หัวอกแม่....สาวิณี ปะการะนัง

หัวอกแม่หมูแฮม

คงไม่มีครั้งไหนที่ทำให้หัวอกของคนเป็นแม่อย่าง "เอ๋" สาวิณี ปะการะนังต้องชอกช้ำที่สุดเท่าครั้งนี้แล้ว...

เป็นเวลากว่าอาทิตย์ที่เธอต้องร่ำไห้เมื่อเห็นลูกนอนไม่สมประดีอยู่ที่โรงพยาบาล อีกทั้งยังต้องหอบร่างกายอันย่ำแย่ตระเวนไปเยี่ยมเหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบคันเร่งของลูกชายนายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ "หมูแฮม" รวมทั้งยังต้องบากหน้าไปงานศพของนางสายชล หลวงแสง ท่ามกลางเสียงด่าขรม

ไม่เท่านั้น เมื่อครั้งที่อดีตสามีนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ หลุดปากเอ่ยคำว่า "ไร้การศึกษา" จนคนด่ากันทั้งเมือง เธอก็ออกมาขอโทษแทน

สาวิณี..เป็นคนเดียวที่ออกมาทำทุกอย่าง เพียงหวังว่าจะเป็นการขมาโทษแทนลูกชาย

ที่เธอทำเช่นนี้ได้เพราะเหตุผลเดียว ...หัวอกแม่...

"ตอนนี้ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยค่ะ เหนื่อยมาก แต่ความเหนื่อยของเอ๋ คงไม่เท่ากับความชอกช้ำของคนที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่น้องแฮมได้ทำ สำหรับตัวเอ๋เหนื่อยแค่นี้ไม่เป็นไร อะไรที่เราคิดว่าทำได้ก็ต้องทำ แม้ว่ามันจะไม่สามารถชดเชยสิ่งที่เสียไป" เสียงเเธอฟังดูอ่อนล้า

สาวิณีให้สัมภาษณ์กับมติชน หลังจากที่พอทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ้าง

"ตั้งแต่เกิดเรื่อง เอ๋แทบไม่ได้นอนเลย มันห่วงทุกอย่าง ห่วงลูก ห่วงคนเจ็บ ห่วงญาติของคนที่เสียชีวิต เอ๋เสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เอ๋อยากเข้าไปขอโทษทุกคนแทนน้องแฮม" เธอน้ำตาคลอ


"เอ๋รู้ว่าน้องแฮมทำผิด เราในฐานะที่เป็นแม่เราก็ต้องทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด มองอย่างเดียว คิดอย่างเดียวว่าเขาเป็นลูกของเรา ถึงแม้ลูกจะผิด จะถูก จะดีจะชั่ว แต่เขาก็เป็นลูกเรา เราต้องช่วยให้ดีที่สุด เราจะทิ้งเขาได้อย่างไร เราทำให้เขาเกิดมาแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่เป็นการกระทำของลูกด้วย"

ลองย้อนหลังไป หลายคนรู้จักผู้หญิงคนนี้จากเวทีนางสาวไทย เพราะเธอคือผู้หญิงที่สวยที่สุดของประเทศในปี 2527 แถมยังเข้ารอบ 1 ใน 10 ของการประกวดมิสยูนิเวิร์สในปีเดียวกันด้วย

จริงๆ แล้วชีวิตของเธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด ...

แต่ใครจะคิดว่าผู้หญิงที่พร้อมอย่างสาวิณีจะผ่านวิกฤตของชีวิตมานับครั้งไม่ถ้วน

เธอให้กำเนิดลูก 3 คน หมูแฮมคนโตมีอาการชักอย่างรุนแรงจนทำให้มีอาการเป็นไฮเปอร์ลูกสาวคนที่สองน้องสแปมเป็นเด็กพัฒนาการช้ากว่าเด็กปกติ และน้องคนสุดท้องน้องแบมบี้ลูกสาวคนเล็กที่ต้องผ่าหัวใจรั่วตั้งแต่อายุได้เดือนครึ่ง

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกทั้ง 3 คนแม้จะทำให้เธอทุกข์ใจบ้าง แต่เธอก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเหนื่อยใจ ท้อใจกับการดูแลลูกๆ ทั้ง 3 คน


วิกฤตชีวิตที่เกิดกับสาวิณีน่าจะจบเพียงเท่านี้ แต่มันไม่จบ...

ผู้หญิง..ไม่มีใครอยากจะจบชีวิตครอบครัว แต่เธอถูกทำให้มันจบ

เมื่อได้คุยกันไปเรื่อยๆ เธอเปิดใจว่า ลูกคือชีวิต ครั้งหนึ่งที่เธอต้องแยกกันอยู่กับลูกๆ ทั้ง 3 คนมันทำให้เธอเจ็บปวดเสียเหลือเกิน

"เอ๋ได้อยู่กับลูก ได้ใกล้ชิดกับลูกไม่นานนัก เพราะพอแต่งานสักระยะหนึ่งก็ต้องหย่ากัน เอ๋แทบจะไม่มีโอกาสได้เจอลูกเลย ทางฝ่ายสามีไม่อนุญาตให้พบกัน แต่ความเป็นแม่ รักลูก เอ๋พยายามเช่าบ้านที่ให้อยู่ใกล้ลูกมากที่สุด จะแพงเท่าไรไม่ว่า เจอกันเท่าที่พ่อของน้องแฮมจะอนุญาต ซึ่งก็ได้แค่ 2 วัน คือ วันศุกร์กับวันเสาร์ เอ๋รอ 2 วันนี้ เพราะจะได้พาลูกไปส่งที่โรงเรียน ไปทานข้าวด้วยกัน ไปส่งที่เรียนพิเศษ แต่ถ้าเป็นวันอื่นก็จะโทร.ถามตลอดเวลาว่าลูกอยู่ที่ไหน ทำการบ้านหรือยัง เป็นอย่างไรบ้าง และเอ๋จะบอกลูกเสมอว่าแม่คิดถึงลูก" เธอน้ำตาคลอ

แม้เธออยากจะอยู่กับลูกตลอดเวลา แต่เส้นทางชีวิตไม่ได้ลิขิตแบบนั้น

"เราจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของเวลามากกว่าปริมาณ จะพยายามไม่ให้มีงานในวันที่เราได้อยู่กับลูก ดังนั้น แม้จะเป็นเพียง 2 วันที่ได้อยู่กับลูก แต่เอ๋พยายามใกล้ชิดลูกให้ได้มากที่สุด ทำให้เขารู้ว่าแม่ไม่เคยลูกทิ้งไปไหน และรักลูกเสมอ"

แล้วเธอก็พิสูจน์คำพูดของเธอแล้วว่า ...แม่ไม่เคยทิ้งลูกไปไหน...

แม้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านมาทดสอบหัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่คงไม่มีครั้งไหนหนักหน่วงเท่าครั้งนี้

"ชีวิตตอนนี้คงจะหนักที่สุด หนักกว่าทุกครั้งเคยเจอ ตั้งแต่เกิดเรื่องมีหลายครั้งที่เอ๋ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่เราก็ต้องสู้ สิ่งที่เป็นกำลังใจสำหรับเอ๋ตอนนี้ คือ คำพูดของคุณแม่ของเอ๋ ที่ขณะนี้ท่านดูแลคุณยายอยู่ที่สหรัฐอเมริกา พอแม่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นแม่โทร.มาพูดให้กำลังใจตลอด แม่บอกว่าต้องใจเย็นที่สุด มีสมาธิ มีสติ หมดวันนี้ต้องมีวันหน้า และจำไว้อย่างเดียวว่าแม่รักลูก ...(เธอหยุดพูดสักพัก) ซึ่งเป็นประโยคเดียวที่เอ๋พูดกับน้องแฮมทุกวันว่า แม่รักลูกนะ"

"ทุกวันนี้เอ๋คิดอย่างเดียวว่าเอ๋จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เอ๋เหนื่อยไม่ได้ เอ๋ท้อไม่ได้ ตอนนี้เอ๋ต้องทำทุกอย่างแทนน้องแฮมเพราะเขายังไม่ไหว ถ้าไหวเขาก็พร้อมที่จะออกมาขอขมาทุกๆ คน พร้อมๆ กับเอ๋"

หัวอกแม่..แม้จะย่ำแย่แต่เธอก็ต้องลุกขึ้นมาเพื่ออยู่เคียงข้างลูก แม้แม่จะพร้อมยอมรับผิดทุกอย่างแทนลูก แต่ในเรื่องของคดีความหมูแฮมต้องยอมรับความจริงและรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองเป็นผู้กระทำต่อไป


ที่มาจาก



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์