เขาว่า อ้น-สราวุธ เป็นผู้ชายเข้าใจยาก!!!!!

ผู้ชายคนนี้ผ่านมรสุมในชีวิตมาหลายลูกใหญ่ ๆ และมาวันนี้เมื่อมรสุมผ่านไปชีวิตเหมือนจะมีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้น และล่าสุด “อ้น- สราวุธ มาตรทอง” 

 ได้ทำในสิ่งที่แปลกใหม่ให้ตัวเองกับการถ่ายภาพแฟชั่น ที่หลายคนมองว่าเขาซาดิสต์....พร้อมกับภาพเด็กหนุ่มที่สดใส   น่ารักได้หายไป และเมื่อมีคำถามมากมายเข้ามาว่า ผู้ชายที่ชื่อ อ้น- สราวุธ มาตรทอง คนนี้เป็นมนุษย์แบบไหน เราจึงหาคำตอบมาให้ กับการเปิดใจหลังที่มีกระแสลบมากกว่ากระแสบวกในชีวิตของเขา

'ซาดิสต์'
   
หลังจากหวิวไป ?
   
“หลังจากที่ถ่ายอันนี้เสร็จผมก็เปิดตูดหนีไป (หัวเราะ) ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น สำหรับผม ผมรู้สึกว่าผมรักงานนี้ ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ผมรู้สึกเตรียมพร้อมที่จะรับกับเสียงตอบรับทั้งบวกและลบ ผมทำมัน ผมคิดว่าผมอยากทำงาน ทำงานนี้มากถ้าใครอยากเก็บไว้ก็เก็บ ใครไม่อยากเก็บก็วางไว้ ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าโลก เป็นสิ่งที่แบบโอ้...แบบว่า ไม่ได้รู้สึกขนาดนั้น แต่อยากเก็บงานสวย ๆ ไว้เท่านั้นเอง และผมก็ได้พี่ณัฐ ประกอบสันติสุข ผมต้องขอบคุณพี่เขาและพี่อาร์ต พี่แอร์ ที่ให้งานดี ๆ กับผมมา ขอบคุณทีมงานที่ให้เกียรติผมในงานชิ้นนี้ สำหรับผมเรียกมันว่า เป็นการแสดงอีกครั้งหนึ่งของผม ถึงใครจะว่ามันซาดิสต์ แต่สำหรับผมมันก็แค่อีกโจทย์หนึ่งของผมเท่านั้นเอง มันไม่ได้เป็นชีวิตจริงของผม ชีวิตจริงของผมก็แค่ อ้น-สราวุธ เท่านั้นเอง เดินไปเจอที่ไหนก็เป็นอ้นเหมือนเดิม ตัวอ้น ก็คือตัวอ้น งานก็คืองาน”

'กระแส.....สังคม'   

แต่กระแส ออกมาค่อนข้างลบนะ ?
   
“คือผมไม่ได้จมอยู่กับกระแสนะ ผมรู้สึกว่าเมื่อผมคิดจะทำ และผมเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะที่ผมทำผมมีความสุข กระแสจะออกมายังไงก็แล้วแต่ แต่ผมจะเดินต่อ มันเป็นเรื่องที่เรายิ้มรับกับความจริงที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าไม่ว่ากระแสจะบวกหรือลบ เราก็ไม่ควรอยู่กับที่ บางคนเจอกระแสบวกก็ไปต่อ แต่พอเจอกระแสลบก็หยุด แต่ผมจำคำครูเล็กไว้อย่างหนึ่ง ครูเล็กสอนว่า การเป็นศิลปินเนี่ย ต้องอย่าทำตัวเป็นอาหาร เพราะเมื่อไรที่เขาบริโภคเราหมด เราก็เป็นอาหารที่หมดไปแล้ว แต่ผมชอบเป็นเชฟมากกว่า แล้วก็ปรุงอาหารให้คนได้ลิ้มลอง งานทุกงานที่ทำไป ผมมีความตั้งใจอยู่ 3 อย่าง 1. คือผมรักคนที่ชื่ออ้น-สราวุธ มาตรทอง 2. ผมรักงานของผม 3. คือผมรักคนที่ดูมัน ผมอยากให้เขาได้ดูงาน ถ้าเปรียบเทียบกับห้องศิลปะที่แสดงงานของผม ผมคิดว่ามันคงไม่แปลกถ้าภาพบางภาพของศิลปิน บางภาพคนอาจจะไปมุงดู แล้วบอกว่าชอบมาก ๆ แต่กับบางภาพที่คนแค่ 2 คนมานั่งมองดู แล้วชื่นชม มันเป็นไปได้ที่คนจะชอบงานทุกงานของเรา ผมอยากจะบอกว่าคำว่าสร้างสรรค์ มันมีการแตกแขนงไปหลาย ๆ สาขานะ”

'ลาวงการ'
   
มีข่าวว่าอีก 2 ปี จะลาวงการ ?
   
“ผมไม่ได้บอกว่าผมจะลาวงการนะครับ ผมเข้าใจว่าเวลาอ่านข่าวพาดหัวข่าวน่าสนใจ บางคนอ่านแต่หัวข่าว แต่ไม่ได้อ่านเนื้อใน ผมอยากจะบอกว่าอีก 2 ปี ในวันเกิดผม ผมจะนั่งเงียบ ๆ แล้วทบทวนว่าผมจะไปไหนต่อ ผมจะไปไหนดี จะอยู่ตรงนี้หรือว่าทำอะไร หรือว่ามีอะไรอีกบ้างไหมในชีวิตที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำ แล้วความสุขของผมอยู่ตรงไหน อะไรคือความสุขที่แท้จริงของผม และพอถึงวันนั้นผมจะตัดสินใจอีกทีว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อ แต่ผมก็ทำมาเป็นระบบของผมปกติอยู่แล้ว”
   
ความรู้สึกนี้เกิดมาจากเรื่องคลิป ด้วยหรือเปล่า ?
   
“ความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดมาจากเรื่องคลิปซะทีเดียว แต่ความรู้สึกนี้มันบวกหลาย ๆ อย่าง ส่วนในเรื่องของคลิปผมเองไม่อยากจะไปรื้อฟื้น ผมอยากจะบอกว่าสิ่งใดก็ตามที่มันเกิดขึ้นแล้ว มันไม่ได้หายไป มันยังอยู่ข้างหลังเรา เพียงแต่เราจะหันไปมองมันหรือเปล่า ถ้าเราหันไปมองแล้วเราจะไม่ได้ไปไหน แต่ผมเลือกที่จะรู้ว่ามันอยู่ข้างหลัง แต่ผมเดินจากมันมาแล้วก้าวต่อไป ผมว่าในโลกนี้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ผมอยากไปค้นหา ไปพบเจอ ไปลอง ไปเรียนรู้ อยากหาประสบการณ์อยากเข้าใจ อยากรู้จักโลกข้างนอก อยากรู้จักตัวเองมากขึ้น ผมว่าโลกใบนี้เป็นห้องเรียนใหญ่
   
บางทีผมก็มานั่งทบทวนว่า สุขของเราอยู่ตรงนี้ คือ อยู่ในวงการนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้จริง ๆ หรือ หรือว่ามันมีอย่างอื่นอีกไหมที่เราไม่รู้ หรือว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะรู้ ผมก็แค่รอวันนั้น ผมว่าเรื่องคลิปมันเป็นแรงผลักดันให้ผมลุกขึ้นอยู่ แกร่งขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น ว่าในโลกก็เป็นแบบนี้ ว่าความคิดคนมันก็เป็นแบบนี้ มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเสมอไป แต่ในความไม่สวยงามมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด อย่างที่เราเคยรู้สึกกลัว”
   

'รักแบบอ้น'

ในเรื่องความรัก ถูกจับตามองมากเหมือนกัน แถมมีข่าวว่าห่าง ๆ กับนวลแล้ว เพราะคบกันมาพักใหญ่ก็ไม่มีข่าวดีสักที ตอนนี้อ้นกลัวการถูกผูกมัดหรือเปล่า ?
   
“ผมไม่ได้กลัวการผูกมัด แต่ผมไม่พร้อมที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว รู้สึกว่ายังมีฝันอีกมากมายที่อยากจะทำ ยังอยากเดินทางไกล อยากหายไปเป็นเดือน แล้วถามว่าถ้าฝันแบบนี้มันเหมาะมั้ยที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว บางคนก็บอกว่า ก็ไปด้วยกันก็ได้นี่ นั่นคือคนอื่นคิด ไอ้คำว่าไปด้วยกันก็ได้คือบางทริป แต่บางทริปผมอยากเดินทางคนเดียว ผมอยากไปอยู่วัดที่ทิเบตคนเดียวเดือนหนึ่ง แล้วผมกินมั่งไม่กินมั่ง นอนวัด ถามว่าเขาจะไปด้วยได้ไหมแบบนี้ มีคนบอกว่าทำไมต้องลำบากขนาดนั้น ผมก็อยากจะบอกว่าก็ผมชอบแบบเนี้ย ผมว่าสิ่งเหล่านี้ผมได้เรียนรู้ชีวิต จิตวิญญาณผมสงบ คือผมว่านะในความลำบากมันจะทำให้เราเรียนรู้ชีวิตมากขึ้น ผมยังอยากใช้ชีวิตแบบนี้อยู่เลย ยังมีคำถามอีกมากมายที่ผมอยากรู้ แล้วผมจะแต่งงานได้ยังไง เมื่อผมยังมีคำถามแบบนี้อยู่ จะให้ผมทิ้งฝันเพื่อไปแต่งงานมีครอบครัว ผมถามว่าแล้วผมจะแลกกับมันเพื่ออะไร ในเมื่อผมยังไม่พร้อมที่จะมีความสุขกับมันตอนนี้เลย แล้วผมก็ไม่คิดว่าชีวิตคนเราถูกลิขิตมาให้เป็นหัวหน้าครอบครับทุกคนไป แล้วผมก็คิดว่าผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติของความเป็นพ่อก็ได้ ผมอยากจะมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นครู เป็นเพื่อน หรือว่าเป็นคนรัก”
   
นวลเข้าใจไหม ?
   
“นวลเข้าใจครับ ผมโชคดีที่เจอคนที่เข้าใจ เพราะนวลรู้ว่าชีวิตจริงคนเราไม่ได้มีรูปแบบที่เหมือนกันทุกคน ทุกคนไม่ได้เกิดมาเหมือนกัน และผมโชคดีที่เรา 2 คน เหมือนกันที่ว่า เรามีความสุขกับปัจจุบัน และพยายามทำมันให้ดีที่สุด ส่วนอนาคต มันยังเป็นเรื่องที่มาไม่ถึงครับ ไปตั้งคำถามกับมันมากก็เครียดเปล่า ๆ ครับ (ยิ้ม ๆ หัวเราะ)

'ทิ้งท้ายแบบ...อ้น'   

“สุดท้ายผมอยากจะพูดสิ่งที่มาจากหัวใจของผมเลย ผมอยากจะขอบคุณทุกคนที่รักผมมาเสมอ ขอบคุณที่รักกัน อยากจะบอกทุก ๆ คนที่ติดตามผมมาตลอดว่า ไม่ว่าผมจะเป็นเทวดาของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเทวดาเสียวโว้ย ไม่ว่าผมจะเป็นซูเปอร์สตาร์ หรือว่าเด็กที่ดูซาดิสต์ในงานแฟชั่น ไม่ว่าผมจะเป็นใครก็ตามที่คุณเห็นผมมาตลอด ผมอยากจะบอกคุณว่า ถ้าคุณรักผมก็รักในแบบที่ผมเป็น อย่าคาดหวังให้ผมเป็นในแบบที่อยากจะรัก เพราะคุณจะไม่มีความสุข ถ้าคุณรักผม คุณคงอยากเห็นผมมีความสุขกับชีวิต ผมอยากจะบอกว่าทุกวันนี้ผมมีความสุขกับชีวิต ที่ผมได้รักตัวเอง และขอบคุณที่รักกัน และอยากจะบอกถึงคนที่ส่งเมสเสจมาหาผม คนที่อยู่ข้าง ๆ ใจผม ที่ใกล้ที่สุดในใจผมว่า ข้อความของคุณมีค่ากับผมมาก ผมโชคดีที่เจอคนใจดี ๆ แบบนี้ ผมขอบคุณมากครับ แฮปปี้วาเลนไทน์นะครับ”
   
การมองโลกของคนแต่ละคนมันต่างกัน

 อย่างที่อ้นบอก อยู่ที่ว่าใครจะเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองแบบไหน แต่ถ้าวันนี้คุณเลือกเส้นทางชีวิตตัวคุณเองแล้ว ก็จงไปให้สุดทาง เหมือนกับที่ อ้น-สราวุธ เขาบอกว่าเขาเลือกแล้วกับเส้นทางของเขาในวันนี้.