เผยเหตุตีจากช่อง7 ตู่พ้อเปรียบตนเหมือน สัตว์ไร้ประโยชน์ !


ทนไม่ไหว ! "ตู่"
จูงมือ "ซ้อนุช" หนีกลับบ้านเก่าตายรังช่อง 3
เหตุไม่พอใจตัวเลขเรตติ้งไม่เป็นธรรมแม้ค่ายอื่นทำไม่ถึงเป้าแต่กลับไม่โดนสั่งระงับ
เหน็บเหมือนตนเป็นสัตว์หมดประโยชน์ก็ถูกทิ้ง วอนอย่าใช้กติกาโหดๆ กับค่ายอื่นอีก
ยันไม่มีปัญหากับคุณแดง ด้าน "ซ้อนุช" ร่ำไห้โทษตัวเองดึงมาลำบาก10 ปี
ืเผยร้องไห้มา 3 เดือนแล้ว ส่วนนักแสดงเก่าช่อง 7 โล๊ะใหม่ใช้ช่อง 3
หมด


src="http://pics.manager.co.th/Images/551000001825605.JPEG" width=400
border=0>



align=left> 

       หลังจากมีข่าวลือหนาหูมานานว่าค่ายละครคุณภาพ
"เป่าจินจง" ของผู้จัดละครคนดัง "ตู่ นพพล โกมารชุน" และ
"ซ้อนุช ปรียานุช ปานประดับ"
ได้ยกละครนำไปเสนอบ้านใหม่ยังวิกพระราม 4 เพราะมีเรื่องบาดหมางกับทางช่อง 7
ล่าสุดกระแสข่าวลือต่างๆ ได้ถูกเปิดเผยจากปากของสองผู้จัดคนดังในงาน "ฉลองครบ 10 ปี
เป่าจินจง"
ว่าได้บ้านใหม่พักพิงเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังไม่พอใจกับกติกาการวัดเรตติ้งที่ไม่เป็นธรรม
โดยผู้บริหารบ้านเก่าใช้ประเมินค่ายของตนแค่ค่ายเดียว โดย "ตู่"
เผยหลังอัดอั้นมานานว่า.....
       
       "เรากำลังจะย้ายที่ทำกินเพราะถ้ายังอยู่ที่เดิมเราไม่มีจะกิน
หมดทางหากินเนื่องจากคำว่ากติกาที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารของสถานี
ตรงนี้สิบปีเราทำงานด้วยความตั้งใจกับช่อง 7
โดนถามบ่อยมากเลยว่าทำไมไม่ไปทำช่องอื่นบ้าง ไม่ไปทำช่อง 3 บ้าง หรือช่อง 9 บ้าง
ช่อง 5 เราบอกไม่หรอกครับ ช่อง 7 เป็นคนให้โอกาสเราๆ
ก็จะทำงานอยู่ตรงนี้"
       
       "จนกระทั่งวันนึงมีการเปลี่ยนแปลงกติกาหนึ่งเกิดขึ้นในการทำงาน
กติกานั้นเรียกว่าเป็น กติกาเรตติ้ง
เรายืนยันอยู่เสมอว่างานของเราไม่ได้แสวงหาเรตติ้ง เราแสวงหาคุณภาพ
เราตั้งใจในการทำงานของเรา หลายเรื่องไม่ประสบความสำเร็จ "กิจกรรมชายโสด,
ทิพยดุริยางค์" เราก็ยังมีอีกหลายเรื่อง แต่สิ่งที่เราทำ
เราทำงานที่มีสาระ"
       
       "เราทำงานที่ให้สังคมดูแล้วเกิดความคิดเกิดความรู้สึกเกิดการสะท้อนภาพให้ชัดเจนให้คนดูรู้สึกไปกับเรา
"เก็บแผ่นดิน, เมืองดาหลา, แม้นเลือกเกิดได้" ทุกอย่างเราตั้งใจทำ จนกระทั่งสุดท้าย
"สายน้ำ สามชีวิต" ตรงนี้เราตั้งใจสร้างให้กับสถานี รางวัลที่เราได้มาตลอดเกือบ 50
รางวัลหรือมากกว่านั้น คือหน้าตา
คือเกียรติยศคือความภาคภูมิใจแต่มันไร้ความหมายเมื่อตัวเลขหรือเรตติ้งมาเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตคนทำงาน"
       
       แจงสาเหตุหลักที่ย้ายบ้านเพราะช่องเลือกวัดค่าของงานจากตัวเลขเรตติ้งของบริษัทเดียวเท่านั้น
       
       
face="Times New Roman">


color=#ff0000>"เรื่องนี้เกิดขึ้น "สตรีที่โลกลืม" ละครไม่ประสบผลสำเร็จ
ละครหล่นไปเหลือ 5 กติกาใหม่บอกว่าละครเรื่องใดต่ำกว่า 8 จะต้องหยุดผลิตทันที
ไม่ว่าบริษัทใดก็ตามนี่เป็นคำพูดของผู้บริหารจะต้องถูกระงับและรอดู
คุณสุรางค์ได้อนุมัติละคร 12 เรื่องก็ถูกระงับไปโดยปริยาย
อีกหลายเรื่องที่ถูกเสนอชื่อเข้าไปก็ถูกระงับเช่นเดียวกัน เราก็เลยถามต่อว่าแล้ว
เป่าจินจง จะทำยังไง ก็มีคำตอบว่า รอดูก่อนแล้วกัน รอดูเรตติ้ง "วิมานมังกร" หรือ
"ฟ้าให้เรามารักกัน" จะเป็นยังไง นั่นคือคำตอบ
ชีวิตที่แขวนไว้กับตัวเลขจากหนึ่งบริษัทจะมีความมั่นใจมากแค่ไหน"
       
       
"ข่าวลือเรื่องนี้เริ่มออกมาเป็นกระสาย
บางฉบับบอกตู่น้อยใจย้ายบ้าน ไม่ใช่น้อยใจเป็นความตกใจมากว่า การทำงานที่ดี
ความตั้งใจ การทุ่มเทการลงทุนไม่สามารถต่อสู้กับตัวเลขได้
แต่บริษัทนี้ที่สำรวจให้กับหลายช่องบอกเราได้ 8 ไม่ค่อยดีนัก
แต่อีกผลสำรวจบอกเราได้ที่ 1 พิสูจน์แล้วว่าถามใครคำที่ติดปากคือ "กาษานาคา"
กระแสตรงนั้นมาแรง ไปตรงไหนก็ได้รับคำชม แต่ตรงนี้ไม่ใช่
เพราะฉะนั้นเรากำลังฝากชีวิตไว้กับอะไร"
       
       "ตัวเลขของบริษัทเดียวแค่นี้มันทำให้ชีวิตคนผันผวน
วันไหนที่สื่อสิ่งพิมพ์เกิดเชื่อในตัวเลข
บอกเรตติ้งอยู่ไม่ดีชีวิตเราจะแขวนอยู่ตรงนั้นมั้ยครับ"
       
       "สุดท้ายจะมาถึงคำพูดของ
"คุณประวิทย์ มาลีนนท์" เมื่อปลายปีที่แล้ว
คุณประวิทย์ให้ข่าวว่าต่อไปนี้จะไม่ซื้อเรตติ้งจากบริษัทนี้แล้วเพราะไม่เชื่อและก็สามารถทำการสำรวจได้ด้วยตัวเอง
หลังจากนั้นมาเรตติ้งช่อง 3 ชนะช่อง 7 ต่างจากเมื่อก่อน
วันนี้เป็นวันที่เราอยากจะบอกว่าเราทำงานมาสิบปี 30
เรื่องเรามีแต่โดนเพ่งเล็งโดนตำหนิ
ไม่ทราบว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้"
       
       เผยสิ่งที่ทำให้แค้นใจมากที่สุดคือถูกทางช่องเรียกเข้าไปคุยเพื่อรับทราบการสั่งระงับละครในวันเกิดซ้อ
และยังเปรียบเทียบเรตติ้งกับละครค่ายอื่นในช่องเดียวกันที่มีตัวเลขต่ำกว่าแต่กลับไม่มีผลกระทบใดๆ
       
        color=#ff0000>"วันที่ 18 ธันวาคม เป็นวันเกิดของคุณนุช
ช่องเรียกเข้าไปแล้วช่องก็บอกว่า "ระงับงานนะ หยุดทำงาน" ดีมากเลยครับ
เขาเลือกวันได้ดีมากที่จะบอก หลังจากนั้นมาละครที่ออกอากาศต่อจากเรา
เรตติ้งต่ำกว่าเราอีก "สตรีที่โลกลืม" วันสุดท้ายของการแสดงกลับขึ้นมา 9.9
"แสงดาวแห่งหัวใจ" ได้ 4.8 แต่ต้องขอยืมตัวเลขมาเปรียบเทียบว่าบริษัท "ฮั้งมโนก้า"
เป็นบริษัทเดียวที่ถูกระงับการทำแต่ดาราวิดีโอก็สามารถเสนองาน
ได้ทำงานต่อไปได้เรื่อยๆ
เราเลยไม่รู้เลยว่ากติกานี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อใคร

เพื่อบริษัทเป่าจินจง เพื่อฮั้งมโนก้า เท่านั้นใช่มั้ยครับ
ไม่มีคำตอบชัดเจนกับเราเพียงแต่บอกว่าตั้งข้อเสนอกันมาแล้วก็รอดูกันไปก่อนแล้วกัน
รอดูเรตติ้งเรื่องต่อๆ
ไปว่าจะเป็นยังไง"
       
       ยันแม้ละครของตนได้เรตติ้งสูงแค่ไหนไม่มีความหมายในสายตาของช่อง
       
       "วันนี้เรตติ้ง
"วิมานมังกร" ไม่ดีนัก เพราะเราต้องเจอกับ "จำเลยรัก" เจอกับ "สงครามนางฟ้า"
มันเป็นกระแสอยู่ แสดงว่าเป่าจินจงจะไมได้รับการอนุมัติงานต่อไปใช่มั้ยครับ
หลังจากนั้นเราก็เลยคิดว่าเป็นเวลาที่เราต้องหาที่ทำกินใหม่ ปีที่แล้ว "กาษานาคา"
ได้ 9 ,10 "เลือดในดิน" 11 ,12 แต่มันก็ไม่มีผล ไม่มีความหมายอะไร
เราไม่ได้มีละครเยอะมีแค่ปีละ 2-3 เรื่อง กติกานี้เรียกว่ากติกาจับผิด
หรือกติกาลำเอียง การมีกติกาต้องมีความแฟร์
ต้องมีความเป็นธรรมเพราะบริษัทเดียวที่โดนคือบริษัทของเรา
ก็เลยเกิดความรู้สึกว่าคงถึงเวลา
เราอดทนมาตลอด"
       
       "รุ้งเคียงดาว
เรตติ้งตอนนั้นประมาณ 9, 10 ก็บอกว่าไม่ดีและตัดออกเลย 3 ตอน สตรีที่โลกลืม
ถูกตัดอีก 3 ตอน สัญญาเมื่อสายัณห์ ถูกตัดอีก 1 ตอน เหนือทรายใต้ฟ้า 1 ตอน
ทั้งหมดละคร 8 ตอนเงินรายได้เกือบ 9 ล้านบาทหายไปเลย เราต้องควักกระเป๋าจ่าย
ไม่มีการรับผิดชอบร่วมกัน ไม่มีมันเป็นความผิดของบริษัทที่ได้เรตติ้งไม่ถึงเป้า
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรตติ้ง
เราไม่เคยคิดมาก่อนจะเกิดขึ้นกับคนที่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ให้กับช่อง"
       
       "ขอบอกว่ากรุณาอย่าใช้กติกาโหดๆ
แบบนี้กับใครอีก เอาละ เมื่อใช้กับเราแล้วก็ต้องไปแต่อย่าใช้กับคนอื่น
อย่าให้คนทำงานรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสัตว์ (เน้นเสียง) ประเภทที่ใช้แทง
แทงเข้าไปแทงให้ได้ชัยชนะ
แต่พอคุณแพ้เขาเอาคุณทิ้งแล้วบอกว่าคุณใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว อย่าทำแบบนี้อีก
อยากให้เสนอความเป็นจริงไม่ต้องบิดเบือนอะไรทั้งนั้น"
       
       บอกตอนนี้อยู่ในช่วงการพูดคุยกับผู้ใหญ่
ยังไม่มีละครเรื่องใดผ่านการอนุมัติ ส่วนเรื่องใหม่ไม่มีดาราสังกัดช่อง 7
แสดงอีกแล้ว รวมถึงอดีตนางเอกช่อง 3 "จอย ศิริลักษณ์" ยัน
ยังไม่มีการติดต่อให้ร่วมงานตามข่าวด้วย
       
       "กราบขอบคุณ
คุณประวิทย์ มาลีนนท์ที่ให้ความกรุณา ตัวผมเองเป็นคนที่เกิด
เล่นละครและเป็นผู้จัดของช่อง 3 มาก่อน
อันนี้เป็นความในใจที่อยากจะบอกวันนี้"
       
       "ข่าวออกเราได้
3 เรื่องแล้วไม่จริง ตอนนี้เราอยู่ในการพูดคุยกันอยู่ แต่ที่แน่ๆ
คุณประวิทย์บอกว่ายินดีที่จะให้เราร่วมงาน เราเสนอหลายเรื่อง หลายแนว
นักแสดงทั้งหลายเหมือนที่เคยทำมา ยังไงก็เลือกนักแสดงที่เซ็นสัญญากับช่อง ไปช่อง 3
เราก็ต้องเลือกนักแสดงของช่อง 3 ออยกับลิฟท์เป็นนักแสดงอิสระเล่นช่องไหนก็ได้
เขาเล่นช่อง 3 มาหลายเรื่องถ้าเขาจะกลับมาเล่นอีกก็ไม่เป็นไร
คิดว่าไม่ภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้าคงจะได้รู้แล้วว่าได้เรื่องไหนบ้าง
ของเป่าจินจงและฮั้งมโนก้า เสนอไปอย่างละ 4
เรื่อง"
       
       "ส่วนจอย
ออไม่มีครับๆ แต่จอยจะโทรคุยกันในฐานะครูกับลูกศิษย์
จอยมีอะไรก็โทรมาเป็นประจำอยู่แล้ว เรายังไม่เคยชวนจอยแม้แต่เรื่องเดียว
เรารอดูว่าทางช่องต้องการใครแสดงมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นช่อง 3 ช่อง 7
ยังไงเขาก็ต้องเลือกนักแสดงที่ขายในตลาดได้"
       
       ย้ำสัมพันธ์กับหนึ่งในผู้บริหาร
"แดง สุรางค์ เปรมปรีด์" จากกันด้วยดี ส่วนละครที่กำลังถ่ายทำป้อนให้วิกหมอชิต
"ฟ้าให้เรามารักกัน" ที่นำแสดงโดน "วิน ธาวิน" และ "ชาม ไอยวริญห์"
กำลังเร่งถ่ายทำ
       
       "กับคุณแดงก็ยังดีอยู่ครับ
คุณแดงบอกว่าตู่ไปทำช่องอื่นได้เลยนะ เราทำมานานตลอดสิบปีเราไม่เคยไปช่องไหน
แต่เมื่อเราตัดสินใจก้าวเข้าไปแล้วเราก็ต้องยึดมั่นกับช่องที่ให้เราจริงๆ
ปัญหาอื่นไม่มีครับเรามีแต่ปัญหาเรตติ้ง"
       
       "ส่วนเรื่อง
"ฟ้าให้เรามารักกัน" ก็ออนแอร์ครับ สิ่งที่ลงทุนไปแล้วยังไงก็ไม่ปล่อยให้เสียหรอกนะ
วินก็เป็นพระเอกที่ฮอตมากๆ พอสมควร
และตอนนี้ยังถ่ายไม่จบคิดว่าจะปิดกล้องได้ภายในเดือนนี้
เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่มีคำว่า คุณภาพด้อย
การทำงานของตู่เวลาทำงานแล้วเป็นคนบ้างาน
เต็มที่กับงานจะไม่ให้คุณภาพของงานลดลง"
       
       ด้านซ้อนุช
หลังจากที่ฟังอีกฝ่ายพูดมานาน
ก็ได้ระบายความในใจบ้างว่า.....
       
       "
ณ วันที่เป็นผู้จัดนุชเคยแอบไปทำละครช่อง 3 เป็นละครสั้น
ไม่มีใครทราบเพราะจะปิดเงียบมากเลย ตอนนั้นคุณนพพลก็อยู่ยูม่า ดังมาก
เรารู้สึกว่าช่อง 7 เหมือนเป็นพ่อเป็นแม่เรา ช่อง 3 เสมือนดวงใจเป็นเพื่อนเป็นพี่
เลยเป็นที่ถกเถียงกันว่าเราจะอยู่ช่องไหน ขณะที่เปิดเป่าจินจงมีทั้งคุณประวิทย์มา
คุณสุรางค์มา แต่และแล้วเราก็เอามือที่เล็กๆ
ของเราดึงเขามาพรากจากอกทุกคนที่รักเขาดึงเขามาอยู่สถานีนี้โดยที่ไม่ได้คิดถึงหัวอกของเขา
ดึงมาก็เชื่อ มาง่ายๆ
อย่างนั้นด้วย"
       
       "ณ
วันนี้ขอบอกว่าบ้านเราทำให้เขาไม่สบายใจ เราก็ต้องยอมเขาไป นี่ร้องไห้มา 3
เดือนแล้ว (น้ำตาไหล) อันนี้คือบ้านเรา จากพ.ศ.2531 จนมาถึง 2551 20 ปีอ่ะ
เรารักช่อง 7 ใครจะว่า ช่อง 7เชย ช่อง 7 ลาวเรารักเขา เพราะเราเป็นคนของเขา
แต่เขาไม่รักคนของเรา (เริ่มสะอื้น) วันนี้ต้องขอกราบขอโทษ (กราบตู่) พ่อด้วยนะคะๆ
ที่เอาพ่อลำบากถึง 10 ปี ทุกข์บ้าง หัวเราะบ้าง
หนูร้องไห้หนูมีความสุขอยู่แล้วค่ะเขาทำให้หนูเกิดมา แต่หนูต้องขอโทษพ่อจริงๆ
ที่เอาพ่อมาเจ็บหนักขนาดนี้ หนูจะไม่แบบนี้อีกแล้วค่ะพ่อ"
(ปล่อยโฮซบลงที่ไหล่)
       
       ผู้จัดคนเก่งหลังปลอบใจซ้อ
ลั่นไม่โทษใครทั้งสิ้น
หวังมุ่งมั่นทำงานที่มีคุณภาพต่อไป
       
       "มันไม่ใช่ความผิดของนุชหรือของใครทั้งนั้น
มันเป็นการเดินทางของเราสองคนบางทีมันก็ยากลำบาก
บางทีก็มีรอยยิ้มบางทีก็มีเสียงหัวเราะ เราต้องพบเจอหลายๆ สิ่ง
แล้วจะสอนเราเองว่าจะทำยังไง
ทางเดินข้างหน้าเราสองคนมั่นใจว่าจะเดินไปในทางมุ่งมั่นและตั้งใจ
และการทำงานที่เราทำเราก็จะยึดมั่นคติเดิมว่าเราจะทำงานที่ดีที่สุดให้กับคนดู
เพราะว่าตัวผมเองได้คู่คิดที่ดี ได้คนที่ให้กำลังใจ
ร่วมชีวิตที่ดีคนนี้ครับ



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์