“เจมส์” ยังไม่เลิกแฟน!! ถูกลามปามผลงานถึงพ่อแม่ เมินถูกเทียบ “ต่อ” ค่ายดันหนัก!!

โดย เจมส์ เผยว่า "เพิ่งปิดกล้องโปรเจ็กต์เอส เดอะซีรีส์ ไปไม่นาน ตอนผมเป็นตอนที่ 3 ชื่อ SOS จะฉายหลัง Side By Side"

กระแส Side By Side แรงมาก เรากดดันมั้ยที่ต่อจากเรื่องนี้ "มันเหมือนเป็นแรงผลักดันให้เรามากกว่า คือไม่กดดันนะเพราะรู้สึกว่าโปรเจ็กต์เอส เป็นเรื่องที่เราทำด้วยกัน ตอนไหนกระแสดีเราก็ดีใจด้วยอยู่แล้ว ไม่ได้มองว่าแยกกัน"

เรียกว่าไม่เกร็ง "ไม่เกร็งครับ เพราะตอนถ่ายเราก็ทำในพาร์ทเราให้ดีที่สุด คือ บทมันท้าทายมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ผมพลิกไปเป็นอีกคนเลย จะไม่เห็นผมในลุกส์เดิมๆ แบบแบดๆ หรือเล่นเป็นเพลย์บอยลูกคนรวย เรื่องนี้พลิกเลย เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของผมเลย"

ต้องทำการบ้านเยอะไหม "เยอะมากที่สุดครับ ไม่ใช่แค่ระยะเวลานิดเดียวของการทำงาน แต่มันคือก่อนหน้าที่ถ่าย หาข้อมูลทุกอย่าง"

คาดหวังกับผลลัพธ์ขนาดไหน "เวลาเราทำงาน เราอยากให้งานออกมาดีอยู่แล้ว มีคนชอบ มีคนเข้าใจที่เราสื่อ แต่ทุกอย่างถ้าเราทำเต็มที่ พอใจผลงานตัวเอง ถือว่าโอเคผมพอใจแล้ว ส่วนคนดูหรือกระแส เป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ แต่หวังว่าจะดี"

ล่าสุดมีกระทู้บอกว่าค่ายพยายามปั้นเราให้เท่ากับ ต่อ-ธนภพ "ผมรู้สึกว่าไม่นะ การทำงานมันเป็นเรื่องของจังหวะ โอกาส ระยะเวลาทุกอย่าง คือผมไม่ว่านะเพราะอาจจะเป็นในความคิดเขา แต่รู้สึกว่าไม่ใช่"

เพราะเรามีผลงานต่อเนื่อง คนเลยมองว่าค่ายดันเรา "มันเป็นช่วงผลงานออกมาพอดีด้วยมั้งครับ ผมรู้ว่าผมต้องเล่นโปรเจ็กต์เอสก่อนหนังออกอีก มันเป็นจังหวะพอดี ไม่ใช่ว่าดันเราให้เท่าพี่ต่อครับ"

ดารานักแสดงมักจะเจอข่าวเปรียบเทียบ เรารู้สึกยังไงบ้าง "ผมเฉยๆ เพราะเป็นความคิดที่เราไปควบคุมเขาไม่ได้ เหมือนมันเป็นกระจกสะท้อน มุมมองคนภายนอกที่มองเห็นเรา เราก็โอเคได้เรียนรู้จากมันและโตไปกับมัน ทุกคอมเม้นต์ถ้ามันจริง มันอยู่ในขอบเขตที่พอเหมาะ เราจะรู้สึกว่าทำให้เราเรียนรู้ แข็งแรงมากขึ้น มีภูมิคุ้มกันมากขึ้น"

กับต่อ-ธนภพ สนิทกันขนาดไหน "สนิทครับ ผมอาจจะไม่ได้คุยบ่อย ก็ได้เจอกันบ้าง เป็นพี่ที่ผมเคารพมาก เวลาเราอยากรู้เรื่องการแสดงก็จะคุยกับพี่ต่อบ่อย ก็ไม่กลัวโดนโยงเกาเหลาด้วย เราไม่แข่งกัน ทุกคนพยายามทำของตัวเองให้ดีที่สุด มันเป็นการพัฒนาไปด้วยกันมากกว่า"

อย่างเวลามีผลงานออกมา เราได้ดูคอมเม้นต์แฟนๆ บ้างไหม "อ่านครับ ผมเป็นพวกชอบนั่งดูคอมเม้นต์ ชอบที่มีคนให้ความสนใจ คอมเม้นต์กัน เราจะได้รู้ว่าเขามองยังไง และมีจุดไหนที่เราต้องปรับแก้ ส่วนเวลามีคอมเม้นต์ไม่ดี ผมไม่เครียดนะถ้ามันจริง แต่มันจะมีหลายอย่างในโลกโซเชียล ถ้ามาพูดถึงพ่อแม่อันนี้ผมมองว่าล้ำเส้นแล้ว คือผมเปิดกว้างให้คนวิจารน์การแสดงเพราะรู้สึกเขาให้ความสนใจเรา"

เวลาเจอคอมเม้นต์แรงๆ เรามีปรึกษารุ่นพี่ในค่ายไหม "สุดท้ายมันคือการปล่อยวาง เราแค่คิดว่าคอมเม้นต์ที่ว่าเราแรงๆ มันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือเปล่า มันสอนอะไรเรามั้ย สุดท้ายถ้าไม่สอนแล้วเราลงไปเครียดกับคอมเม้นต์นั้น เราได้อะไร นอกจากจะทำให้ชีวิตเราแย่ลง ไม่มีความสุข สุดท้ายมันคือการปล่อยวาง ก็ชิลเลย และช่วงนี้ผมอยากปฏิบัติธรรมมากเลย(ยิ้ม)"

เรามีตอบกลับแรงๆ หรือเลือกที่จะเงียบไปเลย "บางทีผมไม่จำเป็นต้องตอบกลับ เพราะบางทีถ้าตอบกลับก็ทำให้เราเครียดเองด้วย หงุดหงิด เลยเลือกปล่อยผ่าน ทำอะไรก็สะท้อนตัวเขา ถ้าเขาพิมพ์คำแย่ๆ มา สุดท้ายคนที่แย่ก็คือตัวเขา การมาด่าคนอื่น หรือใช้คำแรงๆ มันไม่ได้ทำให้ตัวสูงขึ้น ฉะนั้นเราอยู่นิ่งๆ ดีแล้ว"

มีข่าวว่าเราเลิกกับแฟนสาวนอกวงการแล้ว "ยังคบอยู่ครับ ยังไม่ได้เลิกเลย(ยิ้ม) ยังคบอยู่ดีครับ นี้ก็จะ 4 ปีแล้ว"

เพราะเราไม่ค่อยลงรูปหรือเปล่า คนเลยเข้าใจผิด "อาจจะเป็นอย่างนั้นครับ แต่ว่ายังคบกันดีครับ อยู่กันไปนานๆ ก็ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันเท่าไหร่ ก็ไม่มีคนถามนะเพราะเพื่อนๆ ก็ยังเจอ"

คู่เราหวานไหม "เติมหวานกันบ้าง คบนานๆ ก็คอยเติมบ้างเป็นบางโมเม้นต์"

แฟนเราโอเคมั้ย ที่เราไม่ค่อยลงรูปจนมีข่าวออกมาว่าเราเลิกกัน "โอเคครับ ผมรู้สึกว่าพอคบไปนานๆ ความรักมันมีอะไรมากกว่าการลงรูป(ยิ้ม) เลยรู้สึกไม่ต้องลงก็ได้ เราสบายใจที่จะอยู่แบบนี้ ไม่เกี่ยวโดนสั่งเบรกอะไร แค่ถ้าเราเจอรูปไหนโอเคค่อยลงก็ได้ เขาก็ไม่ได้ซีเรียสกับการลงรูป"

4 ปี ยังต้องปรับจูนอะไรไหม "ทุกคู่เวลาคบกัน มันคงมีปัญหายิบย่อยเล็กๆ แต่เราก็คุยปรับความเข้าใจกัน พยายามใจเย็นลงมากขึ้น ว่าจะชวนไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน อันนี้พูดจริงๆ ผมกำลังหาช่วงเวลาที่จะไปอยู่ เพราะตอนช่วงที่ผมไปอังกฤษ มันมีช่วงที่ผมรู้สึกว่าชอบความสงบ เลยรู้สึกอยากปฏิบัติธรรม ยิ่งได้เวิร์กช็อปหรือเรียนการแสดง มันมีเรื่องของสมาธิมาก ถ้าเราไปนั่งสมาธิหรือไปผ่อนคลายแบบทิ้งทุกอย่างจริงๆ และอยู่กับตัวเองมันน่าจะเป็นอะไรที่ดี คือไม่ได้เครียดอะไรนะ"

เล็งหรือยังว่าจะไปช่วงไหนดี "ช่วงว่าง แต่ยังไม่มีช่วงว่างเท่าไหร่ คือปกติแม่ชวนแต่ตอนเด็กๆ ไม่อินเท่าไหร่ พอถึงจุดนี้คิดว่าน่าจะดี ที่คิดว่าจะไปก็อาจจะสักอาทิตย์นึงหรือสามวันก่อน ส่วนแฟนก็อยู่ที่เขาว่าอยากไปมั้ย เดี๋ยวลองไปเกริ่นๆ ก่อน(ยิ้ม)"