อี้-แทนคุณ แสดงวุฒิภาวะทางประชาธิปไตย


เปิดใจพิธีกรในวงการบันเทิงคนเดียวที่เข้าไปทำงานในราบ 11

ร่วมกับรัฐบาลอภิสิทธิ์และชีวิต 60 วันในช่อง 11

ไทยรัฐออนไลน์เปิดใจพิธีกรชื่อดังที่มีบทบาทสำคัญในสองเดือนที่ผ่านมาภายหลังได้ร่วมเป็นพิธีกรในรายการประเทศไทยวันนี้ทางช่อง สทท.11 ท่ามกลางภาวะทางการเมืองที่ตึงเครียด

คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกล่าวว่าการทำงานของเขามีส่วนสำคัญต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนในวันนี้

แน่นอนสำหรับอี้ - แทนคุณ จิตต์อิสระนั้น แท้จริงแล้วนอกจากงานประจำที่บริษัทเวิร์กพอยต์ ฯ ยังมีตำแหน่งทางการเมืองคือโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม   นั่นอาจจะเป็นครหาหนึ่งที่หลายคนค่อนขอดว่าเขาเข้าข้างรัฐบาล

ทว่าความจริงในใจนั้นน่าจะให้เขาได้พูดบ้าง 

จริงๆ  เข้ามาเป็นพิธีกรก็เพื่อหวังผลทางการเมืองหรือเปล่า
ไม่เลยครับ     ทุกวันนี้ผมไม่ได้เล่นการเมืองแต่ผมมีตำแหน่งคือโฆษกกระทรวงวัฒนธรรมซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่เงินเดือนเป็นเหมือนอาสาสมัครไปช่วยเขา 

คือมีวันนึงไปช่วยงานของรัฐบาล  ทีนี้รัฐมนตรีเรียกไปคุยบอกว่าอยากให้ผมมารับงานตำแหน่งโฆษกหน่อยนะเพราะผมทำรายการธรรมมะ    

  ผมว่าวงการเมืองกับบันเทิงมันคาบเกี่ยวกันนะ ถามว่าสนใจมั้ย ก็สน แต่ไม่ได้ไปสมัครไปเสนอตัว  ผมเป็นคนชอบทำกิจกรรมกับรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว

บางสื่อก็ค่อนขอดว่าชื่อเนรคุณ

อืมคิดแบบนั้นหรือครับ อย่างที่บอก ผมร่วมงานกับทุกรัฐบาลนะ    ส่วนที่ว่าผมเนรคุณผมก็ไม่รู้ว่าผมเนรคุณใคร  ถ้ามองภาพรวม คำว่าแทนคุณ ผมตั้งขึ้นมาในการเตือนใจตัวเองเพื่อให้แทนคุณพ่อแม่ ผมก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อยนะ แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา 

  จริงๆผมอยู่ในวงการบันเทิงมาแล้ว14ปี  และก็ช่วงหลังๆผมก็มาทำงานการเมืองด้วย ผมคิดว่ามันมีจุดยืนอย่างนึงก็คือว่าผมคิดว่าถ้ามันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นประโชยน์กับบ้านเมือง   อันนี้ต่างหากที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าทั้งหมด

จริงๆ ทำงานกับคุณปัญญาโดยตรง ออกมาแสดงบทบาทแบบนี้ เสี่ยตาปัญญาว่าอย่างไร

พี่ตาก็ไม่ได้ว่าอะไร  ก็บอกว่าแล้วแต่จะเลือก ให้ตัดสินใจเอง  อย่างงานในวงการพอโตขึ้นผมชอบอะไรที่มันเกี่ยวกับความรู้ เกี่ยวกับสาระ เราก็ไม่ใช่คนที่Entertain สนุกสนาน

ถึงจะอยู่ในวงการบันเทิงผมก็รู้สึกว่าเราจะต้องช่วยกันยกระดับของความบันเทิงให้มันมีสาระมากขึ้น  ผมคิดว่าวงการบันเทิงมันต้องมีระบบนำความคิด  เป็นเหมือนสถาบันการศึกษาอย่างนึง 

เดี๋ยวนี้บันเทิงไทยมันเน้นแต่ตลก สนุกสนานอย่างเดียว ผมว่ามันไม่ค่อยก้าวหน้ามาก  ดูญี่ปุ่นนี้เค้าจะเอาความรู้เป็นตัวตั้ง จะทำอย่างไรให้ความรู้มันสนุก ผมว่าโจทย์ใหญ่ของประเทศไทยอยู่ตรงนี้มากกว่าสำหรับบันเทิงนะ

ครับ แต่สำหรับการเมืองมันก็จะมีอย่างอื่นมากกว่า คือความรู้เหมือนกันแต่ว่ามันต้องมาพร้อมกับความดีเรื่องของธรรมมะ  ความเสียสละคุณธรรมและจริยธรรมผมว่ามันต้องไปคู่กัน




แล้วกับงานบันเทิงหลังเสร็จงานที่ช่อง 11 แล้วมีอะไรรออยู่ไหม
ที่จริงไม่ได้ออกจากเวิร์กพอยต์ฯ​นะครับ  ผมยังทำรายการของ Work Piont อยู่ คือรายการคนเก่งภาษาไทย แล้วก็เร็วๆนี้ ก็คาดว่าจะมีอีกหนึ่งรายการ เป็นรายการที่มีชื่อว่าวิทยสัพประยุทธ์เป็นรายการที่เอาเรื่องของวิทยาศาสตร์มาทำให้เป็นเกมส์  คาดว่านะครับแต่ยังไม่ชัวร์

ชีวิตส่วนตัวกับลูกเป็นอย่างไร ลดน้อยไปไหม
เวลาอยู่บ้านผมก็นอนพักแล้วก็เล่นกับลูก
เพราะพักผ่อนน้อยเวลาส่วนใหญ่ก็อยู่ราบ11 ช่วงนี้ราบ11ทุกวันแล้วก็ช่อง11กลางวันอยู่ราบ11กลางคืนอยู่ nbt    บรรยากาศข้างในเหมือนค่ายทหารที่เหมือนบ้านเข้าไปทุกที    แต่ผมสงสารทหารเขานะ เค้านอนกับพื้นโดยไม่มีเต็นท์ หรือถุงนอน เพราะทหารที่นั่นเยอะมากจนที่พักไม่พอ

มองอย่างไร  ที่พงษ์พัฒน์​ออกมากพูดเรื่องความรักพ่อ
คนในวงการบันเทิงควรจะออกมาช่วยกันเยอะๆ
ถ้าเราไม่ช่วยกันและคิดถึงประโชยน์ของตัวเองสังคมประเทศก็จะอยู่ไม่ได้ ถ้าคิดถึงส่วนรวมนตัวเราจะอยู่รอด งั้นเลือกเอาว่าจะเอาใครรอด เอาตัวเรารอดหรือหรือเอาประเทศชาติรอด

อี้มองเรื่องเสรีภาพในการแสดงของคนไทยตอนนี้อย่างไร

จริงๆแล้วสิ่งสำคัญอย่างนึงของประเทศไทยเสรีภาพจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อการมีส่วนร่วมการศึกษาต้องสูงขึ้น  การศึกษาไม่ได้หมายความเรียนในห้องเรียนอย่างเดียวแต่หมายถึงสื่อด้วย เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญมาก  และเรื่องเศรษฐกิจเพราะว่าตอนนี้เศรษฐกิจเป็นเครื่องมือสำคัญของนักการเมืองในการที่จะผูกอำนาจมัดกับคนในสังคมหรือคนทุกคน

นโยบายสาธารณะต่างๆที่ออกมาทำยังให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุดแล้วก็ลดการพึ่งพานักการเมืองแล้วก็ลดการคอรัปชั่น  การคอรัปชั่นคือการแย่งเครื่องมือแย่งโอกาสในการเขาถึงทรัพยากร



ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
ไทยรัฐ



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์