เบลล์ ไชน่าดอลล์แจ้งจับหุ้นส่วน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่กองปราบปราม น.ส.สุภัชญา ลัทธิโสภณกุล หรือเบลล์ นักร้องคู่ดูโอ้สาวชื่อดังวง "ไชน่าดอลล์"

 เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ ถวิลบุญ พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.รุ่งวิภา แซ่ออง หรือ "จอย หว่อง" ช่างสักชื่อดัง ซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิท ที่ร่วมกันทำธุรกิจเปิดโรงเรียนสอนเต้นด้วยกัน ขโมยบัตรเครดิตรวม 3 ใบไปใช้จ่ายมาตั้งแต่ปี 2549 มูลค่าความเสียหาย 6.5 แสนบาท โดยที่ตนไม่ทราบเรื่อง

น.ส.สุภัชญา หรือ "เบลล์ ไชน่าดอลล์" ให้การว่า เมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามียอดหนี้ของบัตรเครดิตที่ใช้อยู่ 3 ใบ

ประกอบด้วย KTC, UOB และ Quick Cash รวมเป็นเงินกว่า 6.5 แสนบาท เมื่อทราบเรื่องก็แปลกใจ เพราะแม้ว่าบัตรเครดิตดังกล่าวจะเป็นของตนก็จริง แต่ไม่เคยนำไปใช้ในรายการตามที่ได้รับแจ้งมา จึงสอบถามกลับไปที่ธนาคารเจ้าของบัตร เพื่อขอทราบรายละเอียด และมาขอลงบันทึกประจำวันไว้ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาอีกด้วย


เบลล์ ไชน่าดอลล์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ทำให้ตนสงสัยว่าน.ส.รุ่งวิภาจะเป็นผู้นำบัตรเครดิตของตนไปใช้ เพราะตนกับจอยเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเปิดโรงเรียนสอนเต้นร่วมกัน

โดยตนรับมอบอำนาจจากหุ้นส่วน อาทิ หลิว-มนัสวีร์ ญาญ่า ญิ๋ง ให้เป็นผู้มีอำนาจบริหารการเงินของโรงเรียน และเปิดบัญชีกลางของโรงเรียนไว้ในชื่อของตน หากทางโรงเรียนมีค่าใช้จ่ายอะไรตนจะต้องเซ็นในใบเบิกเงิน มาระยะ 5-6 เดือนหลังพบว่าจอยแอบปลอมลายเซ็นและยังขโมยบัตรประชาชนของตนไป แล้วสั่งให้ลูกจ้างไปเบิกเงินในบัญชีออกมาให้โดยตนไม่ทราบเรื่อง กระทั่งมีคนโทร.มาทวงหนี้

น.ส.สุภัชญา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องบัตรเครดิตนั้น ปกติตนจะเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายตลอดเวลา แต่เนื่องจากจอยเป็นเพื่อนสนิทจึงไม่ได้สงสัย

และที่ผ่านมาตนไม่เคยใช้บัตรเครดิตดังกล่าว ไม่เคยมีใบทวงหนี้ส่งมาถึงตนที่บ้าน จนกระทั่งมาทราบเรื่องว่ามีผู้นำบัตรเครดิตของตนไปใช้ก็เลยสงสัยว่าน.ส.รุ่งวิภาอาจเป็นผู้ขโมยไปใช้โดยพลการ เพราะใบแจ้งหนี้จำนวนทั้งหมดถูกส่งไปที่บ้านญาติของจอย ที่ผ่านมาเคยโทรศัพท์ติดต่อและพยายามพูดคุยกันเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น และขอให้มารับผิดชอบใช้หนี้บัตรเครดิต แต่น.ส.รุ่งวิภาก็ปฏิเสธมาตลอด หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำน.ส.สุภัชญา และรวบรวมหลักฐานต่างๆ ที่ผู้เสียหายนำมามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน จากคำให้การพบว่ามีการกระทำความผิดเข้าข่ายข้อหาลักทรัพย์ ปลอมและใช้เอกสารปลอม และข้อหาใช้บัตรเครดิตผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์