เปิดใจไม่อ้อมค้อม กับ อ้อม พิยดา อัครเศรณี

หากพูดถึงชื่อของ "อ้อม" พิยดา อัครเศรณี ในเรื่องของฝีมือการแสดง คงการันตีได้ว่าเธอคนนี้

เป็นนางเอกที่มีคุณภาพคับแก้วที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิง เรียกว่าไม่เสียชื่อ "เปี๊ยก" พิศาล คุณพ่อของเธอ ซึ่งเป็นถึงผู้กำกับ อีกทั้งยังเป็นนางเอกที่มีภาพลักษณ์ดี (สร้างภาพ) แต่สิ่งที่หลายคนจับตามองมากที่สุด นั่นก็คือความรักของ อ้อม ในวันนี้ ที่มีข่าวว่า ท่านผู้หญิงพรรณวดี คุณแม่ของ "อาท" ศรา จุฑารัตนกุล ไปขอฤกษ์สมรสพระราชทาน จะเป็นจริงหรือไม่ ได้เจอหน้านางเอกคนดัง ในกองถ่ายละคร "อาทิตย์ชิงดวง" ค่ายเอ็กแซ็กท์ เลยได้โอกาสเปิดใจสาวอ้อมมาฝากแฟนๆ "บันเทิง คม ชัด ลึก" กัน



ว่าด้วยงานละคร ละคร อาทิตย์ชิงดวง

เล่นยากมาก เหนื่อย เพราะถึงแม้จะเป็นการแสดง แต่มันคนละแบบเลย อ้อมไม่เคยเล่นแนวนี้ก็เลยยาก แล้วอ้อมเป็นคนเล่นแล้วรู้สึกจริง แต่ตัวละครตัวนี้ มันเสแสร้งแกล้งตลอด แต่เราเล่นจริง คนดูก็อาจจะงง ว่าตกลงจะเป็นคนดีหรือคนเลวกันแน่ ก็ต้องมีอะไรซ้อนไปหลายๆ ชั้น นี่อ้อมเพิ่งรู้สึกเอง ว่าเล่นแล้วคิดออกว่าจะใส่อะไรเข้าไป แต่ก่อนจะรู้สึกเล่นไม่ได้ เครียด เล่นแล้วก็ต่อต้านกับบทว่ามีคนเลวขนาดนี้เลยเหรอ

 ร้ายครั้งแรก แถมต้องแสดงร่วมกับ "พ่อเปี๊ยก" ครั้งแรกด้วย

 ค่อนข้างเกร็งเหมือนกัน แล้วต้องแสดงกับพ่อตัวเองด้วย สรุปว่าเล่นกับพ่อยากสุด เพราะเขาคือพ่อ มันเหมือนมีม่านอะไรขวางอยู่ เขาดูแล้วก็หัวเราะ ก็ต้องบอกว่า อย่าหัวเราะสิ คนยิ่งเล่นไม่ได้อยู่ด้วย พอเราจะทำหน้าร้าย เขาก็จะหัวเราะแล้ว ก็กดดันนะ เรื่องนี้ แต่ก็สนุกดี ตอนนี้ก็โอเคแล้ว มันดี

คนชมว่าเป็นนางเอกที่แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

ก็นี่แหละ ปัญหา เพราะบทนี้ต้องเล่นละคร ไม่ใช่เล่นแบบธรรมชาติ เวลาอ้อมเล่น อ้อมชอบเล่นแบบกระทำการเป็นตัวนั้นตัวนี้ แต่กับตัวละครตัวนี้ เราต้องแสดง เพราะฉะนั้น การแสดงมันก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง

 ติดเครียดกลับไปบ้านบ้างไหม

 ก็เครียดว่าจะทำได้ไม่ดีมากกว่า แต่ไม่เครียดว่าจะอินกับบทหรือยัง อยากอินมากเลยนะ (หัวเราะ)



ลูกไม้ (ไม่) ไกลต้น

 เล่นละครตั้งแต่เรื่องแรก "ทอฝันกับมาวิน" จนถึงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

 อ้อมเล่นละครมาประมาณ 10 กว่าเรื่องเอง เพราะอ้อมไม่ได้รับงานละครเยอะ แต่ละเรื่องก็ต่างกันไปทุกเรื่อง อย่างเรื่องนี้ก็คนละแบบ คนละคาแรกเตอร์

 เป็นลูกสาวผู้กำกับ แต่ทำไมถึงเลือกประเดิมละครกับค่ายเอ็กแซ็กท์

 ก็คงเพราะอย่างนั้นด้วยมั้ง พ่อเขาก็มีส่วนอยู่แล้วด้วย ที่ทำให้เราต้องมาทำงานตรงนี้ แต่ถ้าเราจะทำงานจริงๆ ก็อยากจะทำงานกับที่อื่นก่อน ว่าเราสามารถทำงานได้จริงๆ ไหม คนดูๆ แล้วต้อนรับเราที่เราเป็นเราจริงๆ ไหม

 กลัวคำสบประมาทว่าเป็น "เด็กเส้น" 

 ใช่ๆ จริงๆ เราก็เป็นเด็กเส้นอยู่แล้วแหละ ด้วยนามสกุลอัครเศรณี ทุกคนก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นลูกพ่ออยู่แล้ว แต่ทีนี้เวลาเราทำงานออกมาจริงๆ ไม่ว่าใครที่เข้ามาทำงาน แล้วถ้าไม่ได้ตั้งใจทำงานตรงนี้จริงๆ ถึงจะมีโอกาสได้เข้ามาทำ แต่ก็คงไม่ต้อนรับ หรือว่าคนดูชื่นชอบ อ้อมก็เลยคิด ว่าเราก็คงพอมีฝีมืออยู่บ้าง คนดูก็ยังโอเคกับเรา ถ้าเราเป็นเด็กเส้นเข้ามา แต่ไม่ได้ตั้งใจทำจริงๆ อ้อมคิดว่าก็คงไม่ได้ทำงานอยู่จนถึงวันนี้



ตอนนี้เลิกกดดันหรือยัง

 เลิกกดดันนะ ดีซะอีก เป็นลูกพ่อ สบ๊าย...สบาย อ้อมไม่ได้คิดว่ามันเป็นการกดดันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็ทำไปตามปกติ

 คุณพ่อปลูกฝังเรื่องงานในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กไหม

 ไม่มีเลย ไม่เคย อ้อมไม่ได้คิดอยากจะมาทำงานตรงนี้ตั้งแต่แรก แล้วก็ไม่ได้คิด ว่าอยากจะทำอะไร ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนกับว่าพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เขาเห็นเรา เลยเรียกตัวไปเทสต์

 รักอาชีพนักแสดงขนาดไหน

 รักนะ ถือว่าอาชีพนักแสดง เป็นอาชีพของอ้อม ถ้าให้อ้อมมองวงการบันเทิง มันก็เหมือนกับทุกวงการ อย่างนักข่าว ก็มีเจ้านายคนที่ดูคอลัมน์เป็นคนตัดสิน แต่พอดีงานที่อ้อมทำ มีเจ้านายคือเป็นประชาชนทุกคนที่ดู ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ เรียกว่ามีคนตัดสินเราเยอะกว่าเท่านั้นเอง



 อึดอัดกับการถูกจับตามองไหม

 ไม่ เพราะอ้อมเข้ามาตรงนี้ ต้องยอมรับกับสิ่งที่มันต้องเป็นอยู่แล้ว หากความเป็นส่วนตัวจะหายไป มันอาจจะมีบ้างนิดๆ หน่อยๆ ยุงกัด มดกัดไป ถ้ามันจะมีอารมณ์ไม่ดี หรือเราหงุดหงิดอยู่ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่

 ตั้งเป้าจะแสดงไปจนถึงอายุเท่าไร

 ไม่ได้ตั้งเลย ก็จะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้านายของอ้อม คือประชาชน จะไม่อยากดูอ้อมแล้ว อ้อมไม่แคร์ว่าตัวเองจะได้รับบทแม่หรืออะไร เพราะมันก็แล้วแต่ ว่าเราจะนำเสนอเรื่องอะไรมากกว่า คือบ้านเราจะมีแค่นางเอกกับพระเอก แต่อ้อมบอกมาตั้งแต่ทำงานตั้งแต่แรกแล้ว ว่าขึ้นอยู่กับเขาจะนำเสนออะไรมากกว่า

 หลักในการทำงานของอ้อม

 คุณพ่อบอกว่า "ทำให้ดีที่สุด" แล้วก็จบ ไม่ต้องเสียใจอะไรแล้ว แต่ต้องทำให้ดีที่สุดนะ จะดีหรือไม่ดี มันต้องดีที่สุด ณ ตอนนั้น

 คิดจะตามรอยทำงานเบื้องหลังอย่างพ่อเปี๊ยกบ้างไหม

 (ส่ายหน้า) เห็นแล้ว ไม่เอาดีกว่า หนัก เหนื่อย ถ้าจะทำก็คงทำรายการ แต่ให้ทำละคร เป็นผู้จัด คงไม่เอา ให้ทำคงตายแน่ เพราะเป็นคนเป๊ะด้วย เป็นคนต้องอย่างนี้ๆ ไม่มีคำว่า ไม่ได้ ถ้าให้ทำหัวคงระเบิดน่ะ (หัวเราะ)



ผลผลิต 'อัครเศรณี'

 ยึดคุณพ่อเป็นต้นแบบในการทำงานหรือเปล่า

 ไม่อ่ะ พ่อไม่สอนอะไรสักอย่าง ก็จะบอกแต่ให้ทำให้ดี ก็ทำงานให้ได้ตามที่พ่อบอก เช่นมาถึงกอง อย่าคุย อย่าเล่น ห้ามเม้าท์ ให้อยู่ในบท อู๊ย...ทำหมดทุกอย่าง เม้าท์เละเทะ เล่นกระจาย พ่อบอกอย่าเม้าท์ถึงคนอื่น ก็เม้าท์แหละ มาถึงก็เม้าท์แล้ว (หัวเราะ)

 คนมองว่าดูดุถอดแบบพ่อเปี๊ยก

 คุณพ่ออ้อมดุที่ไหน ไม่ดุหรอก ใจดีจะตาย ตลก ถ้าพ่อดุเราก็กลัวสิ แต่ชีวิตจริง เขาก็ไม่ได้ดุหรอก แหม...ใครจะมาตบจูบตลอดเวลา เขาก็เป็นพ่อ บทบาทพ่อก็รักลูก ลูกก็รักพ่อ แต่ถ้าลูกทำผิด พ่อก็ดุสิ

 งั้นข่าวที่ว่าถ้าใครจะจีบต้องผ่านด่านพ่อก่อนก็ไม่จริงสิ

 มันก็คงต้องมีบ้าง แต่คงไม่ถึงขั้นต้องฝ่าด่านหรอก ปกติคนเป็นพ่อก็ต้องอยากให้ลูกได้คนดีๆ แต่ก็ไม่ขนาดนั้น ไม่มีใครที่ไม่ผ่าน ลูกรักใครก็รักด้วย

 หนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบมีเกร็งไหม

 ไม่นะ ก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องไปถามเขาแล้วล่ะ



รักอ้อม (แอ้ม)

 ข่าวว่าจะแต่ง

 ยังไม่มี ไม่มีฤกษ์ ไม่มียาม ไม่ได้มีการคุยกัน ไม่ได้เข้าไปขอพระราชทาน ก็ต้องไปถามคนให้ข่าว ว่าเขาไปทราบมาได้ยังไง เพราะก็ไม่ทราบจริงๆ ที่คุยกันก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้มีแพลน คบกันไปเรื่อยๆ

 อาทขอแต่งงานบ้างหรือยัง

 ไม่ขอ ยังไม่ขอ (หัวเราะ)

 ตกใจกับข่าวไหม

 รู้สึกว่ามันมากเกินไปด้วยในตรงนี้ จริงๆ ก็ไม่กล้าพูดนะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเรา ก็เลยไม่อยากพูดไง ถ้าเกิดใครที่เขาบอกว่าเขาทราบ ก็คงต้องไปถาม เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว ถ้าบอกเป็นแฟนกัน มีคนนั้นคนนี้ก็ยังพอว่า แต่ถ้าถึงขั้นนั้น ก็ควรกลั่นกรองข่าวด้วยในระดับที่ดีมากๆ ถึงจะลงได้ เพราะจริงๆ ถ้าเรื่องสำคัญแบบนี้ อ้อมก็ให้เกียรติพี่นักข่าว ให้เกียรติแฟนๆ ก็ต้องบอกกันอยู่แล้ว ถ้ามีข่าวดี แต่ว่ามันไม่มี ก็ต้องไปถามว่าเขารู้มาจากไหน



คุณพ่อคุณแม่ทางอ้อมและอาทว่าอย่างไรบ้าง

 ก็ยังไม่มีใครว่าอะไรนะ ยังไม่มีใครคุยอะไรกันเลย เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร อย่างพ่ออ้อมนี่ไม่ต้องพูด ก็เข้าใจอยู่แล้วว่าข่าวคืออะไร ฝั่งอาทก็เข้าใจ หัวเราะเฮฮาสนุกสนาน

 ข่าวว่าแม่อาทไปแนะนำกับเพื่อนๆ ว่าอ้อมคือว่าที่ลูกสะใภ้

 อู๊ย...จริงๆ ก็รู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนยังไม่คบกัน ถ้าเขาปลื้มก็ขอบพระคุณ เพราะเราก็เป็นเด็กอยู่ในสายตาท่านมานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาคบกัน หรือเพิ่งรู้จักกัน

 มีข่าวว่าไปเที่ยวกันที่ญี่ปุ่น

 ก็ไปกันจริง ไปเป็นทัวร์เลย 40 กว่าคน เยอะมาก นอนบ้าน 3-4 หลัง คงไม่มีเวลาสวีท เหนื่อยมาก เอาตัวเองจะไม่รอด เพราะไปออกกำลังกาย เล่นสกี ดำน้ำ ก็กลุ่มเดิมกัน แต่คราวนี้มีน้องแมค มีพี่แหม่ม (คัทลียา กระจ่างเนตร์) ไปด้วย

 ถ้าเขามาขอจริงๆ พร้อมหรือยัง

 ยังไม่รู้ เรื่องใหญ่นะ ถ้ามีอะไรจริงๆ จะบอก แต่ยังไม่เห็นมีอะไรเลย ถ้าถึงเวลา ก็ถึงเวลาเอง ตอนนี้ก็ไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดว่าอายุขนาดนี้ คนอื่นแต่งแล้วต้องแต่งตามเขา เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ความสุขของเรา ถ้าเราไปฟังคนอื่น ว่าคนอื่นเขาแต่งแล้ว ทำไมเราไม่แต่ง มันก็ไม่ได้ มันอยู่ที่เรา มันเรื่องของคนสองคน เอาไว้ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะบอก

 2 อ. (อ้อม-อาท) จะได้มาผนวกกันเมื่อไหร่ รอลุ้นกันต่อไปนะจ๊ะ แฟนๆ จ๋า...



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์