้าใจนะว่าผู้ชายมันต้องมีบ้าง

ที่ผ่าน ๆ มาพี่หนุ่มค่อนข้างจะเจ้าชู้แต่ทำไมเมย์ถึงทนได้

มันตอบยากมากนะ อย่าใช้คำว่า “ทน” เลย เมย์ตอบไม่ได้ ทุกครั้งที่เราคิดว่าเราจะไปทุกครั้ง มันก็ต้องกลับมาทุกที บางทีเราอยากจะหนีไปให้ไกล เราก็เสียใจเยอะ มีเรื่องอะไรเยอะ พอดีเมย์เป็นคนที่เฉย ๆ ไม่ค่อยอะไร แต่สุดท้ายเราก็กลับมาทุกที อาจจะเป็นเพราะความผูกพันด้วยมั้ง

เป็นเพราะพี่หนุ่มมีมุมดี ๆ ที่คนอื่นไม่รู้หรือเปล่า

มันก็อาจจะมีส่วนหรืออาจจะเป็นเพราะเมย์ไม่เคยรักใครด้วยมั้งในชีวิต เมย์เป็นคนที่รักคนยาก เขาเป็นผู้ชายคนแรกด้วยมั้งที่เรารักและคบนานที่สุด คบกันมาประมาณ 8-9 ปีแล้วมั้ง ด้วยพื้นฐานนิสัยเมย์ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ถ้าคบกันไม่ได้ก็เลิกเลย หาแฟนใหม่เลย เวลารักแล้วจะรักเลย พอเรารักใครสักคน เมื่อเวลาที่เขาผิดเราก็ยังให้อภัยเขาได้เสมอ มันเป็นความรักและความผูกพัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันก็ยังมาบรรจบกันได้ตลอด จริง ๆ แล้วก็มีคนเข้ามาจีบบ้าง แต่อย่างที่บอกเมย์เป็นคนชอบคนยาก

รู้สึกอย่างไรที่มีหมอดูมาฟันธงว่าเราเป็นเนื้อคู่กัน

เมย์ก็ไม่รู้เหมือนกันเราก็ตอบไม่ได้ว่าอันนี้มันก็เป็นเรื่องของดวง บางครั้งรู้สึกว่าไม่เอาแล้ว จะไปแล้ว ถึงจะเป็นคู่ก็ไม่เอา เหนื่อยแล้ว ใคร ๆ ก็ว่า ๆ เอาทำไม บางคนก็ว่า เราไม่ยอมเลิกบ้าง จะกั๊กเขาไว้ ซึ่งมันไม่ใช่ไง หยุดแล้วทุกครั้งแล้วมันก็ต้องกลับมาตลอด คือถ้าเขาไปมีคนอื่นนะก็ให้เขาไปเลย เมย์ไม่จำเป็นต้องมาสร้างภาพทำเป็นคบกัน แต่มันไม่ใช่มันก็ต้องกลับมาคบกันตลอด อย่างครอบครัวเมย์ก็เคยบอกให้เลิก เมย์ก็ไม่ได้ดื้อ ก็มีเลิก แต่พักหนึ่งเขาก็เข้ามาคุย เราก็กลับไปเพราะพื้นฐานมันก็มีความรักอยู่แล้ว ทุกครั้งเขาก็บอกว่าจะเปลี่ยน เขารักเรานะ มันก็เลยต้องกลับมาตลอด ถามว่าเมย์เป็นคนขี้หึงมั้ย ก็มี แต่คนชอบมองว่าเมย์วีน ซึ่งไม่ใช่เลยนะ เมย์เฉยมาก ถ้าเมย์จะตบตีจริงคงมีเป็นสิบ คงมีข่าวรายวัน แต่เมย์เป็นคนเฉย ๆ ไง แต่เวลามีเหตุทีไรต้องเป็นข่าวใหญ่ทุกที

เมย์ เชื่อเรื่องดวงมั้ย

ตอนแรกไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เริ่มเชื่อแล้วว่ามันเป็นเรื่องดวงจริง ๆ ทุกคนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด เมย์ต้องตั้งใจสะกดรอยตามหรือว่าเราวางแผนไว้แล้ว แต่จริง ๆ ไม่ใช่ มันเป็นดวงมาก ๆ จำได้มั้ยปีก่อนหน้านี้เมย์ก็แถลงข่าวเรื่องโคโยตี้วันที่ 19 ต.ค. 2549 พอมาปีนี้ก็ต้องมาแถลงวันที่ 19 ต.ค. 2550 ซึ่งจริง ๆ แล้วปีนี้เมย์ต้องมีคิวไปต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. แล้ว แต่เมย์เลื่อนคิวไปก่อน บอกตามตรงว่าถ้าเมย์รู้ว่าเป็นคน ๆ นี้ เมย์ก็จะไม่ไปยุ่งด้วย จะปล่อยรถเลย เพราะเรารู้ว่าถ้าหากเข้าไปคุยก็จะมีปัญหา แล้วมันก็เป็นจริง

หมอดูเตือนบ้างหรือเปล่า

ถ้าบอกเมย์ว่าเมย์มีปัญหามาตั้งแต่ปีที่มีเรื่องโคโยตี้แล้ว หมอดูบอกว่ามันจะผ่านไปแล้ว แต่ว่าช่วงนี้มันอาจจะมีทิ้งท้ายบ้าง เขาพูดแค่นี้ แต่ดันใหญ่กว่าเดิมอีก แต่ตอนที่เมย์เจอรถก็โทรศัพท์ไปถามหมอดูนะว่ามันจะมีปัญหามั้ย เขาก็บอกว่าให้เราดูดี ๆ ถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ถ้ามีการคุยกันก็ห้ามลงไปคุยนะ เดี๋ยวมันจะมีปัญหา แต่พอดีโทรฯหาอั้ม อั้มก็อยู่ที่นี่พอดี เราก็คิดว่ามีเพื่อนแล้วคงไม่เป็นอันตรายอะไร และตอนแรก ๆ ก็จำหน้าคน ๆ นั้นไม่ได้ด้วย จนมาเห็นหน้าเขาชัด ๆ เราก็ตกใจพอรู้ว่าเป็นใคร

เคยถามหมอดูมั้ยว่าจะได้แต่งงานตอนไหน

หมอดูบอกว่าเมย์มีฤกษ์แต่งงานตั้งแต่ปีนี้ จนถึงปีหน้าไม่เกินวันเกิด และถ้าเกิดว่าหลังจากนั้นก็จะไม่มีแล้ว ถ้าจะมีก็อีกหลายปีเลย ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าเมย์จะแต่งงานกับพี่หนุ่มช่วงต้นปีหน้า ก็ยังตอบไม่ได้ อย่างที่บอกตอนนี้พี่หนุ่มมีอะไรก็จะคุยกับที่บ้านเมย์ อันนี้ก็เลยไม่ทราบว่าความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนเพราะทุกอย่างเรื่องมันก็อยู่ที่ผู้ใหญ่

ตอนนี้เหมือนตัวเมย์โอเคแล้วแต่รอทางผู้ใหญ่อยู่

มันก็ต้องมีคุยกัน มันขึ้นไปอีกสเต็ปหนึ่ง ก็ต้องรอดูต่อไปว่ายังไง

พี่หนุ่มเป็นคนที่มีเสน่ห์ตรงไหนที่ทำให้เมย์รักขนาดนี้

ก็ไม่ได้มีอะไรนะ จะเป็นเรื่องการพูดจาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าอย่างเมย์ นะหน้าตาคนเราต้องมองก่อน แต่ถ้าหน้าตาดีแล้วพูดไม่ตรงอารมณ์ก็ทำให้เราเฉย ๆ แต่ของเมย์จะโดนที่คำพูดเพราะบางคนพูดจามามันถูกกับความรู้สึก ทำให้เราอยากคุยด้วย บังเอิญว่าพี่หนุ่มมีตรงนั้นมั้ง บางคนอาจจะคิดว่าเขากะล่อน แต่จริง ๆ แล้ว เขาเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ได้มาหวานอะไรกับเรามากมาย ผู้หญิงบางคนคิดว่าผู้ชายคนนี้ต้องโรแมนติก แต่ไม่ใช่เลย เขาเฉยมาก

จากที่ดูตอนนี้แม่น่าจะโอเคกับพี่หนุ่มมั้ย

คงต้องรอระยะเวลาให้ทุกอย่างชัดเจนก่อน เมย์เป็นคนที่แคร์ครอบครัว ที่บ้านว่าอย่างไรก็ต้องอย่างนั้น ทุกวันนี้ขนาดหาเงินได้เอง ก็ยังอยู่กับครอบครัว ใครที่จะมาคบกับเมย์ก็ต้องเข้าหาครอบครัวเราด้วย ถ้าที่บ้านว่าใช่ก็คือใช่ แต่ถ้าเขาว่าไม่ก็คงต้องไม่ ทุกวันนี้ที่เมย์จะเครียดกับข่าวไม่ได้เครียดว่าสังคมยังไงแต่เมย์จะกลัวมากที่สุดก็คือครอบครัวว่าเขาจะเครียดไหม เพราะตัวเมย์เป็นคนเข้มแข็งอยู่แล้ว ไหวอยู่แล้ว

หวังว่าบทสัมภาษณ์ของเมย์ในวันนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าใครหลายคนก็คงพร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้เธอผ่านพ้นเรื่องราวร้าย ๆ ในชีวิตไปได้ด้วยดี.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)