“อ้วน-อารีวรรณ” อดีตรองนางสาวไทยทุ่มเทผลักดันกม.ข่มขืนเด็ก- กม.เกย์-ทอม จดทะเบียนสมรส

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย “อ้วน-อารีวรรณ” อดีตรองนางสาวไทยทุ่มเทผลักดันกม.ข่มขืนเด็ก- กม.เกย์-ทอม จดทะเบียนสมรส

“อ้วน-อารีวรรณ” อดีตรองนางสาวไทย
ทุ่มเทผลักดันกม.ข่มขืนเด็ก- กม.เกย์-ทอม จดทะเบียนสมรส

       ช่วงนี้เราจะพบเห็นข่าวสารเหยื่อความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ต่างๆ ทั้งเด็ก สตรี ตกเป็นเหยื่อการข่มขืน เช่น กรณีน้องผู้หญิงที่โดนข่มขืนอย่างโหดเหี้ยมบนรถไฟ ฯลฯ ซึ่งผู้สื่อข่าว เว็บไซต์ www.teenee.com เราตระหนักและคิดไว้ว่าในฐานะของสื่อมวลชนที่ดี มีจรรยาบรรณ เราจะต้องนำเสนอข่าวสารที่มีประโยชน์เพื่อสังคมส่วนร่วม

       วันนี้ กองบรรณาธิการเว็บไซต์ www.teenee.com จะพาไปพูดคุยกับ อ้วน-อารีวรรณ จตุทอง อดีตรองนางสาวไทย เวทีเดียวกับน้องป๊อป-อารียา เมื่อ 2537 เธอเคยเดินขึ้นหน้าหนึ่งกับกรณีถูกชายผู้เป็นสามีทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอเข้มแข็งขึ้นอย่างอบอุ่นใจของทั้งตัวเอง จากผู้คนที่คอยให้กำลังใจอยู่รอบข้าง และทั่วประเทศ

       สำหรับ "อารีวรรณ จตุทอง" นั้น อดีตที่ปวดร้าวของเธอคือ ในปี พ.ศ.2540 อ้วน อารีวรรณ ตกเป็นข่าวคึกโครม หลังจากถูกผู้เป็นสามีซึ่งมีพฤติกรรมวิปริตทำร้ายร่างกาย และทารุณกรรมเธอหลายต่อหลายอย่าง ทั้งใช้เทียนหยดบนร่างกายของเธอบ้าง บังคับให้เธอแก้ผ้าเดินในที่สาธารณะบ้าง จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง และกลายเป็นตราบาปให้อดีตนางงามคนนี้

      อ้วน อารีวรรณ บอกว่า ในตอนที่เกิดเรื่องร้าย ๆ ครั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างถาโถมใส่เธอ จนเธอรู้สึกเครียดมากถึงขนาดคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะเหมือนตกนรกทั้งเป็น ทั้งถูกคนดูถูกว่าเป็นนางงามไม่มีสมอง และกลัวถูกสามีตามมาราวี แต่โชคดีที่ยังมีคนในสังคมจำนวนมากส่งกำลังใจให้เธอ ทำให้เธอตัดสินลุกขึ้นสู้อีกครั้ง และสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำก็คือการเป็นนักกฎหมาย เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และช่วยเหลือผู้หญิงในสังคมที่ถูกทารุณ

         ผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ มาได้สิบกว่าปี ในวันนี้ชีวิตของ อ้วน อารีวรรณ จตุทอง เปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือ หลังจากเธอก้าวผ่านอุปสรรคครั้งร้ายแรงในชีวิตมาได้แล้ว วันนี้ เธอเรียนจบปริญญาโทด้านกฎหมายมหาชน และได้ทำงานเป็นทนายความคอยให้ความช่วยเหลืองานกับมูลนิธิต่าง ๆ อีกทั้งยังได้ช่วยงานที่สภาสตรี สภาทนายความ รับเป็นอาจารย์พิเศษสอนกฎหมาย และเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องความรุนแรงต่อสตรี ซึ่งได้นำเอาประสบการณ์และความรู้ด้านกฎหมายที่เธอมีมาถ่ายทอดให้กับผู้ฟัง

            “วันนี้เราพัฒนาจากงานด้านต่างๆ ที่ช่วยเหลือสังคม เช่น มูลนิธิ ,สภาสตรี, สภาทนายความ มาอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก) ซึ่งสามารถทำงานและผลักดันให้เกิดร่างกฏหมายได้ง่ายขึ้น โดยกฏหมายที่ทำอยู่ตอนนี้หลักๆ นอกจากผู้หญิงและเด็กแล้ว คือ ร่าง พรบ.คู่ชีวิต ที่จะทำให้ผู้ชายกับผู้ชาย หรือ ผู้หญิงกับผู้หญิงสามารถแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันได้ ซึ่งจากข่าวสารต่างๆ ที่มีการแชร์ว่าเกย์จดทะเบียนกันได้แล้วนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตอนนี้อยู่ในขั้นตอนร่างกฏหมาย

โดยที่เราเร่งทำการสัมมนา สอบถามความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ และการที่เราเป็นหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยสำนักงานงบประมาณ เราจึงสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น และในอนาคตเราจะได้เห็นร่างกฏหมายฉบับนี้ผ่านสภาและประกาศใช้ต่อไป”

ในโอกาสต่อไป กองบรรณาธิการเว็บไซต์ www.teenee.com จะนำเสนอรายละเอียดเนื้อหาของร่าง พรบ.คู่ชีวิต และ ร่าง พรบ.คุ้มครองเด็ก สตรี ที่จะลงรายละเอียดมากกว่านี้เพื่อสังคมจะได้นำไปถกเถียงกันว่าในร่างกฏหมายควรจะบรรจุอะไรไปบ้าง เพราะเมื่อผ่านขั้นตอนรัฐสภาแล้วจะได้เป็นกฏหมายที่สมบูรณ์แบบต่อไป