อนัดดา คบ จี๊ด แฟร์ๆ แบ่งกันกินแบ่งกันใช้

แต่ไม่ใช่ย้ายหายไปเลย ปีนึงผมอาจจะไปอยู่ที่นั่นครึ่งปี อยู่เชียงใหม่ครึ่งปี ที่ผ่านมาครอบครัวของผมยังไม่มีบ้าน

เดือน ๆ นึง ผมต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน 2 หลัง ของผมหลังหนึ่งของแม่หลังหนึ่ง ก็เกือบ ๆ แสนแล้ว คือโอกาสที่เราจะซื้อบ้าน แล้วผมก็รู้สึกว่าบ้านที่กรุงเทพฯ มันแพง เคยดูคอนโดห้องเล็ก ๆ ยัง  16 ล้านเลย สู้ไปซื้อบ้านสวย ๆ อากาศดี ๆ ที่ต่างจังหวัดอยู่ดีกว่า เอาแค่ 2-3 ไร่พอ เวลาทำงานก็บินมาทำที เพราะถ้าผมอยู่กรุงเทพฯ แล้วไปซื้อบ้านรอบนอกเมือง  อยู่ ผมก็ต้องใช้เวลา 2 ชม. ในการจะเดินทางไปทำงาน ซึ่งมันก็พอ ๆ กับบินไปกลับจากเชียงใหม่หรือหลวงพระบาง”

เริ่มคิดจะซื้อของใหญ่ขึ้น?

“ผมเพิ่งเริ่มคิดได้ว่าการใช้เงินแบบนี้มันคุ้มค่ากว่า เพราะผมใช้เงินเก่ง แต่ก่อนผมไม่เคยสนใจว่าเงินจะเยอะหรือน้อย แต่เงินมันหายไปเยอะโดยที่เราไม่ได้อะไรกลับมา แล้วเรา  ก็โตแล้ว อย่างน้อยปลูกบ้านก็ยังดี เวลามีปัญหาอะไรก็ยังมีบ้านให้อยู่”

...เป็นเพราะจี๊ดด้วยมั้ย...

“ไม่ ผมเองก็ยังยุให้จี๊ดซื้ออยู่เลยนะเนี่ย แต่คงไม่ซื้อร่วมกัน ตอนอายุ 16-17 ปี ผมเคยซื้อรถกับแฟนเก่า ตอนรักกันก็โอเค แต่ตอนเกลียด กัน เฮ้ย! รถของเรานี่นา แต่เราเป็นผู้ชายเราก็ต้องให้เขา เราเลยรู้สึกว่าควรแยกเรื่องเงินทองออกจากความรักดีกว่า มันคือวิธีคิดของคนปกติ เพราะเราก็เคยมีประสบการณ์ตรงนั้นมา”

ทำไมยุให้จี๊ดซื้อล่ะ?

“จี๊ดนิสัยเหมือนผม ใช้เงินไม่เป็นระบบ แต่ตอนนี้เราเริ่มเปลี่ยนแล้ว หันมาสนใจเรื่องการดูแลเงินมากขึ้น ที่ผ่านมาเขาช่วยใช้เยอะ พักหลังพอเห็นผมเคี่ยวก็เริ่มเคี่ยวบ้าง ปกติผมจะเป็นคนรูดบัตรเครดิต จี๊ดจะใช้เงินสด ช่วงไหนที่เราไม่ค่อยได้ไปเที่ยว เขาจะเสียเปรียบ เพราะต้องเอาเงินให้ผมใช้ทุกวัน ซึ่งส่วนมากผมก็ไม่ได้ใช้อะไร ใส่กระปุกอย่างเดียว ตอนหลังพอเขารู้ว่าผมเอาเงินมาหยอดกระปุกก็เริ่มให้น้อยลง (หัวเราะ)”
 
...ดูเป็นรักที่ลงล็อกมาก...

“ปกติเราก็พยายามทำให้สบายที่สุด แต่เรื่องพวกนี้อย่าให้ผมพูดเลยว่าเป็นรักแท้หรือไม่แท้ ถามว่า ณ ตอนนี้ก็ลงตัวสุด แต่เราก็ต้องยอมรับด้วยว่าที่ผ่านมา ตอนที่เรารักกับคนอื่นมันก็ลงตัวเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำใจว่าทุกอย่างมันก็อาจมีสิทธิเปลี่ยนกันได้ ส่วนเรื่องแต่งงาน ผมยังไม่คิด คงต้องรอให้ความรู้สึกแบบนั้นมันเกิดขึ้นก่อน แล้วค่อยมาว่ากันอีกที”.