“เต้-ปิยะรัฐ” รับดวง “ฉาว” รายวัน เมินคนมองสร้างกระแส วอน..พิสูจน์ที่ผลงาน

        ฉาวตั้งแต่ยังไม่ได้ออนแอร์สำหรับ รายการประกวดนางแบบชื่อดัง “เดอะ เฟซ ไทยแลนด์” โดยผู้จัดทายาทธุรกิจบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย “เต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก” หรือ “เต้ กันตนา” ที่ช่วงนี้คงต้องบอกว่าฉาวทุกฝีก้าว จนคนมองว่านี่คือแผนการสร้างกระแส ให้เป็นที่สนใจของเจ้าตัว งานนี้ผู้จัดคนดังขอเปิดทุกเรื่องในรายการ  “เปิดโปง” เปิดทุกอย่างที่ปิดอยู่  ทาง “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน โดยมี “สันติ เศวตวิมล” และ “เอ-วราภรณ์ แสนสุข” ทำหน้าที่พิธีกร   

รายการประกวดนางแบบสุดฉาว ยังไม่ได้ออนแอร์ก็ฉาวซะแล้ว  ? 

        “จริงๆ มันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องนะครับ(หัวเราะ) แต่ว่ามันก็จบไปแล้ว เล่าสั้นๆ แล้วกันเนื่องจากตอนนั้นเราเปิดตัวรายการ เราเปิดแค่ว่าพี่ลูกเกดยังอยู่กับเรา แน่ๆ เพราะว่าพี่ลูกเดสำคัญกับรายการนะครับ ส่วนอีก 2 คนนั้นเรายังไม่ได้เปิดตัว แต่ก็มีข่าวหลุดออกไปว่าเป็นคุณบีน้ำทิพย์ ซึ่งก็จริง แต่ว่าทางรายการเองไม่ได้ออกมาคอนเฟิร์มเพราะว่าตอนนั้นอีกประมาณ 2 เดือนกว่าที่เราสมควรจะบอก มันนานเกินไปนะครับ ก็เลยมีคนจากในโลกออนไลน์ คือเราต้องทราบนะว่าในเรื่องออนไลน์เขาจะเป็นคนที่รวดเร็ว แล้วก็เป็นประเด็นได้ง่าย(ยิ้ม) เขาก็ไปเอารูปของคนที่เขามโนว่าน่าจะเป็น 3 คนนี้ไปทำเป็นโปสเตอร์ขึ้นมา โดยที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับทางรายการทั้งสิ้นนะครับ แล้วก็บุคคลที่ทำก็ออกมายอมรับแล้วว่าเขาตั้งขึ้นมาเล่นๆ  เขาไม่ได้มีเจตนาให้เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ แต่ว่าถึงอย่างนั้นก็ดีมันก็กลายเป็นเรื่องจนได้ ก็มีคนมาสัมภาษณ์ก็ไม่ได้ให้ข่าวเลย มีความรู้สึกว่าไม่ได้มีความจำเป็นต้องให้ข่าวตอนนั้นนะครับ ปรากฏว่ามีรายการทีวีมาสัมภาษณ์ก็เลยตอบไปว่ามีการติดต่อคุณบีไปจริงนะครับ แล้วก็ไม่ได้ติดต่อคนอื่น ก็แจ้งชัดเจนมากนะครับ มันก็ไม่ได้จบแค่นั้น ก็ยังมีเหตุกาณณ์อะไรต่างๆ มาจนกระทั่งบานปลาย ก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เรื่องเขาใจผิดกันไปใหญ่(หัวเราะ)” 

คุณเต้ไม่ได้สร้างเรื่องนี้ขึ้น เป็นเรื่องที่คนอื่นสร้างขึ้น   ? 

        “ใช่ เขาเป็นแฟนคลับรายการ แล้วแฟนคลับรายการมหัศจรรย์มาก(ยิ้ม) เขามีจินตนาการของเขาเอง(ยิ้ม) เขาไปทำ เอาจริงๆ เรื่องนี้คุณเต้ไม่ค่อยได้ทราบรายละเอียดด้วยซ้ำไป เพราะว่าเวลาคุณเต้ทำงานคุณเต้ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวอะไรเยอะนะครับ ก็มารู้เอาทีหลังว่าอ๋อเขามีประเด็นนี้ ประเด็นนั้น ก็เลยกลายเป็นว่ารายการทำเองหรือเปล่า สร้างกระแสหรือเปล่า เจอคำถามนี้เยอะจนก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างนะครับ เพราะว่าห้ามความคิดใครก็ไม่ได้(ยิ้ม) ใครจะคิด แม้กระทั่งเราบอกว่าเราไม่ได้ทำ แต่เขาคิดว่าเราทำ หรือมีคนบอกว่าเราต้องเป็นคนทำแน่ๆ มันห้ามคนยาก แต่ว่าสำหรับตัวเต้เอง คุณเต้ตอบตรงๆ ได้ว่าคุณเต้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องสร้างกระแสแบบนั้นนะครับ(ยิ้ม) คุณเต้มีวิธีทำงานแบบมืออาชีพนะครับตลอดเวลามาเนี่ย บริษัทกันตนาเรามีอายุ 65 ปีแล้วนะ(ยิ้ม) เรามีการทำงานที่เป็นมืออาชีพ เวลาเรา 

โปรโหมตเราก็โปรโหมตเมื่อใกล้ที่จะถึงวันออนแอร์ หรือเมื่อถึงเวลาแถลงข่าว เราถึงจะพูดนะครับ หรือช่วงที่ละครเรื่องนั้น หรือรายการนั้นๆ กำลังออนแอร์อยู่เราถึงจะโปรโหมต เราไม่มีความจำเป็นโอ้โหหลายเดือนก่อนหน้ามันไกลเกิน กว่าจะถึง 17 ตุลานี่ลืมกันไปไหมดแล้ว ด้วยซ้ำไป เราสร้างความสุขให้คนดูรายการทุกรายการ ละครทุกเรื่อง นโยบายของกันตน เจตนาของครอบครัวกัลย์จาฤกคือเราทำละคร ทำรายการให้เป็นของคุณผู้ชม ไม่ใช่รายการของคุณเต้ เราสร้างความสุขให้คุณเต็มที่ เราไม่สร้างความบาดหมาง ไม่รู้ด้วยจริงๆ ไม่ทราบมาก่อน” 

พอมีเรื่องดราม่า มีฟีดแบกอะไรกับมาหาเรา  ? 

        “ก็โอเค คุณเต้เคยใช้ชีวิตที่ต่างประเทศนะครับ ที่อเมริกาเขาก็จะบอกว่า กู๊ด พลับบลิซิตี้ แบดพลับบลิซิตตี้ อิทออลพลับบลิซิตตี้ ดีหรือเลวมันก็คือการพลับบลิซิตี้ ก็น้อมรับสิ่งที่เขาพูดนะครับ ก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างแล้วแต่ อะไรที่เหตุผลเราก็ฟัง” 

ยอมรับไหมยิ่งฉาวยิ่งดัง  ? 

        “ยอมรับว่าเป็นกระแสจริง แล้วก็เป็นเรื่องมองเป็นเรื่องบวก มองเป็นแง่ดีแล้วกัน มันทำให้คนสนใจเรามากขึ้นก็จริงนะครับ แต่ว่าต้องบอกเลยว่ามันเป็นความบังเอิญ(ยิ้ม) แล้วก็อาจจะเป็นดวงของเต้ในปีนี้นะ เพราะว่ารู้สึก คือปีหยน้าอาจจะไม่เป็นกระแสอะไรเลยก็ได้ บังเอิญ ด้วยความบังเอิญจริงๆ นะครับ ปีนี้รู้สึกพูดอะไร ทำอะไรมันเป็นเรื่องไปหมด ตอนนี้มองเป็นเรื่องปกติแล้ว เพราะว่าจริงๆ ตัวคุณเต้โตมากับวงการนี้(ยิ้ม) ก็เป็นธรรมชาติครับ สุดท้ายคุณเต้เชื่อว่าผลงานมันจะพิสูจน์ สุดท้ายแล้วรายการสนุกคนก็เลยดู แค่นั้น คุณเต้แฮปปี้แค่นั้น” 

ถ้ามองเรื่องเหล่านี้เป็นอุปสรรค์ มีท้อบ้างไหม  ? 

        “ไม่เลย แล้วก็พูดตรงๆ เลยว่าไม่ค่อยได้สนใจอะไรมาก ที่ไม่สนใจเนี่ยน ไม่ใช่ไม่อยากสนใจนะครับ เพราะว่าเวลาเราทำงาน เราไม่มีเวลาที่จะไปคิดอะไรอย่างอื่นนอกจากงาน แล้วก็งานของวงการบันเทิงเนี่ยพวกเรากันเองที่อยู่เนี่ยรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่หยุดคิดไม่ได้ เมื่อไหร่ที่คุณหยุดคิด คุณก็ตายเมื่อนั้น แม้กระทั่งตอนนอนเรายังคิดเลย เมื่อไหร่ที่หลับเราถึงจะเลิกคิด ตื่นมาก็คิดต่อ ไอ้เรื่องการทำงานมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแล้วก็มันเป็นขั้นตอนเยอะมาก เราทำงานกับคนเยอะมาก เราไม่มีเวลาจริงๆ ที่จะท้อ มีอย่างเดียวคือคุณเต้รู้ว่าวินาทีนี้คุณเต้เกิดมาทำงาน แล้วก็วัยนี้ของคุณเต้ คุณเต้กำลังตั้งใจทำงาน ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็รู้แค่นี้(ยิ้ม)”