อัพเดท! “ตูมตาม” ข้ามค่ายเล่นละคร “ช่อง 8” เป็นนักแสดงอิสระเต็มตัว ความรักสุดแฮปปี้!!

"อันดับแรกต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆคนที่มีส่วนร่วมในการทำงานครั้งนี้ ดีใจครับที่ได้มาร่วมงานและเปิดประสบการณ์กับที่ต่างๆ บ้าง สนุกดีครับ ถามว่าแตกต่างไหม ด้วยวิธีการทำงานไม่แตกต่าง ระบบการทำงานคล้ายๆกัน เพียงแค่ต่างสังคม ต่างเพื่อนร่วมงาน เพราะเราไม่เคยเจอ แต่ทุกคนน่ารักมาก เป็นกันเอง"

ตัดสินใจนานไหม "ผมเป็นนักแสดง ผมแสดงที่ไหนก็ได้ ส่วนหนึ่งที่งานนี้มาแล้วผมอยากจะรับก็คือเป็นพี่น้องที่รู้จักกัน ประกอบกับต้นสังกัด เขาค่อนข้างเปิดโอกาส และเปลี่ยนรูปแบบในการดูแลใหม่ เขาอนุญาต อีกอย่างมันก็เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ทำให้เราโตขึ้นด้วย ต้องขอบคุณทางค่ายที่อนุญาติให้เราได้ออกมาเปิดประสบการณ์ใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่เราอยากทำ เราจะทำอะไรก็ได้ อยากไปถ่ายละคร อยากไปเล่นที่ไหนก็ได้ เราก็เหมือนกับฟรีขึ้นมาๆ"

ทางผู้ใหญ่อาร์เอสติดต่อเราไปโดยตรง หรือว่าผ่านทางค่าย "ทางพี่โด่ง องอาจ เป็นพี่ที่ผมรู้จักเขาก็ติดต่อมาทางผม เราก็โยนเรื่องให้ให้ทางบริษัทช่วยดูแล"

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเราน้อยใจว่าทางช่อง วัน ไม่ค่อยป้อนงานให้เรา "จริงๆ แล้วผมเป็นคนนึงที่โชคดีมากๆ ตอนที่ผมอยู่ในค่าย โดยส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกว่าต้องหวือหวาอะไรมาก ทางช่องเขาให้งานเสมอ บทบาทไหนผมแฮปปี้ เราไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นเบอร์หนึ่ง เรามองว่าเราเป็นนักแสดง แค่มีบทบาทให้เราเล่นก็แฮปปี้แล้ว"

เราอยากเป็นนักแสดงอิสระ "ตอนนี้ก็เป็นอยู่"

เรียกว่าตอนนี้เราหมดสัญญากับเอ็กแซ็กท์แล้ว "ตอนนี้ยังคุยเรื่องสัญญากับทางค่ายไม่จบครับ ยังคุยกันถึงเรื่องการจัดแจงรูปแบบของการดูแล เอาง่ายๆ มันเหมือนแค่เรื่องของละคร ที่ทางค่ายจัดแจงให้กับผม เพราะว่าสัญญาเป็นเดอะสตาร์หมดแล้ว เหลือแค่สัญญาการเป็นนักแสดง"

แนวโน้มจะเป็นอิสระ "ต้องดูก่อนครับ ผมก็อยากอยู่กับค่าย แต่เราก็อยากอยู่อย่างสบายใจในทุกๆเรื่องในการทำงาน นี้คือสิ่งที่ผมพูดกับผู้ใหญ่ ถึงผมจะไม่ต่อสัญญา ผมก็คงไม่ได้ไปต่อกับที่ไหน ผมจะดูแลตัวเอง ถ้าจะอยู่กับทางค่าย ก็ต้องตกลงว่าเราจะดูแลกันแบบไหนมากกว่า"

แสดงว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นนักแสดงอิสระมากกว่า "ผมก็อยากที่จะให้เป็นอย่างนั้น มันไม่ใช่แค่งานในวงการ ผมเริ่มอยากที่จะไปทำอย่างอื่นด้วย ผมเสียดายเวลาที่จะอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ ก่อนหน้านี้พ่อแม่ผมกลับบ้านไป แล้วกลับขึ้นมากรุงเทพ แล้วผมเจอท่าน รู้สึกว่าทำไมท่านแก่ขึ้นเยอะ ผมรู้สึกอยากมีเวลาอยู่กับที่บ้านให้มากขึ้น"

มันเกี่ยวกับว่าสัญญาฉบับใหม่ของเอ็กแซ็กท์มันควบคลุมรายละเอียดเยอะหรือเปล่า เลยทำให้เราต้องตัดสินใจเยอะ "สัญญาฉบับใหม่ มันก็เป็นการปรับแก้ไปตามสถานการณ์ เราก็ต้องปรับแก้ตามความต้องการของทั้งสองฝ่าย และดูเหตุการณ์ ใช้เหตุผลในการใช้ชีวิต ต้องบอกว่าเงื่อนไขในสัญญาบางอย่างมันกัดการอุปนิสัย หรือการใช้งานในชีวิตจริง สัญญากับเอ็กแซ็กท์ หมดไปตั้งแต่ช่วงต้นปีครับ"

แล้วมีเรารับงานเองไหม

"มีครับ เพราะว่าผมมีผู้จัดการส่วนตัวด้วย พูดจริงๆ หน้าตาผมก็ยังเป็นเด็กเอ็กแซ็กท์ เป็นเด็กช่อง วัน เป็นลูกหมอ เป็นเด็กในบ้านอยู่แล้ว ผมว่าเรื่องสัญญาเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องบุญคุณเรื่องของความเป็นครอบครัวมันก็ยังมีอยู่เสมอ ยังไงเอ็กแซ็กท์ก็เป็นบ้านคุณพ่อคุณแม่ผม เรื่องสัญญาใจมีอยู่แล้ว ถึงจะต่อไม่ต่อผมก็ยังรักเอ็กแซ็กท์ รักผู้ใหญ่ทุกๆคนที่ผมเกิดมา เพราะว่ามันเป็นบ้านผม"

อย่างในไอจีของเราคนจะเห็นแค่เราอัพรูปไปเที่ยว เลยคิดว่าเราไม่ได้ทำงาน

"อินสตาแกรมที่ผมตั้งมาตอนแรกเป็นร้านขายของ จนพัฒนามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นที่ไว้ให้ผมแชร์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ เรื่องงานมีนิดหน่อย เพราะว่างานเราทำทุกวันอยู่แล้ว"

เห็นชวน "ญิ๋งญิ๋ง-ศรุชา เพชรโรจน์" แฟนสาวไปเที่ยวกันตลอด "ต้องบอกว่าเป็นคู่หูในการเที่ยว เวลาเที่ยวเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิด เรามีแชร์แนลของเราในยูทูปด้วย ต้องครีเอทงานกัน เวลาไปเที่ยวก็ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวกันเฉยๆ ต้องถ่ายทำมาด้วย เพื่อมารีวิว และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามที่เราชอบ มันเป็นความสุขของการใช้ชีวิต"

ความรักแฮปปี้มาก

"แฮปปี้ดีครับ เร็วๆนี้น้องรับปริญญา แต่ผมเศร้าหน่อย เพราะว่าผมทำงานเลยไปงานรับปริญญาน้องไม่ได้ ของขวัญให้น้องเดี่ยวต้องไปดู แต่ตอนนี้ต้องหาเวลาให้เขาก่อน ถามว่าเขางอนไหม อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน"