อุ้ม สิริยากร ลั่นระฆังวิวาห์หนุ่มอเมริกัน

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย อุ้ม สิริยากร ลั่นระฆังวิวาห์หนุ่มอเมริกัน

อุ้ม สิริยากร - เจ้าบ่าว

เวลา 06.45 น. วันที่ 31 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ร้านอาหารในบริเวณพิพิธภัณฑ์ จิมทอมสัน ย่านสนามกีฬาแห่งชาติ กทม.

"อุ้ม" สิริยากร พุกเวช นักแสดงและพิธีกรสาว วัย 38 ปี พร้อมด้วยนายคริสโตเฟอร์ มาร์ควอร์ท วัย 39 ปี ครูสอนเด็กพิเศษชาวอเมริกัน เข้าพิธีสมรสแบบไทย หลังจากที่ทั้งคู่รู้จักและคบกันมาประมาณ 3 ปี

สำหรับในงานดังกล่าวเป็นการจัดแบบเรียบง่ายและแขกที่มาร่วมงานจะเป็นญาติผู้ใหญ่และเพื่อนๆที่สนิทประมาณ100 คนเท่านั้น โดยในจำนวนนี้มีคนในวงการไปร่วมงานอาทิ จิ๋ม-มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช ต้น-ลาวัลย์ กันชาติ โดยในระหว่างพิธีการ ทางนักแสดงสาวได้ขอเป็นการส่วนตัว และได้จัดที่รองรับสำหรับสื่อมวลชนไว้หน้าบ้านที่จัดงาน

หลังจากพิธีแห่ขันหมาก สู่ขอ สวมแหวนหมั้นเสร็จสิ้นลง และก่อนจะเริ่มเลี้ยงพระเพล คู่บ่าวสาวได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสัมภาษณ์และถ่ายรูปได้ โดยอุ้มกล่าวว่า ที่เลือกวันนี้ก็เพราะว่ามีหลวงปู่ท่านหนึ่งที่สนิทกัน ท่านให้ฤกษ์มาว่าวันนี้เป็นวันดี เป็นการจัดพิธีเพื่อรับสิ่งดีๆ ใหม่ๆในปีหน้าที่จะมาถึง

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า รู้จักกับแฟนมากี่ปี นักแสดงสาวกล่าวว่า
รู้จักและคบกันมาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยไปเจอกันขณะที่ไปปฏิบัติธรรมที่ จ.ขอนแก่น ตอนแรกก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอได้คุยกันแล้ว ปรากฏว่าเขาเป็นคนที่มีความคิดและหลักปฏิบัติของชีวิตคล้ายกัน ชอบธรรมะเหมือนกัน เรายังอึ้งที่เขาเป็นฝรั่งแท้ๆ แต่มาสนใจและปฏิบัติตามหลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและทำอย่างจริงจังด้วย ซึ่งเราเองก็ปฏิบัติอยู่

“ก่อนหน้านี้อุ้มก็เคยอธิษฐานไว้เหมือนกันว่า ถ้าจะมีใครสักคนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกับเรา ก็อยากจะให้เป็นคนมีธรรมะ ซึ่งพอมาเจอเขา และพอเราได้ศึกษาซึ่งกันและกัน ก็ยิ่งได้เห็นตัวตนของเขามากขึ้น สุดท้ายก็เลยตัดสินใจแต่งงานกัน ซึ่งเขาไม่ใช่แค่คนรัก แต่เขาคือคู่ชีวิตเราค่ะ” อุ้ม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หลังจากที่แต่งงานแล้วจะดำเนินชีวิตตัวเองอย่างไง
นักแสดงสาวตอบว่า วันที่ 2 ม.ค.นี้จะไปอเมริกา ไปบ้านเขาที่โอเรกอน เพื่อไปทำพิธีตามคริสต์ศาสนา ซึ่งน่าจะประมาณเดือน มิ.ย. และจะไปทำเรื่องเอกสารต่างๆ เรื่องกรีนการ์ด ซึ่งคงจะไปๆมาๆระหว่างไทยกับอเมริกา เพราะว่า แฟนก็ยังต้องทำงานที่นั้น แต่อย่างไงเราก็ยังต้องกลับมาเมืองไทยเพราะว่าเราคือคนไทย และยังอยากจะทำอะไรเพื่อตอบแทนบุญคุณประเทศชาติด้วย ส่วนเรื่องลูกก็หลังจากที่ทำอะไรต่างๆเสร็จแล้ว ก็คงอยากจะมีเลย เพราะอายุเราก็มากแล้ว อยากจะมี 2 คน