หย่า-ไม่หย่า?ธัญญ่างงชีวิต เป๊กไม่ให้ข้อสรุป

กลับมาเมืองไทยคราวที่แล้ว ยังไม่ได้คำตอบจาก "เป๊ก"สัณชัย เองตระกูล สามีอย่างชัดเจน ว่าบทสรุปของครอบครัวจะออกมาเป็นอย่างไร

โดยดาราสาว "ธัญญ่า"ธัญญาเรศ รามณรงค์ วาดหวังว่าจะได้คำตอบหลังจากที่บินกลับไปอเมริกาพร้อมกับสามีที่บินไปเยี่ยม "น้องลียา" ลูกสาวที่นั่น

รอจนฝ่ายชายบินกลับมาไทยแล้ว เลยต่อสายตรงไปยังอเมริกาหาหญิงสาว คุยเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าบทสรุปนั้นเป็นเช่นใด



หลังจากที่พี่เป๊กไปอเมริกา ได้คุยเรื่องที่จะขอหย่าหรือเปล่า?

ธัญญ่า - "ก็พยายามจะคุยค่ะ เพราะอยากรู้ว่าบทสรุปมันเป็นอย่างไร แต่ปรากฏว่าพี่เป๊กไม่ยอมคุย จึงยังไม่มีการพูดหรือการตกลงใดๆ ทั้งสิ้น ชวนเขาคุยเรื่องนี้ 3-4 ครั้ง เพราะอยากให้มันชัดเจน คือตอนนี้เราก็อยู่แบบงงๆ มานานแล้ว แต่เขาก็แบบไม่อยากคุย ก็เลยไม่มีบทสรุปค่ะ"

แล้วตอนที่มาอเมริกาครั้งนี้กับพี่เป๊ก พี่เป๊กเป็นอย่างไรบ้าง?

ธัญญ่า - "ก็ปกติค่ะ เขาก็มาเยี่ยมลียาปกติ พอมาถึงก็ไปเที่ยวกัน พาไปเที่ยวเวกัส ซานฟรานฯ แอลเอ มีทั้งไปแบบพ่อแม่ลูก และบาง ทริปก็มีรุ่นน้องไปจอยกัน ไปทานข้าวกัน ไปค้างค่ะ บินไปแล้วก็ไปเช่ารถขับเที่ยวกัน เขาอยู่ที่นี่ 10 วัน บรรยากาศที่มาอยู่ก็เหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เลยบอกไม่ถูกว่าอย่างไร"

เหมือนเป็นครอบครัวไหม หรือทำเพราะหน้าที่?

ธัญญ่า - "มันก็เป็นบางอารมณ์ เหมือนเป็น ครอบครัวก็มี หรือเป็นเพราะหน้าที่ก็มี ซึ่งตัว ธัญญ่าเองยังมีความรู้สึกอะไรนิดๆ ที่ยังงงๆ แต่พี่เป๊ก ญ่าไม่รู้จริงๆ เพราะเขายังเหมือนเดิม ทำทุกอย่างเหมือนเดิม เขาก็เล่นกับลูก ครั้งนี้ลูกเรียกเขาว่า แด๊ดดี้ๆ เขาคงแทบละลายมั้ง เพราะเห็นเข้าไปหอม ไปกอด เด็กผู้หญิงขี้อ้อนด้วย แล้วเวลาจะไปไหนก็ร้องตามอะไรอย่างนี้ อย่างตอนเวลา ไปเที่ยว ธัญญ่าก็จะขอไปทำสปา ไปทำสวยบ้างให้เขาดูลูก เขาก็โอเค ลูกก็อยู่กับเขาได้ค่ะ"

ธัญญ่า- เป็ก สัญชัย - น้อง ลียา


แล้วลียาดูติดพ่อมากขึ้นไหม?

ธัญญ่า - "ลียาก็เล่นค่ะ แต่ไม่ได้ติดขนาดนั้น"

ตอนที่เขาอยู่ที่อเมริกานี่ เวลาคุยกันอารมณ์เป็นแบบไหน แบบโกรธๆ หรือคุยกันแบบสามีภรรยา?

ธัญญ่า -
"มีความห่างค่ะ แต่เราทั้งคู่ก็พยายามไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมา เฉยๆ นิ่งๆ อย่างเขามาก็นอนด้วยกันพ่อแม่ลูก แต่นอนแยกกันเพราะลียานอนกลางอยู่แล้วค่ะ(หัวเราะ)"

แล้วตอนที่เป๊กอยู่เมืองไทยมีโทร.คุยกันบ่อยไหม?

ธัญญ่า -
"ส่วนใหญ่จะบีบีมากกว่า โทร.ไม่ค่อยได้โทร. ซึ่ง เรื่องที่ถามกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องลูก เรื่องอื่นไม่ค่อยจะมีค่ะ"

ข่าวว่าเป๊กจะบวช ทราบหรือเปล่า?

ธัญญ่า -
"ทราบค่ะ แต่เห็นแพลนมานานแล้วว่าจะบวช ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ลูกจะคลอด แล้วเขาก็เหมือนว่าตั้งใจจะบวชทุกปี แต่ปีที่แล้วยังไม่ได้บวช ซึ่งก่อนที่ลียาคลอดนั่นเขาบวชไปแล้ว โดยที่ผ่านมาเขาบวชมาแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดบวชนาน 1 เดือน เขาตั้งใจบวชอย่างนี้อยู่แล้วนานแล้ว คือตอนแรกที่บวชนั่นเพราะได้ลูก แล้วเขาเคยพูดว่า ถ้าเขาได้ลูกคนนี้มาเขาจะบวช ซึ่งตอนนั้นลียาก็ใกล้คลอดแล้ว เขาก็บวชประมาณเดือนมี.ค. ลียา คลอดมิ.ย. เขาก็ตั้งใจว่าจะบวชทุกปี แต่ปีที่แล้วเหมือนจะบวชก็ยังไม่ได้บวชซักที"




จะกลับเมืองไทยอีกเมื่อไหร่?

ธัญญ่า -
"กลับเมื่อไรยังไม่ทราบเลยค่ะ แต่นี่ทางพี่เป๊กเขากำลังชวนให้พาลูกไปเยี่ยมปู่ย่าอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้สรุปว่าไปเมื่อไร ถ้าไปก็จะอยู่ประมาณสักสองอาทิตย์"

ถ้าไม่มีอะไรจะกลับมาทำงานที่เมืองไทยต่อหรือเปล่า?

ธัญญ่า - "
ก็คงอีกสักพัก แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ อยู่ที่ความรู้สึกตัวเองมากกว่า"

กำลังใจของครอบครัวถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ พ่อ แม่ พี่ และน้องว่าอย่างไรบ้าง?

ธัญญ่า -
"แม่ก็แล้วแต่เลย แม่ค่อนข้างสมัยใหม่ แล้วแต่เราตัดสินใจเลย ส่วนพ่อญ่านี่เขาจะเฉยๆ เขาแบบเป็นคนที่ไม่ค่อยอะไร ส่วนพี่น้องเขาก็คิดถึง อยากให้กลับเหมือนกัน แต่ก็แล้วแต่ เอาให้สบายใจก่อนค่ะ เพราะเขาก็รู้ว่าเรามันก็แย่เวลาเจอปัญหาหนักๆ"

แล้วทางครอบครัวพี่เป๊กล่ะว่าอย่างไร ได้ปรึกษาเรื่องนี้หรือเปล่า?

ธัญญ่า - "
ก็เจอคุณแม่ค่ะ ตอนที่ญ่ากลับมาที่เมืองไทย คุณแม่บอกอยากให้กลับมา คิดถึงหลาน ธัญญ่าก็กราบแล้วบอกว่าจะเอาหลานมาเยี่ยม แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร อาจจะเร็วๆ นี้ค่ะ"

ได้คุยกับท่านหรือเปล่าว่าอยากจะหย่า?

ธัญญ่า -
"ไม่ได้คุยเลยค่ะ ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่พี่เป๊กเลย และคิดว่าก่อนหน้านี้ก็คงไม่รู้ว่าเราคิดอย่างนี้ ถ้ารู้คงห้ามอยู่แล้วค่ะ"




ตอนนี้วางอนาคตให้ลียาไว้อย่างไร?

ธัญญ่า -
"สำหรับลียาตอนนี้คงให้อยู่อเมริกาไปก่อน แต่อนาคตต้องกลับเมืองไทยอยู่แล้ว แต่ยังตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่ใจตอนนี้ญ่าคิดถึงเมืองไทยเพราะอยู่นี่มันก็เหงา คิดถึงเพื่อน คิดถึงงาน คิดถึงครอบครัว"

"ส่วนการวางแผนเรื่องเรียนของลียาตอนนี้ยังเลย เพราะล่าสุดที่พี่เป๊กมาก็ได้ดูที่เรียนของลูกไว้บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้สรุปว่าที่ไหน เป็นพรีสคูล ก่อนจะเข้าเรียน ยังไม่ได้ดูยาวเท่าไหร่ ที่ดูที่เรียนเพราะเขาก็อายุ 19 เดือนแล้ว คือถ้าอยู่เมืองไทยประมาณขวบครึ่งก็กะจะให้เขาเข้าเรียนเหมือนกัน จะได้พัฒนาการเรียนรู้ อยู่กับเพื่อน ทำกิจกรรม แต่ยังวางอนาคตให้ลียายาวๆ ไม่ได้ เพราะยังหาข้อสรุปไม่ได้"

ที่หาข้อสรุปไม่ได้ นี่คือหาข้อสรุปกับพ่อลียาไม่ได้หรืออย่างไร?



ธัญญ่า - "ใช่ค่ะ ต้องสรุปกับพ่อลียาให้ได้ก่อน ถึงจะรู้ว่าอนาคตลูกจะอย่างไร"

ในใจเหมือนว่าอยากหย่าแล้ว แต่สมมติกรณีที่ได้หย่าจริงๆ เรื่องลูกจะเอาอย่างไร?

ธัญญ่า -
"ก็แบ่งกัน ช่วยกันดูแล 50-50 เท่าที่คุยกัน ซึ่งก็คุยกันเรื่อยๆ ช่วงมีปัญหา พีกๆ ก็คุย เขาก็โอเคที่แบ่งกัน ส่วนเรื่องที่กลัวมั้ยที่เขาจะเอาลียาไปเลย อันนี้ญ่าว่าก็ลำบาก เพราะญ่าเลี้ยงเขามาเองตั้งแต่เกิด ลียาเขาก็ติดเราขนาดนี้"

แล้วอนาคตตัวเองล่ะ?

ธัญญ่า -
"คงต้องรอให้เคลียร์อะไรให้ลงตัวชัดเจนกว่านี้ มันจะได้รู้ว่าชีวิตเราจะเอาอย่างไร เราจะได้กลับไปทำงาน อยากกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองไทยเหมือนเดิม แต่มันแค่กลัวปัญหา กลัวเจอปัญหาเดิมๆ หนักๆ กลัวว่าจะ รับมือไม่ไหวแล้ว แต่ ณ เวลานี้ก็ถือว่าเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมมาก"




ตอนนี้อยู่ที่อเมริกาจะหาอะไรทำก่อนไหม?

ธัญญ่า
- "คงไม่ค่ะ ก็คงอยู่นิ่งๆ เราทำอะไรไม่ได้ เพราะมีลูกเล็ก ต้องอยู่กับเขาค่ะ อยู่ที่นี่ก็ดีค่ะ เราให้เวลากับเขาเต็มที่ อยู่เมืองไทยก็ต้องทำงาน เวลาดูลูกก็จะไม่ค่อยมีค่ะ"

อย่างกรณีถ้าพี่เป๊กไม่ยอมหย่าแล้วเขาจะอยู่อย่างนี้ต่อไป เราจะทำอย่างไรกับชีวิต?

ธัญญ่า
- "นั่นน่ะสิ ไม่รู้เหมือนกัน คือตัวเราเราก็พร้อม เพราะปัญหาที่ผ่านมามันเยอะเหลือเกิน ไม่จบไม่สิ้นเสียทีจนตัวเราพอแล้ว ขอจรลี พอมันเหนื่อยๆ ก็ไม่อยากจะอะไรแล้ว ซึ่งญ่าเองไม่รู้เหมือนกันว่าจะอย่างไร คงต้องรอให้ถึงเวลานั้นก่อน ซึ่งถ้าเขาไม่ยอมหย่า เรื่องลูกเราก็คงต้องเลี้ยงดูด้วยกัน ปรึกษากัน ญ่าคงไม่ตัดสินใจเรื่องลูกคนเดียว"

"คือถึงเขาไม่ยอมหย่า แล้วถ้าญ่ากลับมาเมืองไทย ญ่าก็คงไม่ได้อยู่กับเขา กลับมาก็ต้องแยกกันอยู่อยู่แล้ว คือเราแยกกันอยู่มาตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้วแล้ว โดยแยกกันอยู่คนละบ้าน ตอนนั้นญ่าอยู่บ้านพ่อของพี่เป๊ก ซึ่งอยู่กันคนละบ้านกับพี่เป๊ก แต่อยู่ใกล้กัน จริงๆ บ้านก็อยู่ติดกับบ้านพี่เป๊กนั่นแหละ รั้วติดกัน"

แล้วถ้ากลับไปครั้งนี้ล่ะ จะกลับไปอยู่อย่างนี้หรือเปล่า?

ธัญญ่า -
"คือจริงๆ เราก็อยากแยกออกมาจากตรงนั้น แต่เดี๋ยวก็ต้องคุยกันอีกทีว่าจะเอาอย่างไร เราเองอยากอยู่ให้มันห่างไปหน่อย ซึ่งบ้านเก่าของญ่าตอนนี้ก็ให้พี่สะใภ้กับหลานชายอยู่ พอดีโรงเรียนหลานชายอยู่ตรงนั้นพอดีเขาเลยไปอยู่"

อย่างนี้ก็ต้องออกมาซื้อบ้านใหม่เลยหรือเปล่า?

ธัญญ่า -
"อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องตกลงกัน ต้องคุยกันอีกทีหนึ่ง"



สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วใช่ไหม?

ธัญญ่า -
"ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ เหมือนว่าเราปล่อยวาง ไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรแล้วค่ะ ไม่ค่อยคิดอะไรอย่างนี้ เกิดเรื่องแรกๆ ก็เหมือนรับไม่ได้ ไม่ใช่ว่าตอนนี้รับได้นะ เพียงแต่ว่าเราตัดมันทิ้ง ตัดมันออกจากวงจรชีวิตเรามากกว่าค่ะ"

ทุกวันนี้อึดอัดไหมที่คาราคาซังแบบนี้?

ธัญญ่า -
"ก็อึดอัดเหมือนกันนะคะ คือสถานะตอนนี้ก็เหมือนแบบไม่ได‰หย่ากัน แต่แยกกันอยู่ มันก็งงๆ ค่ะ"

จะทำอะไรก็ลำบากไหม เพราะยังไม่ได้หย่า?

ธัญญ่า -
"คือตอนนี้หลักๆ เลยก็ไม่ใช่ตรงนั้นนะคะ แต่เราอยากได้อะไรที่มันชัดเจนกับชีวิตมากกว่า เพราะถือว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมั้ย ก็ไม่ใช่ จะเป็นครอบครัวแตกแยกเลยมั้ย มันก็ไม่ใช่ เราก็อยากให้มันชัดเจนไปเลยค่ะ"

ดูแนวโน้มแล้วเป็นอย่างไร ไปในทางครอบครัวไม่อบอุ่นหรือเปล่า?

ธัญญ่า -
"คือต่างคนต่างไปใช่มั้ย ญ่าก็ไม่รู้ว่าลึกๆ แล้ว พี่เป๊กเขาต้องการยังไง คือแบบไม่รู้สิ อาจจะอยากให้มีสองบ้านมั้ง (หัวเราะ)"



ธัญญ่า - ลียา -ครอบครัว


ได้เติมกำลังใจจาก"ครอบครัว"

หลังจากที่เดินทางกลับมาเมืองไทยเมื่อกลางเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อมาร่วมงานถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางบียอนเซ่ ที่ดาราสาว "ธัญญ่า"ธัญญาเรศ เองตระกูล เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ ซึ่งปีนี้ทางบียอนเซ่ได้ต่อสัญญากับเธอเป็นปีที่ 4 แล้ว

การกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ดาราสาวไม่ได้ไปอยู่บ้านของ "เป๊ก" สามี แต่เธอเลือกที่จะไปพักที่บ้านของพี่เอ ผู้จัดการส่วนตัวเก่า ที่ย่านรามอินทรา เพื่อความสบายใจ

และการมาครั้งนี้ก็แทบจะไม่ได้อยู่บ้านพักเลย เพราะต้องตระเวนนำของขวัญไปสวัสดีปีใหม่กับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ รวมถึง สปอนเซอร์ที่ได้อุปถัมภ์ค้ำจุนกันมา จนเพื่อนๆ บ่นน้อยใจ

โดยช่วงเช้าน้องหนูวิ่งรอกไปททบ.5 จากนั้นช่วงบ่ายก็วิ่งไปธนาคารออมสิน และตบท้ายกลับมาที่ช่อง 5 อีกครั้งเพื่อพบกับพลโทฉัตรชัย สาริกัลยะ ผอ.ช่อง 5

พอค่ำๆ ได้จังหวะ ดาราสาวก็ต้องรีบหาเวลาว่างเพื่อเทเวลาสังสรรค์กับครอบครัว ที่มี คุณพ่อสุรพันธุ์ รามณรงค์ คุณป้าสุภาวดี พานิชยการ พร้อมด้วย "แดนเนี่ยล" พี่ชาย "ไมร่า" น้องสาว และบรรดาญาติๆ เพื่อนๆ มารับประทานอาหารด้วยกันที่ร้านอาหารสวนกุหลาบ ซอยราชครู

บรรยากาศเป็นไปแบบสบายๆ เล่นกับน้องนะโมหลานชายหุ่นกลม และพูดคุยกับพ่อ กับเพื่อน พร้อมกับญาติๆ

การคุยกันออกรสเป็นไปแบบเมามันสนุกสนาน ไม่ซีเรียส ซึ่งระหว่างนั้น คุณป้าสุภาวดีก็ได้เข้ามากอด พร้อมกับบอกว่าเป็นห่วงหลานเสมอ งานนี้เล่นเอาคนโดนกอดน้ำตาซึมไปเหมือนกัน

ในระหว่างนั้นก็จะมีบรรดาญาติพี่น้องที่เป็นผู้ชายผู้หญิงและเพื่อนเดินทางมาสมทบ และรับประทานอาหารกันไป จนกระทั่ง 4 ทุ่ม จึงเดินทางกลับ

เรียกว่ามาเติมกำลังใจเพื่อพร้อมเผชิญปัญหา



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์