เป้ยเจ็บเลิกอาร์ เก็บความทรงจำที่ดี


ทําเอาคนช็อกวงการ เพราะไม่คิดว่าดาวร้ายสาวแอ๊บแบ๊วอย่าง "เป้ย" ปานวาด เหมมณี จะเลิกกับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง "อาร์"อาณัตพล ศิริชุมแสง ที่คบกันมาถึง 3 ปีจริง

เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก งอนกันไปมา แถมสวีตจ๊ะจ๋าออกงานให้ควั่ก

แต่ข่าวคอนเฟิร์มจากปากของทั้งคู่ แถมฝ่ายชายยังคุยกับสาวคนใหม่ตอกย้ำสถานภาพ

วันนี้รับศักราชใหม่ สาวแบ๊วพร้อมเปิดใจกับเรื่องราวที่ผ่านมา

หลังเลิกกับอาร์ ดูข่าวคราวของเป้ยค่อนข้างเยอะ ขณะเดียวกันงานก็เยอะตามมาด้วย?

เป้ย - "เป้ยว่าขึ้นอยู่ที่ตัวเรา ถ้าเรามีข่าวไม่ดีแล้วทำตัวไม่ดีตามก็คงไม่มีคนจ้าง แต่เป้ยเอาใจใส่กับงานที่ทำ ตั้งใจ และรับผิดชอบ ข่าวก็คือข่าว แล้วคนจะเข้าใจเองว่าแค่ข่าว ไม่เกี่ยวว่ามีข่าวเยอะแล้วงานต้องเยอะตาม"

"ซึ่งข่าวของเป้ยที่ออกไปส่วนใหญ่จะโดนด่า เพราะคนไม่รู้จักยิ่งห่างไกลตัว ไม่รู้จะทำยังไง อย่างมีข่าวว่าเป้ยไปขาย ตัว ข่าวแบบนี้ไม่ค่อยสะทก ตลกด้วยซ้ำ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเราทำหรือไม่ทำ แต่เป้ยจะซีเรียสข่าวที่กระทบถึงคนอื่น อย่างตอนที่เป้ยร้องไห้ตอนเลิกกับอาร์ ตอนนั้นอาร์โดนว่าไม่แมน พูดไม่รักษาน้ำใจ ต้องบอกว่าอาร์ไม่ผิด เพราะเป้ยขี้แย และเรื่องนี้เป็นเรื่องของคน 2 คนที่ไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ใช่เพราะภาพหลุดที่อาร์ควงนักศึกษา"

กับอาร์สัมพันธ์ ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร?

เป้ย - "เลิกแล้วค่ะ แต่เป้ยยังรักอาร์อยู่เหมือนเดิม เพียงแต่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ จะยืดเยื้อทำไม บั่นทอนจิตใจเปล่าๆ เลิกดีกว่า เลิกทั้งที่ยังรักเจ็บนะ"

แต่พอเลิกแล้วก็เป็นเพื่อนกันได้?

เป้ย - "ค่ะ เป้ยเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ทุกคน ทำไมเลิกแล้วต้องเกลียดกัน ไม่มองหน้ากัน ในเมื่อไปด้วยกันไม่ได้ก็เลิก เหลือไว้แต่ความสวยงาม เป้ยทำแบบนี้แล้วสบายใจ จะให้เจอกันแล้วไม่ทักมันไม่สบายใจ อยากรู้ว่าเขามีความเป็นอยู่ที่ดีมั้ย โอเคหรือเปล่า ทุกวันนี้ยังมีคำถามจากหลายๆ คนว่า ตกลงเลิกกับอาร์จริงมั้ย เพราะเห็นเป้ยเจอกับอาร์ยังคุยกันดีอยู่ ทุกคนที่รู้จักจะบอกว่าไม่เชื่อว่าจะเลิกกันได้ มีบางคนลุ้นให้กลับมาดีกัน"

"ตอนที่เลิกใหม่ๆ ทำใจอยู่ 4 วัน อยู่กับตัวเองคนเดียวปิดห้องร้องไห้ไม่รับงานเลย บอกได้เลยว่าคราวนี้เลิกแน่ เป็นเพื่อนกันแล้วยังยิ้มได้กับมุมที่เขาน่ารักๆ อาร์น่ารักมากเพียงแต่ว่ามุมมองของคน 2 คนต่างกัน"

ที่ว่าต่าง ต่างกันยังไง?

เป้ย - "อย่างเป้ยอยากทำงานเก็บเงิน อยากมีบ้าน มีครอบครัว คือมองและวางแผนอนาคตมากขึ้น อยากมีงานหลักๆ ทำนอกเหนือจากงานในวงการ เพราะเป้ยอยู่วงการมา 7-8 ปีแล้ว เข้าใจว่าอาร์เพิ่งเข้าวงการ เขายังสนุกอยู่ แต่ถ้าจะรอให้อาร์โต ก็ไม่รู้เขายังรักเราอยู่มั้ย เพราะฉะนั้นเราต้องรักตัวเองทำเพื่อตัวเอง"

ดูเป้ยเป็นคนจริงจังกับความรัก?


เป้ย - "ค่ะ เป้ยคบใครก็คบทีละคน และมองถึงอนาคตว่าอยากให้เป็นเขา มีเหมือนกันที่ผู้ชายเข้ามาเจ้าชู้ใส่เพราะภาพลักษณ์เราเป็นแบบนี้ มีที่เข้ามาคุยแล้วถามว่า เลิกแล้วไปต่อที่ไหน ซึ่งเราก็แบบไม่ใช่อย่างนั้นไง เหมือนตอนแรกครอบครัวอาร์เขาก็มองเราไม่ดี แต่พอได้รู้จักกันมากขึ้น เขาก็มองข้ามเรื่องแบบนี้ไป มองที่ตัวตนเป้ย ซึ่งครอบครัวเขาน่ารักมากค่ะ"

เศร้าไหมที่อาร์มีข่าวกับสาว ทั้งที่เรายังไม่มีใคร?

เป้ย - "มีเจ็บบ้าง แต่ทำอะไรไม่ได้ถ้าเขามีความสุขก็โอเค และไม่แปลกหรอกที่เขาจะควงเด็กกว่า เพราะตอนคบเป้ย เป้ยจะเป็นคนตัดสินใจให้เขา ซึ่งตัวเป้ยมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า พอมาเห็นรูปที่อาร์ควงนักศึกษาทำให้เก็ตแล้วว่าเขาอาจอยากเป็นผู้นำ เพราะตอนที่คบกันเราดูแลเขา"

แล้วข่าวเกาเหลานิวเคลียร์ (น้องอุ้ม-ลักขณา) ที่เป้ยไม่รับไหว้นี่ยังไง?

เป้ย - "เรื่องนี้จริงๆ ไม่อยากพูดถึงแล้ว ตอนที่เขามาไหว้เป้ยแว้บแรกไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็รับไหว้แบบงงๆ แต่พอเพ่งนานๆ จึงรู้ว่า อ๋อ คนนี้เอง จำไม่ได้หรอก เขาไม่ใช่ พี่ลูกเกด-เมทินี นี่ที่จะมีออร่า แต่ปกติเป้ยรับไหว้ทุกคนอยู่แล้ว เป้ยก็เลยไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ใครจะยังไงก็ช่างอยากให้จบๆ ตอบโต้ไปยิ่งไปกันใหญ่ อาร์พอจะรู้จักและรู้ว่าเขาเป็นยังไง ยังบอกให้นิ่งๆ เป้ยไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่ได้เป็นคนที่ชอบทะเลาะกับใคร งงมาก แต่ใครจะมาทำอะไรเป้ยไม่ค่อยได้นะ เป้ยไม่ยอม"

เห็นว่าเปลี่ยนแนวมาเล่นดนตรีไทย?

เป้ย - "อาจเป็น ซานิคนที่อยู่บ้านเอเอฟแล้วชอบทำปากเบี้ยวๆ เหมือนเป้ยมั้ง(หัวเราะ) เขาบอกว่าปลื้มเป้ยก็แค่นั้น พอดีสนิทกับพี่กุ้ง คูนิต้า เหมือนกัน คุยโทรศัพท์กันครั้งเดียว นอกนั้นก็บีบีคุยกัน ซานิเขาแค่ปลื้มไม่ได้จีบ ถ้าเป้ยเจอใครสักคนที่รู้สึกดีไม่จำกัดว่าเป็น เพศไหนก็คุยได้หมด ไม่อยากให้มองกันแค่ภายนอก ให้มองถึงจิตใจข้างใน เอานิสัยมาคบกันดีกว่า เพราะอย่างเป้ยก็ไม่ได้วิเศษ ไม่ได้เป็นคนสวย ถ้าลบเครื่องสำอางก็ผู้หญิงธรรมดาๆ คนนึง แต่ยืนยันยังชอบผู้ชายอยู่ค่ะ"

มีอะไรที่อยากพูดแต่ไม่เคยมีใครถามบ้าง?

เป้ย - "คงเป็นเรื่องอาร์ ที่คนมองเขาไม่ดี อยากให้เข้าใจตรงนี้ และต้องขอโทษที่ร้องไห้วันนั้น เป้ยเป็นคนขี้แย พยายามแล้วที่จะไม่ร้องไห้แต่อดไม่ได้ เลยทำให้คนมองอาร์ไม่ดีไปด้วย ต้องบอกว่าอาร์เป็นคนดีคนนึง โชคดีที่ได้มาเจอเขา แต่ที่ทำให้เราคบกันไม่ได้เพราะมุมมองต่างกัน อย่าโทษอาร์ อาร์ตอบคำถามตรงๆ คนก็จะมองว่าทำไมตอบไม่รักษาน้ำใจเป้ยเลย คนจะไม่เข้าใจ แต่เป้ยรู้ว่าเขาไม่ได้มีจุดประสงค์ไม่ดี เพียงแค่ตอบไปตามความจริงค่ะ"





โสดอย่างนี้มีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบบ้างไหม?

เป้ย - "มีที่กล้าเข้ามาเหมือนกัน และก็มีที่เจ้าชู้อย่างแรงเข้ามาหา ด้วยภาพลักษณ์เป้ยเป็นคนแรงๆ ไง แต่เท่าที่มีก็คุยกันแบบเพื่อน ยังไม่มีใคร และเป้ยเป็นคนไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ อยากได้ผู้ชายที่มีความเป็นผู้นำ อยู่ด้วยแล้วปลอดภัยและรู้สึกว่าเขาปกป้องเราได้ บางครั้งเราท้อแท้ เขาก็สามารถให้ความอบอุ่นแก่เราได้ค่ะ"


หนุ่มคนไหนมีคุณสมบัติ รีบสมัครด่วนจ้า



หลานรักอาม่า

เป็นคนใต้โดยกำเนิด เพราะเกิดและเติบโตที่อ.เบตง จ.ยะลา แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ เพราะทั้งผิวพรรณและรูปร่างหน้าตาของสาว "เป้ย" ปานวาด เหมมณี นั้นทั้งขาวและ หมวย

โดยเธอว่า "อาจเพราะครอบ ครัวมีเชื้อสายจีนอยู่เลยขาว"

"ตอนเด็กๆ เป้ยอยู่กับอาม่า อาม่าจะรักเป้ยมาก ใครจะมาดุมาว่าเป้ยไม่ได้เลย เรียกว่าเป็นหลานรัก อยากได้อะไร อยากกินอะไรขอให้บอก อาม่าจะตามใจทุกอย่าง แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นจะเข้มงวดมาก อย่างเรื่องจะไปไหนมาไหน กลับบ้านต้องตรงเวลา"

และด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว เรื่องดื้อและเอาแต่ใจก็ไม่เคยน้อยหน้าใคร

เป้ยเข้าวงการด้วยการเข้าประกวดดัชชี่ บอย แอนด์ เกิลด์ ปี 2001 โดยเธอเล่าว่า

"พอดีตอนนั้นกองประกวดดัชชี่มาที่ใต้ และมีพี่โมเดลลิ่งที่รู้จักเขาส่งรูปเป้ยเข้าประกวดด้วย แล้วก็ได้เข้ารอบที่ภาคใต้พอดี ตอนนั้นไม่คิดว่าจะได้เข้ารอบและไม่ได้บอกแม่ด้วย เพราะตอนนั้นถ้าได้ที่ 1 ภาคใต้จะได้เงิน 1 หมื่นบาท กะว่าจะไปซื้อของขวัญเซอร์ ไพรส์ให้แม่ เพราะตรงกับวันเกิดแม่พอดี อีกใจก็กลัวตกรอบด้วยเลยไม่บอก สุด ท้ายก็เข้ารอบและได้ไปเข้าชิงที่ภาคกลาง ถึงตอนนี้ต้องบอกทางบ้านแล้ว"

ถามว่าตอนนั้นเลือกใช้ความสามารถพิเศษอะไรเข้าประ กวด เป้ยกล่าวว่า "ตอนนั้นเป้ยใช้ความสามารถที่มีอยู่ คือการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน เพราะตอนเข้ามาก็เข้ามาแบบงงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ เลยคิดซะว่าเป็นตัวแทนโรงเรียนของภาคใต้แล้วกัน จะได้ทำให้ดีที่สุด ไม่ได้ก็ช่างมัน แม่เองก็งงว่าลูกเข้ารอบมาได้ยังไง สวยก็ไม่สวย และเป้ยเองไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องเข้าวงการเป็นดาราเหมือนเด็กคนอื่นๆ เลยทำให้ไม่หวังกับการประกวดครั้งนี้"

"แต่ปรากฏผลออกมาได้รองอันดับ 2 ส่วนคนที่ได้ที่ 1 ปีนั้น คือ บลู-เอลิกา และ น้ำ-รพีภัทร ตอนที่ได้บอกตามตรงไม่ได้ดีใจมาก แต่สงสารเพื่อนที่ต้องตกรอบไปค่ะ"

นี่ขนาดงงๆ นะเนี่ย






เพลาเซ็กซี่ -โชว์กึ๋นเสนอตัวตน

หลังประกวดดัชชี่ฯได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 มาแล้ว ชีวิตของสาว "เป้ย-ปานวาด" ก็เปลี่ยนไป ได้มาจับงานแสดงโดยประเดิมละครเรื่องแรก "เมืองดาหลา" ต่อด้วย "เพลงผ้าฟ้าล้อมดาว" กับบทนางร้ายเซ็กซี่ทำให้เธอแจ้งเกิด และรับบทร้ายมาตลอด

"กับบทร้ายเป้ยชอบ รัก และเคารพมันมาก ตอนนั้นภาพเป้ยเล่นเป็นนางร้ายเซ็กซี่ เขินตัวเองไม่รู้จะทำตัวยังไง คิดสารพัด ออกงานต้องแต่งตัวแบบไหน เจอสื่อต้องตอบคำถามยังไง"

เซ็กซี่แค่ในละครยังไม่พอ ดาราสาวยังถ่ายแบบเซ็กซี่ลงในนิตยสารเรียกเสียงฮือฮาอีกด้วย

"ตอนไปถ่ายแบบให้นิตยสารทีวีรีวิว ตอนนั้นถือว่าหวือหวาเยอะสุดแล้ว แต่ที่เยอะมากๆ คงเป็นการถ่ายแบบให้นิตยสาร MAXIM ที่พลิกไปเลย กระแสรุนแรงว่าทำไมเด็กดัชชี่ถึงโป๊ขนาดนั้น เพราะตอนนั้นเด็กดัชชี่จะใสๆ ยังดีที่ผู้ใหญ่ดัชชี่มีใบสั่งให้เป้ยเซ็กซี่แบบนี้ได้"

แต่ที่กระแสต่อต้านค่อนข้างแรงกลับเป็นที่บ้านเกิดของเธอ ที่อ.เบตง ด้วยลุงเป็นนายกเทศมนตรีที่นั่น

"สังคมต่างจังหวัดแคบ ทำให้ต้องวางตัวเรียบร้อย พอมีภาพออกไปสังคมเขาก็ต่อต้าน เครียดมาก คุยกับแม่เลยตอนนั้น แต่แม่ก็บอกว่าถ้าคิดว่าเป็นการทำงาน แล้วทำให้เรามีรายได้ก็อย่าไปสนใจอะไร ตัวเป้ยไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ แม่นั่นแหละจะโดนเยอะ แต่กระแสตอนนั้นดีมากคนชมว่าสวย เซ็กซี่ดี"

การตัดสินใจจับคาแร็กเตอร์เซ็กซี่ครั้งนี้ถือว่าป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะแต่นั้นเป็นต้นมา ชื่อเสียงของหนูเป้ยก็ดังกระหึ่ม งานไหลมาเทมา

"ต้องขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณดวงชะตาที่ทำให้เป้ยก้าวมาไกลถึงตรงนี้ ไม่เคยคิดว่าจะดังขนาดนี้ ที่สุดแล้ว ไม่เคยวาดฝันว่าต้องดัง ต้องโกอิน เตอร์"

"อย่างตอนที่ได้เล่นหนัง "บางกอกแดนเจอรัส" ตอนนั้นทำตัวไม่ถูกเลย เพราะไม่คิดว่าจะได้มาเล่นหนังฮอลลีวู้ด เล่นคู่กับ นิโคลัส เคจ ยังคิดเลยว่าเรามาไกลเกินไปหรือเปล่า กลัวว่าถ้าวันนึงลืมตัวขึ้นมาจะทำไง"

เซ็กซี่จนเจนตา ดาราสาวก็เพลาภาพหวือหวาของตนเองลง ด้วยเธออยากเลือกรับงาน

"ตอนนี้อยากขายความสามารถ เสนอความเป็นตัวเป้ยเอง เรื่องความเซ็กซี่ก็แค่คาแร็กเตอร์หนึ่ง ยิ่งตอนนี้เซ็นสัญญากับสหมงคลฟิล์ม เสี่ยเจียง(สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) มีความคิดที่ตรงกับเป้ย คือไม่ต้องเซ็กซี่แล้ว แถมยังได้เล่นละครด้วย ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่ เป้ยอยากอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องแต่งตัวโป๊ และยังได้ตอบแทนสังคมด้วยค่ะ"

สวยแล้วยังจิตใจงามอีกต่างหาก



บทเรียน

อยู่วงการมาร่วม 10 ปี สาวตาแป๋ว "เป้ย-ปานวาด" บอกข่าวที่แรงเกินรับนั้นคือการได้ฉายา "สตอเบอร์รี่เรียกพี่"

"เรื่องฉายา สตอเบอร์รี่เรียกพี่ นี่แรงสุดแล้ว ข่าวอื่นเฉยๆ อย่างข่าวขายตัวให้เอาหลักฐานมายืนยันได้เลย แต่สำหรับฉายานี้เกิดจากความที่เราคิดอะไรก็พูดไปแบบนั้น"

"อย่างตอนนั้นเลิกกับอาร์จริงก็พูดว่าเลิก วันรุ่งขึ้นเคลียร์กันได้กลับมาคบกันอีกก็บอกว่าคบ เลยทำให้คนคิดว่าเราสตอเบอร์รี่หรือเปล่า ซึ่งแค่เราเป็นคนตรงๆ เท่านั้น เลยทำให้เป็นบทเรียนราคาแพงว่าจะทำอะไรต้องคิดให้ชัวร์ก่อนแล้วค่อยพูด"

"ยอมรับตอนนั้นเครียด เสียใจ ท้อแท้ ขนาดคิดจะลาออกจากวงการเลย แต่พอมาถึงวันนี้ได้ กลับรู้สึกดีใจที่ได้บทเรียนแบบนี้ ทำให้เราโตขึ้นค่ะ" เป้ยกล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์