เปิดดวงดาราไทยเจอภัยไม่คาดคิด

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย เปิดดวงดาราไทยเจอภัยไม่คาดคิด

ช่วงที่ผ่านมาวงการบันเทิงเกิดเรื่องราวคึกคักให้ได้ติดตามกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

บางเรื่องก็ดูช่างน่าฉงนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่บ้างเรื่องนั้นก็ดูว่าเรื่องที่เกิดมันแปลกประหลาดพันธุ์ลึก จนยากจะเข้าใจ เรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่าคนวงการบันเทิงเข้าสู่ภาวะดวงมีปัญหา ลองมาดูกันสิว่า ดวงใครเจอเรื่องอะไรกันบ้าง

ออกสตาร์ทด้วยพระเอกหนุ่มหน้ามน คนน่ารัก...ก (อ่ะ) อย่าง "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ที่เจอพิษสงของดาวราหู จนมีกระแสข่าวออกมาว่าพระเอกหนุ่มดาวรุ่ง ถูกบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ยูนิลีเวอร์ แบน..น!! เพราะดันมีเรื่องกินแหนงแคลงใจกัน

โดยเรื่องราวใหญ่โตเป็นไฟลามทุ่ง โดยแหล่งข่าววงในบอกว่า ปัญหาของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ ศักดิ์ชัย กาย เจ้าของนิตยสารลิปส์ นำผลิตภัณฑ์ยาสระผม "เคลียร์" ที่ณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ มาให้พระเอกหนุ่มและนางเอกหน้าใหม่ถือประกอบการถ่ายแบบ แต่ "แม่แก้ว" สุดารัตน์ ไม่ยอม โดยให้เหตุผลว่า สินค้าดังกล่าวเป็นคนละตัวกับที่พระเอกหนุ่มเป็นพรีเซ็นเตอร์ หากจะให้ณเดชน์ถือจะต้องจ่ายค่าตัวเพิ่มจากที่ตกลงกันไว้จากเดิม 5 แสนบาท

เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ศักดิ์ชัยได้แจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัทยูนิลีเวอร์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทางยูนิลีเวอร์จึงส่งดอกไม้พร้อมแนบการ์ดไปขอโทษแม่ของณเดชน์ว่า "ขอโทษที่เกิดความผิดพลาดในการทำงานที่ญี่ปุ่น ต้องขออภัยด้วย" แต่แม่ของณเดชน์ได้ส่งกระเช้าดอกไม้ พร้อมสัญญาในการเป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสระผม "เคลียร์" ของ ณเดชน์ กลับคืนมา พร้อมระบุว่า "คงเป็นการร่วมงานครั้งสุดท้ายกับทางยูนิลีเวอร์แล้ว" ทำให้บริษัทยูนิลีเวอร์ไม่พอใจการกระทำดังกล่าว จนประกาศยกเลิกสัญญาทุกอย่างที่ทำกับณเดชน์ รวมถึงถอดโฆษณาละคร สินค้า หรืออีเวนท์ต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับณเดชน์ออกทั้งหมด

ซึ่งพอเรื่องอลหม่านขยายวงการออกไปจนกลายเป็นข่าวครึกโครม ทำให้ค่ายยักษ์ใหญ่ต้องการจัดร่อนแถลงการณ์คำชี้แจงและยืนยันว่าไม่มีการแบนพระเอกหนุ่มวิกพระราม 4 อย่างแน่นอน แม้ตามข่าวจะคล้ายว่าเคลียร์กันได้อย่างสวยงาม ทว่า...ว่ากันว่ามีข่าวเม้าท์ออกมาเป็นระลอกว่า อันที่จริงแล้ว เรื่องนี้ยังเคลียร์กันไม่ลงตัว เป็นแบบนี้แล้วลองจับตาดูเอาก็แล้วกันว่า นับจากนี้ ซุปตาร์ชื่อดังจะมีโฆษณาของยูนิลีเวอร์ อีกหรือไม่

ขยับมาที่พระเอกเครางาม ที่เฉียวฉิ่วดวงชะตามฤตยู อย่าง "บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" ขวัญใจแม่ยก นับว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่เจอเรื่องวุ่นๆ แบบไม่ทันตั้งใจ และตั้งตัว เมื่อเจ้าของผลิตภัณฑ์แป้งเย็นยี่ห้อหนึ่ง พร้อมด้วยทีมงานเกิดไอเดียบรรเจิด พาหนุ่มบอยขึ้นไปทำกิจกรรมคลายร้อนด้วยการอาบน้ำ บนบริเวณทางเชื่อม BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่แทนที่กิจกรรมจะได้ภาพลักษณ์ที่ดูเก๋ไก๋ เรื่องราวกลับตาลปัตร กลายเป็นเรื่องป่วน ชวนให้เกิดการจลาจล เพราะกิจกรรมนั้นส่งผลให้ผู้ใช้เส้นทางบนทางเชื่อมไม่สามารถเดินสวนทางกันได้สะดวก

จากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงกันไปมาจากประชาชนทั่วไป ร่วมไปถึงเหล่าแฟนคลับของหนุ่มบอยที่ยกโขยงมาให้กำลังใจกับดาราที่ชื่นชอบ ซึ่งก่อนที่เรื่องจะปานปลาย ในที่สุดทีมงานต้องสั่งปิดงานแบบปัจจุบันทันด่วน จากนั้นพระเอกหนุ่มให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น!! ทั้งนี้หนุ่มบอยยังได้โพสต์ข้อความขอโทษผ่านอินสตาแกรมอีกรอบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น และเมื่อจับยามสามตาดูแล้ว หนุ่มบอยสามารถผ่านพ้นวิกฤติมาได้อย่างไม่เจ็บตัวมากนัก ทว่า...ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น ล่าสุดหนุ่มบอย ยังโดนโกงเงินค่าทัวร์ไปเที่ยวอังกฤษหมดไปหลายหมื่นบาท เฮ้อ! ไปสะเดาะเคราะห์บ้างก็ดีนะ

อีกหนึ่งดวงชะตาที่เรียกว่าทำเอาใจหายใจคว่ำกันไป เมื่อจู่ๆ นักร้องสาวลูกทุ่ง "มาด เมกะแดนซ์" เจ้าของผลงานเพลง ดาวมหาลัย เกิดอาการวูบ ญาตินำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นการด่วน ขณะที่แพทย์นำตัวเข้าห้องไอซียูทันที ด้วยความดันสูงถึง 210 และหมดสติ นอกจากนี้ยังตั้งครรภ์ 6 เดือน เบื้องต้นแพทย์ตรวจพบมีอาการครรภ์เป็นพิษขั้นรุนแรง รอผลการสแกนสมอง และผลเลือด ส่วนลูกน้อยในครรภ์ ทางคุณหมอทำการผ่าทำคลอดออกมาก่อน เพื่อเป็นการช่วยชีวิต และหนูน้อยก็ยังต้องเข้าไปอยู่ในตู้อบ ฟากสาวมาดเข้ารับรักษาตัวเป็นเวลาเดือนเศษ ปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้นกับทั้งสาวมาดเมื่อสามารถข้ามผ่านช่วงเวลาวิกฤติของชีวิตมาได้ ทั้งสาวมาดและลูกน้อยกำลังจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง งานนี้เรียกว่าคนดีผีคุ้มของแท้

ปิดท้ายด้วยเรื่องโอละพ่อ ของนางเอกวิกหมอชิต "แพนเค้ก-เขมมิจ จามิกรณ์" หลังจากเจ้าตัวพร้อมด้วย "คุณแม่หน่อย" นวลนง วิ่งโร่แจ้งความ ว่าโดนยกเค้า สูญเสียเครื่องเพชรและนาฬิกา เป็นเงินรวม 200,000 บาท แต่เมื่อเจ้าหน้าที่รุดไปยังที่เกิดเหตุและทำการสืบสวนสอบสวนเป็นการด่วน ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ก่อนทุกอย่างจะคลี่คลาย ปรากฏว่ารอยนิ้วมือที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุ และนับว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ

มุ่งประเด็นมาที่ "พัตเตอร์" ภัทรนันท์ น้องชายของนางเอกสาว จากนั้นไม่นาน แม่หน่อยและนางเอกสาว ออกมาเปิดใจว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดภายในบ้าน และยิ่งไปกว่านั้น ไม่ได้มีขโมยขึ้นบ้าน แถมสาวแพนเค้กยังออกโรงปกป้องน้องชายหลังสังคมมองว่าพัตเตอร์ก็คือ "ขโมย" ด้วยบทสัมภาษณ์ที่ว่า

"จริงๆ พอจะได้ยินข่าวมาบ้างที่คนมองว่าพัตเตอร์เป็นคนเอาไป แต่ก็ไม่มีอะไรและได้คุยเรื่องนี้กับน้องเรียบร้อย น้องไม่ได้ซีเรียส แพนรู้ว่าน้องเป็นยังไง" สงสัยว่า งานนี้เพราะผลบุญที่แพนเค้กขยันทำเป็นเนืองนิจ เรื่องราวก็เลยจบลงด้วยดี