หยาด เดี้ยงหนัก!! กล่องเสียงอักเสบ

งานนี้หยาดทิพย์ถึงกับเครียดและบ่นอุบ มีเงินแต่ทานอะไรไม่ได้

มีปัญหาเรื่องเสียง ยังไม่หาย หนักใจมาก อาจต้องเป็นไปตลอดเลยค่ะ เพราะตอนที่เราเป็นหนักๆ คุณหมอบอกว่าต้องพัก ห้ามพูด 7 วันแล้วเราไม่สามารถเคลียร์ได้ เพราะ The Album  เขาก็เร่งให้เราออก เข้าห้องอัดมันทรมานมาก หยาดต้องร้องจนกระทั่งเสียงหายไปเลย คือเราใช้งานหนัก อย่างละคร “เล่ห์กุหลาบ” ก็ต้องร้าย รายการสีสันบันเทิง ก็ต้องพูด ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนด้วย ก็เลยไปกันใหญ่

ต่อข้อถามผู้สื่อข่าวต่อไปว่า ทำงานหนักมากเกินไปหรือเปล่า เพราะหากเส้นเสียงแหบไปตลอดชีวิตจะทำอย่างไร 

"ไม่คุ้มหรอกค่ะ เพราะหยาดว่าเสียงเก่าก็ดีกว่านี้นะ จะโทษใครก็ไม่ได้ ทุกคนก็อยากให้งานเขาเสร็จ หยาดก็รับงานเขาไปแล้ว จริงๆ เราก็ป่วยเอง จะไปแคนเซิลเขาก็ไม่ถูก ต้องรับผิดชอบไปจนเสร็จ"

และจากผลพวงของการทำงานครั้งนี้ ส่งผลกระทบอย่างมากถึงขนาดกินไม่ได้เลยทีเดียว

"ทุกวันนี้ถ้าหยาดพูดมากๆ มันจะแสบคอไปหมดเลย ถ้าเป็นหวัดขึ้นมาเมื่อไหร่ คอเจ็บมาก ไปหาหมอ เขาบอกไม่อันตราย อย่างมากเสียงเป็นแบบนี้ตลอด ก็เลยเลือกที่จะกินยาเอา"

หยาดกล่าวต่ออีกว่าชีวิตลำบากมีเงินก็จริงแต่กินอะไรไม่ได้เลย 

"กินอะไรไม่ได้ ชีวิตลำบากมากพี่ อย่างน้ำเย็น กาแฟเย็น ก็งดหมดเลย เพราะถ้าเรากินของเย็น ๆเข้าไปเสียงก็จะหายหมดเลย และรวมทั้ง กินผลไม้เปรี้ยวทุกชนิดไม่ได้ กินอาหารแข็งๆ ไม่ได้ กินก้านผักไม่ได้ ด้วย”

พร้อมกันนี้คุณแม่หยาดเผยว่า 

หลังจากนั้นหยาดสะดุดล้มที่บ้านหัวฟาดกับขอบเก้าอี้ไม้สัก จนได้รับบาดเจ็บเพิ่มที่กระดูกอ่อนที่หูอีก จนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ

วันนั้นเขาล้มและพลาดยังไงไม่รู้ ล้มฟาดลงไปที่เก้าอี้ไม้สักที่บ้าน

และบ่นว่าเจ็บหู เลยไปหาหมอตรงดูอีก หมอตรวจแล้วพบว่า   ข้อต่อกรามอักเสบ กระดูกหูอันเล็ก ๆหักด้วยหลังจากนั้นก็ไปเข้าฉากละคร”เล่ห์กุหลาบ” ซึ่งมีคิวบู้ต้องตบกันเขาก็โดนตบโดนกระแทกมาซ้ำอีกจนระบม วันนั้นเลยแย่มากเลย

ขณะที่หยาดเผยว่าหมอห้ามเคี้ยวข้างนี้ ห้ามโดนใดๆ ทั้งสิ้น

โอ้โห ห้ามกินอะไรเหนียวๆ เคี้ยวยากๆ ต้องกินอ่อนๆ   มีอะไรให้หยาดกินอีกเนี่ย แต่ถ้าเป็นอาหารก็เลือกไม่ได้ เพราะเวลาอยู่กองถ่ายก็ต้องกินข้าวเหมือนทุกคน พี่ๆ เขากินยังไงเราก็ต้องกินแบบนั้น เลือกไม่ได้ เมื่อก่อนใช้วิธีกินมาม่าไง แต่ตอนนี้ห้ามเคี้ยวแรงๆ แต่ก็กินปกติค่ะ หยาดกล่าว

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามคุณแม่เพิ่มเติมเป็นห่วงลูกสาวและดูแลอย่างไรบ้าง?

“แม่ดูแลคิวงานให้เขารับงานเฉพาะที่จำเป็น อย่างงานโชว์ตัวอะไรนี่แคนเซิลไปตั้งหลายอย่าง เพราะเขาต้องเรียนด้วยทำงาน 5 วัน และ เสาร์อาทิตย์ ก็ต้องทำ มันก็เลยรู้สึกว่าเขาไม่ได้พักเลย ก็อยากให้เขาพัก แต่ก็บอกว่าไหว และชอบที่จะทำงานแม่ก็เลยตามใจเค้า ก็ได้แต่คอยดูแลเขาคอยพาหาหมอ และรับงานที่ไม่ซ้อนหรือชนกันมาก อีกอย่างช่วงนี้บ้านเราก็ใช้ตังค์เยอะด้วย ตอนนี้ก็ซื้อรถมา 2 คัน และ ต่อเติมบ้านด้วย ก็เลยต้องทำงานเยอะหน่อย และน้องหยาดเขาก็บอกว่าเขาไหว แม่ก็ตามใจเค้าค่ะ “คุณแม่กล่าว