เขมรสั่งแบน ´ล่า-ท้า-ผี´ หากินกับความสยอง!

เขมรสั่งแบน ´ล่า-ท้า-ผี´ หากินกับความสยอง!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2549 18:13 น.

ภาพยนตร์เรื่อง "ล่า-ท้า-ผี" ที่กำลังจะเข้าโรงฉายในวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) นี้ ถูกทางการกัมพูชาสั่งแบนล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ โผล่เข้าเขมรยึดทันที

กรุงเทพฯ- เจ้าหน้าที่กัมพูากล่าวว่ากระทรวงวัฒนธรรมกำลังเตรียมการห้ามฉายภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ล่า-ท้า-ผี" (Ghost Game) ซึ่งมีเนื้อหาและมีฉากที่ทำขึ้นมาเหมือนกับเรือนจำตูลสแลงในกรุงพนมเปญ ที่ฝ่ายเขมรแดงใช้เป็นศูนย์ทรมานและสังหารนักโทษเมื่อกว่า 30 ปีก่อน

เจ้าหน้าที่ กระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่า ฟิล์มหรือวัสดุใดๆ ของภาพยนตร์ "ล่า-ท้า-ผี" ที่พบในกัมพูชาจะถูกยึดในทันที เนื่องจาก "ทำร้ายชื่อเสียงของประเทศ" โดยนำเอาอดีตที่ทรมานของชาวกัมพูชาไปเป็นจุดขาย ภาพยนตร์ดังกล่าวมีกำหนดจะเข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) นี้


ภาพยนตร์ "ล่า-ท้า-ผี" บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีซั่นที่สองของเรียลลิตี้โชว์สุดฮิต ซึ่งทีมงานได้รวบรวม 11 คนที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งลี้ลับ พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตร่วมกันในพิพิธภัณฑ์สงครามแห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา ซึ่งคนชุดสุดท้ายที่เคยเข้าไปเมื่อ 20 ปีก่อน ต้องตายอย่างน่าสยดสยองหลังจากนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปอีกเลย

ในภาพยนตร์ได้ใช้ชื่อสถานที่จำลองที่เป็นคุกในเขมรแดงว่า "เรือนจำลหุโทษ 11" ซึ่งคล้ายคลึงกับคุกตูลสแลง (Tuol Sleng) ของฝ่ายเขมรแดง หรือที่เรียกว่า "ค่าย S-21" ที่ในอดีตผู้คนหญิงชายทั้งเด็กและผู้ใหญ่กว่า 16,000 คน ต้องทนทุกข์ทรมาน กระทำการทารุณ และถูกสังหารในที่สุด

"มันเหมือนเป็นการรื้อฟื้นความทรวงทำอันแสนเจ็บปวด ไม่ใช่เพียงชาวกัมพูชาเท่านั้น แต่สำหรับเหยื่อทุกรายต่างก็ต้องการผลักไสความทรงจำที่เลวร้ายนั้นให้หลุดออกไป" นายยู้ก จาง (Youk Chhang) นักวิจัยของศูนย์เอกสารข้อมูลกัมพูชา (Documentation Center of Cambodia) ที่เป็นผู้รวบรวมหลักฐานจากตูลสแลงเพื่อเอาผิดกับอดีตผู้นำเขมรแดง กล่าว ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี

ประชาชนกว่า 2 ล้านคนล้มตายเพราะไม่มีอาหารตกถึงท้อง ถูกฆ่า หรือไม่ก็เหนื่อยล้า จากการถูกบังคับใช้แรงงานมากเกินกำลังกลางดินแดนที่กลายเป็นทุ่งสังหารล้างเผ่าพันธุ์ในยุคเขมรแดงครองกัมพูชา

ภาพยนตร์ "ล่า-ท้า-ผี" (Ghost Game) เป็นการร่วมสร้างของค่ายใหม่อย่างเอ็นจีอาร์ (NGR) กับบริษัท TIFA ที่ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกันของภาพยนตร์เรื่องนี้กับประวัติศาสตร์เขมรแดง แต่ก็ยอมรับว่าบรรดาผู้ที่ได้ชมอาจคิดไปว่ามันมีลักษณะเหมือนกัน

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในประเทศไทยทั้งหมด โดยฉากเหตุการณ์ภายในคุกนั้นก็ถ่ายทำภายในเรือนจำในจังหวัดภาคกลางของไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เปลี่ยนป้ายบางป้ายเป็นภาษาเขมร

"เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีเค้าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในตูลสแลงและเขมรแดงไปเกี่ยวข้องเลย แต่กลับภาษาเขมรที่ได้ใช้ในภาพยนตร์นั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องให้ผู้ชมคิดว่ามันเป็นคุกในกัมพูชา" เอเอฟพีอ้างคำกล่าวของ พิมลทิพย์ ยี่สนเทศ ผู้จัดการใหญ่ Tifa

ในส่วนของบทภาพยนตร์ก็ต้องมีความละเอียดรอบคอบ โดยได้เสนอต่อเจ้าหน้าที่ทั้งไทย และกัมพูชาได้พิจารณาก่อนด้วย แต่เจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ทางกรุงพนมเปญก็ไม่ได้เรียกร้องให้มีการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดเลย.

ห้องขังคุกตูลสแลง (Tuol Sleng) ของฝ่ายเขมรแดง

ทีมผู้สร้างโกสต์เกม ยันไม่เจตนาย่ำยีเขมร มั่นใจไม่ซ้ำรอย กบ สุวนันท์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2549 20:21 น.

ทีมผู้สร้างโกสต์เกม ออกโรงขอโทษ พร้อมโต้เครียด ไม่เจตนาย่ำยีความรู้สึกชาว เขมร บอสใหญ่เผยยังมึนๆ ถามหาความรับผิดชอบยังตอบไม่ได้ เจ้าตัวยอมรับพลาดตรงที่คิดน้อยไป ลั่นจะจำจนวันตาย แต่ปัดไม่รู้เรื่องที่กระทรวงวัฒนธรรมเขมรสั่งทำลายแผ่นฟิล์ม พร้อมดึงดันจะมีการฉายหนังต่อไป

เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นจนได้เมื่อนักวิจัยของเขมรท่านหนึ่งออกมาแสดงท่าทีไม่พอใจว่าหนังสยองขวัญโกสต์เกม ล่าท้า-ผี นั้นจงใจเลียนแบบฉากเหตุการณ์ในเขมรแล้วตอกย้ำความเสียใจแต่หนหลังที่มีการฆ่าหมู่ที่เคยมีอยู่จริง ร้อนถึงฝ่ายผู้สร้างอย่าง บ.ที่ฟ้า และ บ.เอ็น จี อาร์ ต้องออกโรงเคลียร์ข่าวเป็นการด่วน แจงไม่มีเจตนาทำลายความสัมพันธ์ ไม่หวั่นซ้ำรอย กบ สุวนันท์

วันนี้ (26 เม.ย.) เวลา 16.00น. 3 หัวเรือใหญ่อย่าง ณภัทร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม บิ๊กบอส บ.เอ็น จี อาร์ พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์ ผอ.การสร้าง และ ผกก.สราวุธ วิเชียรสาร ร่วมกันแถลงข่าวต่อกรณีดังกล่าว พร้อมโต้ข่าวหนังโดนแบน ประกาศชัดวันที่ 27 เมษายน เปิดฉายจริงแน่นอน เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์เหมือนกรณีนางเอกชื่อดังแน่นอน

ตอนนี้ยังไม่มีการแบน ทุกคนกำลังเข้าใจผิดคิดว่าเราโดนแบน เหตุการณ์มันยังไม่ได้รุนแรง แต่ที่ตัดสินใจแถลงข่าว ก็เพราะว่า จบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แคร์ความรู้สึกของเพื่อนบ้านของเรา พอข่าวลงเมื่อวันที่ 25 เมษาฯ เราก็รู้สึกตื่นเต้น แล้วตกใจมาก ที่หนังของเราเป็นข่าวลงทั่วโลก ซึ่งได้เห็นเนื้อข่าวเรายิ่งตกใจ เพราะมันเป็นเรื่องเซ้นท์สิทีฟเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไทย-กัมพูชาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ณภัทร หนึ่งในทีมผู้สร้าง ออกตัวชี้แจง....

สิ่งที่เราทำเราไม่ได้มีเจตนา ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ถ้าไปกระทบกระเทือนทางกัมพูชา เราก็อยากออกมาแสดงความรู้สึก ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เราทำมันถูกหรือผิด เลยอยากจะกราบขอโทษเพื่อจะแสดงความเสียใจและขอโทษ เราไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ วันนี้เราได้สั่งทำพวงมาลัยพิเศษ เพื่อขอแสดงความรู้สึกว่า เราไม่มีเจตนา และขอมอบพวงมาลัยนี้ให้ไปสู้คนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เฉพาะแค่ชนชาติกัมพูชา มันยังมีชนชาติอื่น ที่อยู่ในเรื่องนี้ด้วย

คิดว่าจะรุนแรงขึ้นมั้ย จะไปซ้ำรอยกรณี กบ สุวนันท์หรือเปล่า แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร?

ยังตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย ยังไม่รู้จะทำยังไง คงต้องดูกันไปว่าจะยังไง ก็ขอภาวนาที่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เรื่องของกบมันจบไปแล้วอย่าไปรื้อมันดีกว่า เพราะมันเซ้นท์สิทีฟมาก

จะระงับหนังมั้ย?

หนังจะเข้าฉายในวันพรุ่งนี้ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ถ้าใครคิดว่าเราทำพีอาร์เราก็อยากจะบอกว่า เราก็อยากทำพีอาร์ที่ถูกต้อง ไม่อยากให้ออกมาแบบนี้ ต้องตัดต่ออะไรมั้ยมันไม่ได้ เพราะเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวโดยตรง เราไม่ได้ถ่ายทำที่นั่น ก็ยังยืนยันเจตนาเดิมว่าไม่ได้ตั้งใจ บริษัทของเราเคยทำเรื่องคาวน้ำค้าง หน้าต่างบานแรก เป็นเรื่องสร้างสรรค์สังคมทั้งนั้น เราไม่เจตนาทำเรื่องที่ไม่ดี

ยืนยันไม่ได้ก๊อปปี้ฉากมาจากกัมพูชาแน่นอน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบวิธีการแก้ไขและไม่อยากให้เกิดเหตุรุนแรง ปฏิเสธข่าวที่ว่ากระทรวงวัฒนธรรมของกัมพูชาอาจยึดฟิล์ม และยอมรับว่าไม่คิดว่าจะมีผลกระทบเช่นนี้ ย้ำเหตุการณ์นี้จะจดจำชั่วชีวิต

จะทำอย่างไรต่อไปยังคิดอะไรไม่ออก ใครตอบได้ช่วยตอบหน่อย ยังไม่กล้าบอกทางโรงหนังเลยว่ายังไง บอกได้แต่ว่าหนังจะเข้าปกติ ต้องพิสูจน์ดูเจตนาของเราจากในหนัง มันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นแค่แรงบันดาลใจ ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยติดต่อไปทางกัมพูชาเพื่อถ่ายทำ แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะยังไม่ได้กลั่นกรอง และไม่ได้ไปถ่ายทำจริงๆ

ยอมรับว่าเหมือนเด็กโง่ ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น ไม่ได้คิดว่าจะทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ขอโทษจริงๆ ตอนแรกที่ตัดสินใจทำก็คือคิดแต่ว่าต้องระวังหน่อยแค่นั้นเอง ทีนี้เป็นบทเรียนที่จะจำไปตลอดชีวิต

ตั้งใจก๊อบปี้ให้เหมือนหรือเปล่า?
ไม่ได้ตั้งใจจะก๊อปปี้ให้เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เราทำหนังสักเรื่องมันต้องมีภาพในหัว แต่เราไม่มีเจตนาจะก๊อปปี้เลยนะ พอรู้ข่าวจุกเลย แน่นหน้าอกเลย ลูกก็บอกว่าเค้าจะคิดว่าโปรโมทหนังไหมเนี่ย สุดท้ายก็ต้องไปหาหมอ ขนาดว่าจะตายยังต้องนึกถึงเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ทางกระทรวงวัฒนธรรมทางกัมพูชาเค้าจะทำลายแผ่นฟิล์มจริงมั้ย?
ไม่รู้เรื่องนี้เลย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์