อังเคิล ยัน! วาไรตี้ ผีฉลุย ขายคอนเซ็ปต์ เปล่าขาย หม่ำ

"อังเคิล" ยัน! "วาไรตี้ ผีฉลุย" ขายคอนเซ็ปต์ เปล่าขาย "หม่ำ"

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2548 21:44 น.

โด่งดังจากฝีมือการกำกับหนังวัยรุ่นชื่อดังอย่าง "ฉลุย" ตั้งแต่ 15 ปีก่อน แต่พอผันตัวไปเป็นโปรดิวเซอร์ หนังหลายเรื่องกลับเจ๊งไม่เป็นท่า ทำเอา "อังเคิล อดิเรก วัฏลีลา" ต้องกลับมากำกับเองอีกครั้งใน "วาไรตี้ผีฉลุย" พร้อมดึงเอาตลกร้อยล้าน "หม่ำ จ๊กมก" มาเป็นตัวชูโรง งานนี้เจ้าตัวยันหนังไม่ได้ขายหม่ำ แต่เน้นขายคอนเซ็ปต์ตัวเองเหมือนเดิม

ห่างหายจากการกำกับหนังไปร่วมสิบปี ในที่สุดผู้กำกับหนังวัยรุ่นชื่อดัง อย่าง อังเคิล ก็ได้กลับมาเคาะสนิมอีกครั้ง โดยคราวนี้พาฉลุยมาเกิดอีกภาคแบบคงคอนเซ็ปต์เดิมแต่เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอเป็นเรื่องผี หลังจากที่ใน ฉลุยหิน คนไข่สุดขอบโลก ทำออกมาแนวค้นหาชีวิตแล้วไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร โดยงานนี้นอกจากจะได้เคาะสนิมแล้วยังถือว่าเป็นการต่ออายุตัวเองให้กับทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์แห่งประเทศไทยอีกต่างหาก

"เดี๋ยวหมดสถานะสมาชิกสมาคมผู้กำกับน่ะ เพราะเขาต้องมีผลงานในรอบ 10 ปี นี่ก็เลย 10 ปีแล้วผมก็เลยต้องต่ออายุไม่งั้นสมาคมผู้กำกับเค้าไม่รับ (หัวเราะ)

จริงๆ ฉลุยมันเป็นหนังคอนเซ็ปต์เดิมของผมอยู่แล้ว อย่าง ฉลุย (2533) เป็นคอนเซ็ปต์ที่มีฝันแล้วจะต่อให้ฝันนั้นเป็นจริง ซึ่งกว่าจะประสบความสำเร็จได้ก็ลำบากยากเย็น ก็ให้กำลังใจเขาน่ะ วันนั้นที่เคยฝันกันว่าดี วันนี้อาจจะผิดหวังก็ได้ ให้ฝันกันต่อไป สักวันความฝันก็คงเป็นจริง อะไรอย่างนี้

คราวนี้ผมเอาเปลือกมันน่ะเป็นหนังผี ซึ่งเป็นหนังบันเทิงด้วยเป็นหนังตลกด้วย มาทำให้คนดูง่ายขึ้น มันจะได้ไม่ยาก เนื้อหาคนจะได้ไม่งง ผมเคยทำ ฉลุยหิน แล้วเนื้อหามันยากไป มันกึ่งๆปรัชญาชีวิตคนดูจะดูไม่รู้เรื่อง ผมก็ปรับให้มันดูง่ายๆ

ฉลุยอันนี้ผมพูดถึง 9 คนที่ไม่ประสบความสำเร็จเลย คอนเซ็ปต์ของผมก็คือว่าให้เขายอมรับความจริง พอผิดหวังมันก็เสียใจชีวิตเขาก็แย่เหมือนฝันร้าย เขาอาจต้องไปขายประกันที่เขาไม่ชอบแต่จริงๆแล้วก็มันเป็นความจริงน่ะ ให้ยอมรับความจริงและทำให้มันออกมาดีที่สุด สักวันหนึ่งความฝันที่เป็นผลร้ายอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ เราชินกับมัน เราทำให้มันดีมันก็ส่งผลดีกลับมาที่เรา"

และหลังจากที่หนังผีหลายเรื่องได้มีการล้อเลียนและแซวกันเองระหว่างหนังและผู้กำกับด้วยกัน เรื่อยมาตั้งแต่ บุปผาราตรี ของ ยุทธเลิศ สิปปภาค งวดนี้ อังเคิลก็มีทีเด็ดเหมือนกันเพราะนอกจากจะแซวคนอื่นแล้ว ยังแซวตัวเองด้วย

"วาไรตี้ ผีฉลุย เป็นหนังที่..พูดให้มันซีเรียสมันก็ซีเรียสนะ แต่พอดูแล้วมันก็เป็นตลก ผมก็พยายามใส่ผีให้มันตลกเข้าไป ผีอุปาทานมั่ง ผีคิดไปเองมั่ง แล้วมันก้ำกึ่งผีจริงผีปลอม ไม่รู้แล้วแต่จะคิด คงเป็นหนังที่ไม่เหมือนใครเขาน่ะ อธิบายยาก ต้องไปดูเอาน่ะ

และก็เป็นหนังที่เอาผู้กำกับมาเล่นประมาณ 30 คน ทุกคนกลัวตกประวัติศาสตร์ถ้าไม่ได้เล่นเพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังประวัติศาสตร์ นี่เดี๋ยวก็มี เปี๊ยก โปสเตอร์ ผมเอามาล้อหมดเลยนะ มี เป็นเอก (รัตนเรือง) อภิชาติพงศ์ (วีระเศรษฐกุล) วิศิษฎ์ (ศาสนเที่ยง) เก้ง (จิระ มะลิกุล) เข็นตุ๊กตาทองเข้าโรงรับจำนำน่ะ เอ้านั่นมันตอน 15 ค่ำเดือน 11 หนิ อะไรแบบนี้ แฉเลยล่ะเรื่องนี้เสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) วิสูตร (พูลวรลักษณ์) ก็โดน ผมยังโดนนะ ผมมาปิด บริษัทฟิล์มบางกอกเลย เราก็ขำกันเองน่ะ ชาวบ้านอาจดูไม่รู้เรื่อง"

อย่างไรก็ดี การที่ดึงเอาตลกชื่อดังอย่าง "หม่ำ จ๊กมก" มาร่วมแสดงนำนั้น นอกจากจะทำให้หลายคนมองว่าเอาหม่ำมาช่วยสร้างกระแสแล้ว ยังมีอีกกระแสว่าอาจจะเฝือเกินเพราะมีหนังของตลกชื่อดังออกมาถี่เหลือเกินตั้งแต่ หลวงพี่เท่ง เฉิ่ม พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า หรือกระทั่งแหยมยโสธร ที่เจ้าตัวกำกับเองและเล่นเองและยังฉายอยู่ งานนี้อังเคิลย้ำว่าไม่กลัวเพราะเอามาเล่นซีเรียสไม่ได้เอามาเล่นตลก

"เราเอาเขามาเป็นตัวเดินเรื่องที่คนดูดูแล้วอาจจะซีเรียส เรื่องราวมันซีเรียสก็ทำให้มันเบาขึ้นน่ะ คนไหนอยากได้เนื้อหาซีเรียสที่จับต้องได้ มันก็อยู่ใต้ล่าง ซ่อนไว้ใต้ล่างให้หมด ข้างหน้าเราโรยผักชีไปอะไรแบบนั้น

ถ้าเฝือก็ช่วยไม่ได้เพราะว่าผมไม่ได้ขายตรงนั้น ผมขายคอนเซ็ปต์ แต่ด้วยความที่นักแสดงแต่ละคนเขามีความสามารถไง เขาจะลื่นไหลไปได้ แต่หนังผมพอตัดต่อแล้ว มาร้อยกันแล้วมันจะไม่ทำให้เนื้อหาผมเบาน่ะ ผมไม่ได้เอาตัวเขามาเล่นแล้วให้มาทำมุกตลก ในเรื่องเขาหน้าตาซีเรียสจะตาย เนื้อหามันจะพูดถึงสิ่งที่คือมันขำไปเองน่ะ ถ้าใครเกิดทันสมัย ฉลุยแรกนะ จะเป็นลักษณะการตัดต่อที่คนคาดการณ์ผิด ไม่ได้ตลกแบบให้คนมาลื่นเหยียบเปลือกกล้วยแบบนั้น คนละแบบกัน มันสไตล์ผมเป็นอย่างนี้ซึ่งผมคิดว่ามันไม่เฝือ

คือหม่ำจะเล่นเป็นต้อม ผู้กำกับหนังสั้นที่อยากทำหนังใหญ่แต่ไม่ได้ทำสักที วันหนึ่งชีวิตเขาต้องแย่มากๆมาทำรายการผีซึ่งเขาไม่ชอบ ชีวิตมันโดนสังคมพาไปบีบบังคับทุกคนต้องมาทำในสิ่งที่ไม่ชอบเหมือนคนในสังคมทุกวันนี้ที่ต้องไปทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบซึ่งเป็นสิ่งปกติ"

ส่วนสาเหตุที่เลือกตลกคนดังมาเล่นนั้น ผู้กำกับฉลุยเปิดใจว่า เดิมทีจะให้ต้นฉบับทั้งสองอันได้แก่ "เอ็ม-สุรศักดิ์ วงษ์ไทย" รวมทั้ง "บิลลี่ โอแกน" มาเล่นต่อแต่ด้วยระยะเวลาและความฝันที่โดดออกไปบวกกับการให้เนื้อเรื่องทันสมัยขึ้นจึงเหลือเพียงการร่วมแจมเท่านั้นเอง

"เดิมทีผมอยากจะเอาเอ็มกับบิลลี่มาเล่นด้วยซ้ำไป แต่ภาคก่อนเขาอยากเป็นนักร้องอยู่น่ะ มาเป็นหนังผมไม่อยากให้โดดมาก แต่คือจริงๆแล้ว 2 เส้นนี้ก็จะเอามาเจอกันตรงอาร์ซีเอน่ะที่โรงหนังเฮาส์ เอ็มกับบิลลี่ก็มาขายเพลงตรงนั้น ตอนฉลุยภาคแรกทั้งสองคนก็ไม่ได้เป็นนักร้องนะ เรื่องจะมาตัดตรงนี้ในฉลุยนี้ก็คือต่างคนต่างเดินไป ส่วนที่ผมเลือกหม่ำเพราะเขาก็น่าจะเป็นอย่างนั้นได้ แล้วก็เขาก็เป็นผู้กำกับมาแล้ว การที่เขาจะกำกับหนังก็เป็นไปได้แต่ด้วยบุคลิกทำให้ดูก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ คือหุ่นไม่ให้แต่ใจรักน่ะ"

ด้านรายได้ของหนัง งานนี้เจ้าตัวบอกไม่ห่วง แค่อยากให้หนังออกมาดีที่สุดเพื่อให้คนดูได้เข้าใจและสนุกด้วยกันมากกว่า

"ก็หวังเป็นปกติน่ะครับ จะเอาเท่าต้มยำกุ้งดีมั้ย ไม่กล้าคิดไม่รู้ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรที่หนักใจมากเพราะว่าหนังผีหนังตลกเป็นอะไรที่ปกติของคนดูอยู่แล้วในประเทศนี้ ไม่ค่อยเป็นห่วง นักแสดงระดับนี้มาช่วยกันเยอะแยะ แต่เป็นห่วงว่าหนังทำมาดีรึเปล่า คนดูสนุกรึเปล่า ดูรู้เรื่องรึเปล่ามากกว่า สิ่งที่เราพยายามจะบอกไปคนจับต้องได้มั้ยเท่านั้นเอง"