“เจเน็ต เขียว”รุดแจ้งความจับสาวใหญ่ลวงซื้อรีสอร์ตเกาะช้าง13.5ล้านบาท

 วันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ สภ.เกาะช้าง จ.ตราด น.ส.นงนุช สมบูรณ์ หรือ เจเน็ต เขียว อายุ 44 ปี 

นักแสดงพร้อมทีมงานเดินทางจากกรุงเทพฯ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ประสาท สามารถกุล ร้อยเวร สภ.เกาะช้าง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีวัย 40 ปี ในข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวง ซึ่งพ.ต.ท.ประสาน สามารถกุล ทำการสอบปากคำในเบื้องต้น

 เจเน็ต เขียว เปิดเผยว่า ที่มาแจ้งความครั้งนี้สืบเนื่องมาจากตนเองได้ประกาศขายรีสอร์ตชื่อ "กรีน คอทเทจ บีช รีสอร์ต" ของตนเอง อยู่ที่บ้านบางเบ้า หมู่ 1 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ในราคา 15 ล้านบาท หลังประสบกับภาวะขาดทุน ไม่มีเวลามาดูแลเพราะมีงานละครเข้ามาในช่วงนั้น ประกอบกับมารดาป่วยต้องนำเงินมารักษา และนำมาใช้หนี้ธนาคารที่กู้มาลงทุน โดยประกาศขายมาตั้งแต่กลางปี 2554 ปรากฏว่าช่วงต้นเดือนต.ค. 2554 คู่กรณีรายนี้เดินทางมาพักที่รีสอร์ต นาน 2-3 สัปดาห์ ระบุว่าบ้านและธุรกิจใน จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมจึงหลบมาพักผ่อนที่เกาะช้าง และระหว่างพักอยู่ในรีสอร์ตก็พยายามสร้างความสัมพันธ์กับญาติพี่น้องของตนเองหลายคน ทั้งโอ้อวดว่าทำธุรกิจหลายอย่าง มีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้าน สามารถนำเงินจากพรรคการเมืองหนึ่งมาได้ ในที่สุดก็ขอซื้อรีสอร์ตที่ตนเองประกาศขายอยู่ 15 ล้านบาท แต่ตกลงกันได้ในราคา 13.5 ล้านบาท โดยคู่กรณีบอกว่าจะจ่ายให้ใน 2-3 สัปดาห์

 “ตอนที่คิดขายเพราะขาดทุน ลงทุนมา 4 ปีได้เงินมาก็ปรับปรุงสร้างไปเรื่อยๆ ทุกปี พอดีแม่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อยากจะนำแม่ไปรักษาที่กรุงเทพฯ และนำเงินไปใช้หนี้ธนาคารที่กู้มาลงทุนธุรกิจในเกาะช้าง ที่สุดไม่รู้ใจดีอะไร ก็บอกให้สาวใหญ่รายนี้เข้ามาบริหารจัดการรีสอร์ตพร้อมทีมงาน 3 คนเป็นชาย 1 หญิง 2 คน ในช่วงเดือนพ.ย.2554 เป็นต้นมา ช่วงนั้นเป็นช่วงไฮซีซั่น มีนักท่องเที่ยวมาพักเกือบเต็มทุกวัน โดย 1 เดือนจะมีรายได้ประมาณ 200,000 กว่าบาท แรกก็เอาเงินมาแบ่งให้น้องสาว 50% ตอนหลังไม่ให้เลย” เจเน็ต เขียว กล่าว

 เจเน็ต เขียว กล่าวอีกว่า ระหว่างที่บริหารรีสอร์ต คู่กรณีก็รับว่าจะนำเงินทั้งหมดมาให้ในวันขึ้นปีใหม่ 2555 หลังเข้ามาบริหารงานได้ 3 เดือน มีรายได้หลายแสนบาท แต่ก็ไม่ให้ นอกจากนี้ยังไปหลอกเงินจากน้องสะใภ้ที่ จ.นครราชสีมาไปอีก 800,000 บาท ด้วยการล่อลวงให้น้องสาวของตนที่ดูแลรีสอร์ตพาไป โดยทำทีติดต่อจะซื้อที่ดินจากญาติแต่ก็ไม่ได้ซื้อตามที่บอก มาจับได้เมื่อช่วงกลางเดือนก.พ. ว่าเป็นนักต้มตุ๋นหลอกลวง เพราะมีเจ้าของรีสอร์ตอีก 2-3 แห่งโดนเหมือนกัน โดยใช้วิธีการ เช่น หลอกเงินจากเจ้าของรีสอร์ตบนเกาะช้างรายหนึ่งด้วยการยืมเงิน 3 หมื่น และเมื่อถึงเวลานำเงินมาคืน 5 หมื่น จนเจ้าของรีสอร์ตไว้ใจจึงให้เงินไปอีก 500,000 บาท และอีก 1 ครอบครัวรวม 1.4 ล้านบาท และอีกราว 1.1 แสนบาท รวมทั้งหมดเป็นเงินกว่า 2.4 ล้านบาท

 ด้านพ.ต.ท.ประสาท กล่าวว่าคดีนี้ทาง สภ.เกาะช้างจะเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินการต่อไป