เปรี้ยง-บทแพท เจนก้าวชั้นนักแสดง

ถึงแม้จะอวสานไปแล้ว แต่ตัวละคร "แพท" ในละครเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" ทางช่อง 3 ก็ยังทำให้หลายคนอดอมยิ้มในความน่ารักน่าหยิกของเธอไม่ได้

และเพราะมีผลงานเข้าตากรรมการ วันนี้คู่สนทนาในคอลัมน์ "คุยกับดาว" เลยเป็นสาวใสที่ชื่อ "เจน"เจนสุดา ปานโต ผู้ถ่ายทอดบท "แพท" ดังกล่าว "เกินคาดมากๆ เจนปลื้มมาก ดีใจมาก โดยเฉพาะฉากจบมีแต่คนบอกว่าน่ารัก" เจนเผยรอยยิ้มด้วยความปลาบปลื้มเมื่อเอ่ยถึงผลตอบรับละคร "สวรรค์เบี่ยง"

จากนั้นคำสนทนาของเธอก็พรั่งพรูออกมาพร้อมด้วยสีหน้าที่เปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา "เจนชอบการแสดงมาตั้งแต่แรก แต่อาจจะด้วยจังหวะ โอกาส และด้วยประสบการณ์ เรื่องแรกๆ เราอาจจะยังเล่นไม่เข้าที่เข้าทาง ยังงงๆ แต่พอมีประสบการณ์มากขึ้น ทำให้เราพัฒนาการแสดงขึ้นมาเรื่อยๆ จนคนเห็นว่า เราก็เล่นได้เหมือนกัน"


-ถ่อมตัวหรือเปล่า เห็นละครแต่ละเรื่องที่เล่น ถึงจะมีไม่มาก แต่การแสดงก็ดูเด่น?

เจน -
"ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบท อีกส่วนเป็นเพราะตัวเราเองด้วย เจนตั้งใจทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ที่ผ่านๆ มาบทอาจจะยังไม่โดน คนเลยอาจจะยังจำเราไม่ได้ในภาพการแสดง แต่พอมาเล่นละคร "สวรรค์เบี่ยง" มีคนดูจำกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ดีใจมาก บางทีรู้ชื่อเรานะ แต่เรียกเราว่า "แพท" ถามหา "หลุยส์"(สก็อต) บางก็ฝากต่อย "พี่เคน"(ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) มีคำทักทายที่เยอะแยะมาก"

-บทเจนที่ต้องเล่นกับ 2 หนุ่ม "เคน-หลุยส์" เจนสามารถเล่นออกมาได้น่ารัก ดูสดใส โดยเฉพาะเวลาที่เข้าคู่กับ "หลุยส์"?

เจน - "หลายคนบอกเหมือนกัน ด้วยคาแร็กเตอร์ของแพท เจนก็ศึกษานิสัยเบื้องลึกของเขา คุยรายละเอียดกับผู้กำกับฯ ตอนแรกที่เล่นออกมาเอง ก็กลัวว่าเราเล่นเกินไปหรือเปล่า ดูแรดไปมั้ย จริงๆ นะ เพราะบทแพทจะต้องตามจีบผู้ชาย นำเสนอแนวขำๆ กับหลุยส์ตลอด ซึ่งบางทีดูเกินเส้นความเป็นผู้หญิงไทยไปหรือเปล่า แต่ด้วยตัวแพทเป็นคนอารมณ์ดี คำพูดคำจาน่ารัก พูดแกมเล่น พูดหยอก เลยออกมาแล้วดูไม่น่าเกลียด แล้วเวลาที่เล่นด้วยกันกับหลุยส์ เขาจะเขินจริง เลยทำให้คู่นี้ดูน่ารัก"

-ใช้เวลาค้นหาตัวละคร "แพท" นานมั้ย?

เจน - "นานเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่ได้บทมาเจนก็พยายามทำการบ้าน และพอถ่ายไปเรื่อยๆ มีบางทีที่ขัด ผู้กำกับฯบอกว่า ตรงนี้ไม่อยากให้ตัวแพทเป็นอย่างนี้ หรือสิ่งที่แพทพูดไม่อยากให้สื่ออารมณ์มันออกมาแบบนี้ เรียกว่า 15% แรกของการถ่ายทำยังมีปรับกันอยู่"


-ตัวละคร "แพท" กับตัวจริง "เจน" เหมือนหรือต่างกันยังไง?

เจน -
"จะว่าไปก็ไม่ได้ไกลกันมาก เป็นคนรุ่นใหม่เหมือนกัน จังหวะการพูด และที่เหมือนคือพูดตรง ถ่ายทอดออกมาตรงๆ แต่ก็มีอะไรที่ไม่ใช่ตัวเราเหมือนกัน ส่วนตัวแล้วรู้สึกหลงเสน่ห์หลงรักตัวละครตัวนี้ ขนาดเวลาที่ไปถ่ายทำนอกฉาก 50% เป็นตัวเรา อีก 50% เป็นตัวแพทไปด้วย เรียกได้ว่าอิน"

-เล่นบท "แพท" ที่กำลังมีความรักได้อิน เป็นเพราะตอนนี้ "เจน" กำลังมีความรักหรือเปล่า?

เจน - "จริงๆ ไม่เกี่ยวนะ เจนว่าสิ่งที่เกี่ยวมากๆ คือเพื่อนร่วมงาน และบรรยากาศในกองถ่ายมีส่วนช่วยมากเลย ถ้าบรรยากาศในกองถ่ายเครียด ไม่รีแล็กซ์นั้นจะทำให้เราเกร็ง ถ้ามีอาการเกร็งปุ๊บก็จะยากในการเล่นให้เป็นธรรมชาติ"

-กับละครเรื่องนี้ ให้คะแนนการแสดงตัวเองเท่าไหร่?

เจน - "(หัวเราะ) คือมีคนชมนะว่าเล่นได้เป็นธรรมชาติ เล่นได้น่ารัก เล่นดี แต่เจนยังขอให้คะแนนตัวเองครึ่งนึง เต็ม 10 เจนให้แค่ 5 เพราะเจนรู้ว่าถ้าเจนมีประสบการณ์มากกว่านี้ เจนน่าจะทำได้มากกว่านี้ คือตอนนี้พอดูตัวเองแล้ว คิดว่าเราน่าจะเล่นแบบนั้นแบบนี้ ดูแล้วครีเอตตามไปด้วย เจนยังอยากมีโอกาสในการพัฒนาก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ต้องอาศัยประสบการณ์ไปเรื่อยๆ"


-ที่แสดงได้ดี เป็นเพราะมีโอกาสได้เรียนการแสดงมั้ย?

เจน -
"ช่วยได้เยอะมาก ตั้งแต่เด็ก เคยมีโอกาสจะเล่นหนังเรื่องนึง แต่สุดท้ายไม่ได้เล่น ซึ่งครั้งนั้นเจนได้เรียนการแสดงกับ ครูแอ๋ว-อรชุมา(ยุทธวงศ์) และตอนที่เล่นละคร "กุหลาบสีดำ" เจนก็ได้ไปเข้าคอร์สเรียนการแสดงมาด้วย ซึ่งเจนอยากไปเรียนการแสดงที่นิวยอร์ก แต่ยังไม่มีโอกาส แต่ยังฝันอยู่ เพราะชอบการแสดง ถ้ามีโอกาส มีเงิน มีเวลา เจนก็อยากไปเข้าคอร์สเรียนการแสดงแบบจริงจัง แต่ตอนนี้คงยัง"

-อยากจะพัฒนาการแสดงตัวเองไปถึงขั้นไหนยังไง?

เจน - "คงต้องไขว่คว้าไปเรื่อยๆ เพราะการทำงานของเจนตั้งแต่แรก เป็นนักร้อง เป็นวีเจ. เป็นพิธีกร แต่ตั้งแต่เล่นละครมา เจนก็อยากให้คนเห็นภาพว่าเรายังมีอีกบทบาทหนึ่ง อยากให้ผู้จัด ผู้กำกับฯ ให้โอกาส ในโอกาสต่อไปก็น่าจะมีอะไรที่ดีขึ้นในเรื่องของการเเสดง และเวลาที่พี่เคน(ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) กับพี่เแอน(ทองประสม) เข้าฉาก ถึงแม้ในฉากนั้นจะไม่มีเรา เจนก็จะไปดูตลอด ดูพี่แอนพี่เคนเล่น อาศัยครูพักลักจำไปก่อน"

"สิ่งที่ได้เห็นได้เรียนรู้ คือ พี่แอนเล่นเก่งมาก มันทำให้เรารู้ว่าเราต้องมีสมาธิมากกว่านี้ บางทีเรายังมีล่อกแล่ก ใจไม่นิ่ง แต่พี่แอนก่อนที่จะเข้าฉากเขาจะนิ่งเลย ใครพูดอะไรใครฮาอะไรเขาจะนิ่ง ทำให้เจนรู้ว่าเราควรมีสมาธิ เพราะสมาธิช่วยให้เราอยู่กับคาแร็กเตอร์ตัวละครได้มาก"

-กับการแสดงอยากจะก้าวสู่ขั้นไหน?

เจน - "อยากจะเป็นนักแสดง เจนจะใช้คำว่านักแสดงตลอด เพราะว่าดาราไม่ใช่อาชีพ เป็นสิ่งที่คนเรียก ไม่มีหรอกอาชีพดารา แต่ที่รู้คือมีอาชีพนักแสดง เจนคิดว่าตัวเองอยากจะเป็นนักแสดงที่ดี"

-ตั้งเป้ากับงานไว้อย่างไรบ้าง?

เจน - "เป้าหมายของเจนคือ อยากเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดง ซึ่งตอนนี้กำลังพยายามอยู่ ในส่วนของงานวีเจ. เจนถือว่าเราประสบความสำเร็จ ณ จุดจุดหนึ่งแล้ว หลังจากละครเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" ประสบความสำเร็จแล้ว เจนก็หวังว่าจะได้รับโอกาสที่ให้เจนได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองว่าเราสามารถเป็นนักแสดงที่ดีได้ เจนอยากจะก้าวไปถึงจุดนั้นให้ได้ค่ะ"

และผลงานที่ผ่านมาของดาราสาว ได้ทดสอบให้เห็นแล้วว่าเธอสามารถเป็นนักแสดงที่ดีได้


"แม่"ให้ความวางใจ

เริ่มเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 14 ด้วยการถ่ายมิวสิควิดีโอ จากนั้นก็มีผลงานถ่ายแบบโฆษณาตามมา


จนกระทั่งอายุ 17 เจนสุดา ปานโต ก็มีโอกาสจับไมค์เป็นศิลปินดูโอ "เจนนี่&คอร์รี่" แต่ออกผลงานเพลงชุดเดียวก็จอด เพราะพอมาเป็นวีเจ.ที่เอ็มทีวีไทยแลนด์ ได้มาเป็นนักแสดง ภาพนักร้องที่แจ้งเกิดของเธอก็ถูกกลืน ซึ่งใจจริงเจ้าตัวยังอยากทำงานเพลงอยู่ แต่อยู่ที่จังหวะและทีมงานที่รู้ใจ

ส่วนงานวีเจ. ทุกวันนี้เธอยังทำอยู่ "เจนเป็นวีเจ.เอ็มทีวีมา 6 ปีแล้ว ยังสนุกเหมือนเดิม มีอะไรแปลกใหม่เพิ่มเข้ามาตลอด อยู่กับเพลง อยู่กับคอนเสิร์ต มีการเดินทาง มีอะไรใหม่ๆ ให้ได้ทำ รู้สึกสนุก เราเชี่ยวชาญขึ้นกับงานวีเจ. รับมือได้หมด"


ต่อข้อถามถึงโอกาสที่เกือบจะได้ไปทำงานที่สิงคโปร์ แต่แล้วก็มีจุดพลิกผัน

"คือชีวิตเจนมันเป็นจังหวะ หลายครั้งที่เจนรู้สึกท้อกับงานที่นี่ คิดว่าเราคงไม่ได้แล้วล่ะ มีถอดใจ น้อยใจแต่ยังไม่ยอมแพ้ อยู่วงการมานานแต่ไม่มีคนจำเราได้เลย อย่างคนอื่นมีคนจำเขาได้ในเวลาอันสั้น แต่เจนทำมานาน แต่ยังไม่ได้สักที เลยรู้สึกน้อยใจ ถ้าเมืองไทยไม่มีคนจำได้ เราอาจจะไม่เหมาะ เราน่าจะไปลองทำที่อื่นมั้ย ซึ่งที่นั่นเขาเปิดโอกาสให้"

"พอตัดสินใจจะไปปุ๊บ ก็มีทั้งหนังและละครเข้ามา หนังเรื่อง "เพื่อนกันเฉพาะวันพระ" และละครเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" เลยทำให้เราไม่ได้ไป ยิ่งฟีดแบ็กละครดี เราเลยคิดว่าเราตัดสินใจถูกที่อยู่ที่นี่" ด้วยใจจริง เจนอยากอยู่ที่นี่ "ค่ะ อยากอยู่ที่นี่ เพราะแม่ก็อยู่ที่นี่ มีเพื่อนอยู่ที่นี่ เจนเองก็โตมาที่นี่"

ณ วันนี้เจนอยู่กับใคร

"เจนอยู่กับแม่ที่นี่มาตลอดตั้งแต่เด็ก เป็นลูกสาวคนเดียว ส่วนพ่อแยกทางกับแม่ อยู่กันสองคนแม่ลูกก็โอเค ไม่มีปัญหาอะไร แม่เหมือนเป็นเพื่อน คุยกันได้ ทะเลาะกันได้ เถียงกันได้ ขัดคอขัดใจรักกัน มีอะไรจะคุยกันตลอด แม่จะเคารพการตัดสินใจของเจนสูงมาก เข้าวงการมาแม่ไม่เคยเตือนว่าให้ทำตัวดีๆ แค่บอกว่าให้ดูแลตัวเอง ให้ระวังให้ใช้สติตัดสินใจแล้วทุกอย่างจะโอเคเอง เจนโชคดีที่แม่ให้ความไว้วางใจ ทำให้เรามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น"

"เมื่อแม่เคารพการตัดสินใจของเรา เราก็ต้องให้ความเคารพกับสิ่งที่แม่มอบความไว้วางใจให้เราเหมือนกันค่ะ"


"ความสดใส"ชนะใจ"หนุ่ม"

อายุเลยเบญจเพส โดยวันที่ 14 ก.ค.นี้ สาว "เจน"เจนสุดา ปานโต ก็จะมีอายุ 26 ปีเต็ม

"เบญจเพศของเจนถือว่าดีนะ จากที่ผ่านมาชีวิตมีขึ้นมีลง แต่เรายังไม่ได้เจออะไรที่ลงสุดๆ" เจนบอกกล่าวถึงวัยเบญจเพส และเผยอีกว่า "ชีวิตเจนเรื่อยๆ ไม่หวือหวา ความรักก็ไม่ได้ว่าหวานเป็นสีชมพู เพราะอยู่ไกลกัน อยู่กันคนละประเทศ"

แหม...เปิดทางมาซะขนาดนี้ เลยยิงถามซะเลยว่าหนุ่มคนนั้นเป็นใครหนอ เจนยิงตรง "บอกตรงๆ ว่ายังไม่อยากพูดอะไรมาก จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราพูดมาเยอะแล้ว พูดแล้วก็จบลง เลยคิดว่าเรื่องบางเรื่องเงียบไว้ก็ไม่เสียหลาย"

โดนกั๊กแบบนี้ เลยใช้ไม้ตายออดอ้อน น้องหนูหัวเราะ

"เขาเป็นคนอังกฤษค่ะ"

อ๋อ...เศรษฐีน้ำมันน่ะเหรอ

"ก็พูดๆ กันไป ไม่ถึงขนาดนั้น จริงๆ เขาเป็นคนเก่ง ฉลาดหัวไว และเป็นสุภาพบุรุษ"

เรียนรู้ยังไงกับรักครั้งนี้

"เราโตขึ้นแล้ว ที่ผ่านมาทำให้เรียนรู้ว่า คนรักกันไม่จำเป็นต้องเกาะติดกันตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือโทร.ตาม เมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างนี้ความรักครั้งนี้เลยโอเค"

มุมมองความรักดูโตขึ้นนะ ต่างจากที่ผ่านๆ มาดูความรักของเจนมีระยะเวลาที่สั้น

"เจนเองก็ไม่ได้อยากให้มันสั้น ตอนนั้นยอมรับว่าใจร้อน ขี้หงุดหงิด เซ็นซิทีฟกับคำพูดของคนที่เราใกล้ชิด รู้สึกว่าถ้าคบกันไม่แฮปปี้ มีความอดทนต่ำ ที่ผ่านๆ มาทำให้เรารู้ว่า มันไม่ง่ายที่เราจะรักใครสักคน หนึ่งในนั้นคือความอดทน ซึ่งในครั้งนี้จะต้องปรับเยอะมาก เพราะอยู่ไกลกันมาก"

แต่ถึงจะอยู่ไกล แต่สาวเจนกลับบอกว่าชอบ เพราะง่ายต่อการคบ ถ้าอยู่ด้วยกันมากอาจจะมีหงุดหงิด งี่เง่า


ระยะทางที่ไกล ดาราสาวมีวิธีสานสัมพันธ์ด้วยคำพูดที่ให้กำลังใจ บอกเล่าเรื่องราว ปรึกษาปัญหา

"เจนรู้สึกดีที่มีคนรับฟัง ซึ่งเขาเป็นผู้รับฟังที่ดี รู้สึกสบายใจที่ได้คุยกัน" เจนเอ่ยชม

แสดงว่าเขาโตกว่าเยอะ เจนเผยยิ้มเมื่อถูกรู้ทัน

"ใช่ค่ะ เขาโตกว่าเจน 10 ปี"

ถ้าอายุราวๆ 36 เขาน่าจะพร้อมที่จะมีครอบครัวแล้วนะ

"แต่เจนยังไม่พร้อมนะ" สาวเจนแย้ง "เจนยังอยากทำงาน ในวันนี้เจนยังอยากตะเกียกตะกายไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งงานที่เจนอยากทำ อยากหา เรียนรู้ประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ในวันนี้ยังไม่พร้อมที่จะเป็นภรรยาดูแลใคร"

รู้จักกันมานานเท่าไหร่แล้ว

"หนึ่งปีค่ะ เขาเป็นเพื่อนของเก้า(แฟนเก่าพอลล่า) เลยทำให้มีโอกาสได้คุยกันบ้าง ช่วงที่เขามาเที่ยวก็ได้เจอกัน ยอมรับว่าเจอกันตอนแรกยังไม่ปิ๊งเขา แต่พอมาเจออีกครั้ง เราสัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนที่พูดจามีเสน่ห์ เทกแคร์ และเขาเล่าให้ฟังว่าเขาปิ๊งเราตั้งแต่แรก ประทับใจในความสดใส รอยยิ้ม"

เห็นจะจริง เพราะเวลาที่เจนหัวเราะ ยิ้ม แล้วดูสดใสมาก

"เขาเองก็เคยบอกว่าอยากอยู่กับคนที่ทำให้เขามีความสุข เพราะจากการทำงานเขาเหนื่อย เขาเลยอยากได้รับพลังบวกจากเรา ซึ่งเป็นคำพูดที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจนะ เพราะไม่เคยมีใครพูดอย่างนี้กับเราเลย" ว่าแล้วก็หัวเราะตาหยีเชียว

ตั้งแต่คบกันมามีโอกาสเจอกันบ่อยไหม

"เจอกันแค่ครั้งนั้นที่เขามา นอกนั้นโทร.อินเตอร์เน็ตคุยกันเรื่อยๆ ส่วนมากจะคุยกันวันละครั้งก่อนนอน คอมพ์เขามีกล้อง เจนก็จะได้เห็นหน้าเขา แต่คอมพ์เจนไม่มีกล้อง เขาเลยไม่ได้เห็นหน้าเจน"ไม่ต้องเจอตัว แค่สื่อสารรักเข้าใจ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว


"สวรรค์เบี่ยง"เปลี่ยนชีวิต

"ละครเรื่อง "กุหลาบสีดำ" ก็ยังเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเจนอยู่ เป็นผลงานที่ทำให้เจนได้โชว์ความสามารถเต็มที่ แต่พอมามองย้อนกลับไป ก็ยังอยากที่จะกลับไปทำใหม่ เพราะในวันนี้เรามีประสบการณ์ที่มากขึ้น" ดาราสาว "เจน"เจนสุดา ปานโต ยังยืนยันถึงผลงานชิ้นโบแดงชิ้นเดิมเมื่อถูกถามถึง

และกล่าวเพิ่มถึงผลงานชิ้นโบแดงชิ้นใหม่ว่า "ส่วนอีกชิ้นคือละครเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" เรียกว่าสวรรค์เบี่ยงเปลี่ยนชีวิตก็ว่าได้(หัวเราะ) ชอบเพราะในแต่ละตัวละครต่างก็มีปมปัญหาของตัวเอง แล้วในขณะเดียวกันในเรื่องก็มีการผ่อนคลายด้วยคาแร็กเตอร์ของแพทของต้อม(หลุยส์ สก็อต) ทำให้เรื่องดูมีความสมดุล เรื่องเลยดูไม่หนักจนเกินไปค่ะ"


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์