เด็กเคยเกเร เน็ก-ชาลี ไตรรัตน์

“ชาลี ไตรรัตน์ หรือ น้องเน็ก” เด็กหนุ่มคนนี้เข้าวงการตั้งแต่อายุ 9 ขวบกับภาพยนตร์สร้างชื่อ “ แฟนฉัน”

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้คนทั้งประเทศรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้ และถึงวันนี้เน็ค อายุ 15 แล้ว จากเด็กน้อยกลายมาเป็นเด็กหนุ่มไฟแรง ที่ความฝันอยากจะทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ ซึ่งเด็กวัยรุ่นอายุ 15 อย่างเน็ค ชาลี เป็นอย่างไรนั้น วันนี้เขาจะเปิดใจคุยกับเรา



เน็กจำได้ไหมว่า ตอนที่เล่น แฟนฉัน ตอนนั้นพอออกจากโรงหนัง เน็ก กลายเป็นเด็กทีมีชื่อเสียงมาก ?
 
“ จำได้ครับ ตอนนั้นดีใจมีคนรู้จักเรา แล้วช่วงแฟนฉัน เป็นช่วงที่เราดัง ตอนนั้นรู้สึกดีมาก แต่ตอนนี้เราไม่ได้ขนาดนั้นแล้ว ตอนนั้นไปไหนมีแต่คนให้ มีแต่คนรัก ตอนนี้เราต้องเปลี่ยนตัวเองเพราะเราไม่ขนาดนั้นแล้ว”
 
รู้สึกอึดอัดไหม กับการมีชื่อเสียงเพราะเน็ก ก็ยังเด็กมาก?
 
“ ก็มีบ้างครับ อย่างเวลาไปกับเพื่อน กะว่าวันนี้เราว่างแล้วเต็มที่ ก็ไปกับเพื่อน แต่พอไปถึงเหมือนไม่ได้เที่ยวกับเพื่อน รู้สึกเบื่อต้องมาหยุดรอ เพราะว่ามีคนมาขอถ่ายรูป แต่ก็มีเหมือนกันที่ผมแบบไม่เอาจะไปเล่นก่อน คือตอนเด็กผมก็รู้ว่าผมทำให้คนไม่ชอบผมเยอะเหมือนกัน อย่างผู้หญิงไม่ได้เลยจะเข้ามาถ่ายรูปผมจะผลักๆไม่เอา แต่พอเราโตเราเริ่มรู้แล้วว่ามันไม่ได้ ก็ต้องปรับเปลี่ยนต้องยิ้มแย้ม ถึงแม้บ้างครั้งจะต้องฝืนมั่งแต่ก็ต้องทำและต้องให้เกียรติคนเพราะเราโตแล้วจะมาทำนิสัยเด็กๆไม่ดีไม่ได้แล้ว พอเราเปลี่ยนเราก็มีความสุขนะ แล้วรู้สึกสนุกงาน แล้วรู้สึกดีกับตรงนี้
 
ตอนนี้เน็ก เรียนอยู่ มอไหนแล้ว?
 
“ตอนนี้เรียนอยู่ ม 3 ขึ้น ม 4 คือผมเป็นคนเรียนไม่เก่งอยู่แล้ว ก็เลยทำงานตรงนี้ได้เต็มที่และก็พยายามเรียนให้ดีที่สุด แต่พอเราเริ่มทำงาน ล่าสุดผมไม่ได้สอบผมก็เลยตกทุกวิชาเลยครับ แต่ต้องไปตามงานและแก้เกรดให้มันผ่านได้เลื่อนชั้น



พ่อแม่ ซีเรียสเรื่องเรียนของเน็ก ไหม?
 
“ ก็เครียดครับ แต่ผมก็คุยกับเขาว่าเรียนต่อให้ผมตั้งใจมากที่สุดสำหรับ ผมก็ทำอะไรไม่ได้ดีมากหรอก แต่ผมมาตั้งใจกับทำงานด้วยเพื่ออยู่ในวงการให้นานที่สุด ส่วนเรื่องเรียนผมรู้ว่าเรียนไม่เก่ง แต่ก็จะพยายามครับ พ่อแม่ก็รับฟังครับ แต่ถ้าเอาตามที่ผมอยากทำนะ แต่ก็ไม่มีใครสนับสนุนเลยพอบอก คือผมอยากจะออกไปเรียน กศน.และไปเรียนภาษาอังกฤษ แล้ววิชาไหนยากๆก็จะจ้างครูมาสอนที่บ้าน ซึ่งโครงการนี้ของผมไม่มีใครสนับสนุนเลย เลยต้องพับไป คือพ่อ แม่เขาอยากให้เรียนต่อแบบเดิม เพราะเขาว่าเราจะได้มีเพื่อน มีสังคม
 
แล้ววางแผนยังไงกับการเรียน?

 
“ ผมก็อยากเรียนจนจบ ปริญาตรีครับ อยากรับปริญญาให้พ่อแม่เหมือนกัน แล้วมหาวิทยาลัยที่ผมอยากเรียนคือ มศว. ผมอยากเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เอกการแสดง ผมคิดว่าน่าจะทำได้ ”
 
แสดงว่ารักวงการบันเทิงมาก?
 
“ ไม่ถึงกับรักมากครับ แต่ว่ามันเป็นทางเลือกของเราอีกทางหนึ่ง ถ้าสมมุติเราไม่ทำงานตรงนี้ แล้วเราเรียนอย่างเดียว อย่างที่ผมบอกว่าสมองของเรามันไม่ได้เก่งมาก ไปเรียนก็เหมือนเดิม ความรู้ไม่ได้มากขึ้น ไม่ได้เก่งขึ้น แล้วพอเรามาทำงานในวงการไปด้วย เราก็ได้ความรู้จากการทำงานได้เงินไปจ่ายค่าเทอมด้วย อยากได้อะไรเราก็ได้”


เงินที่ได้จากการทำงานทั้งหมด เน็ก เอาไปทำอะไร?
 
“ ก็ให้แม่หมดครับ แต่ว่ามีช่วงนี้มีแบ่งครึ่งๆหน่อย คือบ้านผมมีอะไรหลายอย่างที่ต้องใช้ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ คือพอได้เงินค่าหนังก็คุยๆกันว่าอยากซื้อบ้านก็ซื้อ แต่ก่อนบ้านผมไม่ได้รวยไม่ได้อะไร บ้านผมอยู่กัน 8 คน พ่อแม่ อยากจะได้บ้านที่ให้ทุกคนอยู่กันสบายขึ้นเลยซื้อตอนนี้ก็ผ่อนอยู่ แล้วก็รถ ก็ซื้อเพราะมันจำเป็นในการเดินทาง แล้วตัวผมเองอยากจะได้อะไรก็มองๆไว้ แล้วค่อยขอเงินแม่ซื้อ
 
แต่ว่าตอนนี้ผมอยากได้มอเตอร์ไซด์บิ๊กไปร์ท ที่หนัก 500 ว่ากิโล ผมอยากได้มาก อยากได้มา 2-3 ปีแล้ว

ตอนนี้เลยขอแบ่งเงินกับแม่ครึ่งๆ เพราะอยากเก็บเงินซื้อรถ แต่จริงๆแม่ ไม่ค่อยอยากให้ซื้อ แต่ผมก็อยากได้มากเลยครับ เลยขอแม่เก็บตังค์เองสะสมเอาไว้ แต่พอใกล้จะได้ครบ แม่ก็จะมีแบบตรงซื้อโน้นซื้อนี้เข้าบ้านตลอด ( หัวเราะ ) ตอนนี้ก็ยังเก็บไม่ถึงค่ารถมอเตอร์ไซด์สักทีครับ ผมรู้ว่าเขาเป็นห่วงลูก แต่ผมก็อยากได้”
 
จริงๆเน็กก็เป็นวัยรุ่น ถามจริงๆเวลาทำงานมีงอแง เกเร บ้างไหม?

 
“ ก็มีครับ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ แต่พอโตขึ้นเริ่มรู้แล้วว่า เรารับงานเขาแล้วเราต้องทำให้ดีที่สุด แต่ถ้าวันไหนว่างก็จะขอเที่ยวหรือว่าเลิกงานดึกไหน ก็ขอกลับดึกหน่อย ขอไปดูหนังเพราะว่าผมเป็นคนชอบดูหนังมาก ช่วงนี้อยู่ในช่วงโปรโมทหนังก็ไม่ว่างสักวันเลย


ตอนเด็กเน็ก เกเร ยังไง?
 
“ คือเหมือนผมนัดเพื่อนไว้ แล้วไม่ได้ไป แม่บอกว่ามีงานก็อดไป ก็จะมีหงุดหงิด งอแง ไม่อยากทำงาน
 
แล้วความฝันละ เน็ก มีความฝันอยากจะเป็นอะไร?
 
“ ผมอยากเป็นนักบิน อยากบินเดี่ยว แล้วก็เข่งรถ ตอนเด็กผมทุ่มเทเต็มที่เลยกับรถ แต่พอมาทำงานก็ไม่ได้ไปยุ่งเลยครับรถ แต่ช่วงนี้ก็กลับไปเล่น ตอนนี้อยากกลับไปเรียนขับบิ๊กไปร์ทฝึกขับใหญ่ เพื่อที่จะได้ขับออกถนนได้คล่อง”
 
เรื่องสาวๆละ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าว?
 
“ ห่างๆไปแล้วครับ ตอนนี้ผมว่าอยู่อย่างนี้ก็รู้สึกดีแล้ว อย่างเวลาเราขึ้นเวที มันทำให้เรารู้สึกดีกว่าเวลาที่มีคนถามว่ามีแฟนหรือยัง คือผมโกหกใครไม่ได้ ถ้าผมโกหกใครผมก็จะบอก แต่เดี๋ยวนี้สามารถพูดได้เต็มปาก ผมว่าดีนะ สบายๆ ผมว่าทำให้คนชอบเรามากขึ้น”
 
คิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มเนื้อหอมไหม ?
 
“ ไม่ครับ ไม่เนื้อหอมเลย ( หัวเราะ )”
 
การพูดคุยกับน้องเน็กวันนี้ ทำให้เราได้รู้จักเขามากขึ้น ด้วยวัยเพียงอายุ 15 ปี ที่ยังต้องเติบโตต่อไป เหมือนต้นไม้ที่กำลังเรียนรู้ และเราเชื่อว่าหนุ่มเนื้อหอมของเราคนนี้ จะยังเป็นขวัญใจของแฟนภาพยนตร์ต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์