หนังคนละม้วนลำดับคำจริงล้วนๆจากปากแอนนี่-ฟิล์ม



ยังคงทำเอาหลายคนที่ติดตามข่าวของ "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และ แอนนี่ บรู๊ค งุนงงไม่รู้จักจบสิ้น ว่าแท้จริงแล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
 
จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีทีท่าว่า ความจริงจะกระจ่าง แถมยังมีตัวละครใหม่ๆ
โผล่ขึ้นมาแจมในเรื่องนี้อีกมายมาย รวมถึงคำพูดที่จนแล้วจนรอด ทั้งคู่ก็ยังให้สัมภาษณ์ไม่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย งั้นเรามาลองไล่เรียงกันดูดีๆ ดีกว่า ว่าทั้งคู่ใครต่างฝ่ายต่างพูดถึงในมุมของตัวเอง(ที่ไม่ตรงกัน) อย่างไรบ้าง



 เริ่มต้นจากที่มีข่าวลือขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า งานเข้า "ฟิล์ม" รัฐภูมิ ทำนักแสดงสาว ในละคร ปีศาจแสนกล ท้อง จน "มดดำ" คชาภา นำเนื้อข่าวไปออกในรายการ แฉแต่เช้า  และไม่ทันไร "ฟิล์ม" รัฐภูมิ ก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า

        “ผมกับผู้หญิงรู้จักกันจริงไหม รู้จักกันจริง เราเคยคบกันอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นแฟนกัน เป็นช่วงที่ถ่ายละครเรื่อง ปีศาจแสนกล เมื่อประมาณปีกว่าๆ"

 หันมาดูทางฝั่งแอนนี่ พูดถึงช่วงที่คบหากับหนุ่มฟิล์มกันบ้าง กับข้อครหาที่ว่าเธอต้องมีอะไรกับฟิล์มตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกที่ละคร ปีศาจแสนกล เปิดกล้อง รวมถึงเรื่อง ที่ทำไมไม่มีการป้องกันเวลามีสัมพันธ์กัน แอนนี่ กล่าวเรื่องนี้ผ่านรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้

         “ถ้าเลิกงานก็เจอกัน ก็ไม่ได้ถี่มาก ประมาณหนึ่งจนมีความรู้สึก ว่าเขาจริงใจ จริงจัง รู้สึกว่าเขารักเรา และที่ไม่ป้องกัน คือเราก็ไม่ใช่อายุน้อยๆ แล้ว ที่จริงเราก็ไม่อยากท้องไม่มีพ่อ หรือเป็นซิงเกิ้ลมัม ผู้หญิงทุกคนก็อยากแต่งงาน แต่ด้วยความที่เราเชื่อใจกันและกัน เขาไม่มีคนอื่น เราไม่มีคนอื่นแน่นอน มันก็ไม่มีอะไรต้องป้องกัน"






สิ่งที่เป็นคนละเรื่องเดียวกันจากทั้งสองคนนี้ เรื่องการคบหากัน คนหนึ่งบอกว่าคบกันแต่ไม่ใช่แฟน ขณะที่อีกฝ่ายบอกว่าคบหากันจนรู้สึก ว่าฝ่ายชายมีความจริงใจจนเธอคิดถึงขั้นอยากแต่งงาน เมื่อเชื่อใจว่าต่างฝ่ายไม่มีคนอื่น เลยไม่คิดจะป้องกัน จนเรื่องมาถึงวันนี้ วันที่ทั้งคู่พูดไม่ตรงกันเรื่องขอตรวจดีเอ็นเอ

        "พอท้องได้ 4 เดือน แอนนี่เป็นคนเสนอเขาเอง ว่าไปตรวจดีเอ็นเอกันไหม เรารู้มาว่าเจาะน้ำคร่ำ ก็ตรวจได้แล้ว คือตอนนั้นเราปิดให้ทุกอย่างเงียบ ไม่มีข่าวออกไป ไม่มีใครรับรู้ ถ้าเราไปตรวจก็เพื่อให้เขาและครอบครัวเขาสบายใจว่า เป็นลูกและหลานของเขา แต่เขาไม่ตรวจ เขาบอกว่าไม่เป็นไร เขาเชื่อ เขาไม่อยากให้อะไรออกจากตัวเขาเลย หลังจากนั้นก็หายไป ก็ไม่รู้หายไปตั้งหลัก สับสน หรืออะไรก็ไม่รู้" แอนนี่กล่าว


นี่เองที่เป็นประเด็นที่หลายคนสงสัย ก่อนหน้าที่นักร้องหนุ่มจะออกมาแถลงข่าว พจน์ อานนท์ ก็ได้ให้ข่าวก่อน ว่าฟิล์มได้เล่าให้เขาฟังถึงเรื่องการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ว่าเพราะแอนนี่บอกนักร้องหนุ่ม ว่าใส่ห่วงป้องกัน คุมกำเนิดเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจดีเอ็นเอนั้น ฟิล์ม ออกมายืนยันด้วยตัวเอง

 "ผมบอกว่าใช่เหรอ ใช่ลูกของผมหรือเปล่า ผมอยากให้ตรวจ แต่พอผมพูดไปเขาก็ร้องไห้ เขาเสียใจ ผมก็ปลอบเขา ว่าใจเย็น บอกที่พูดไม่ได้ต้องการทำร้ายความรู้สึก แต่ใจผมอยากรู้จริงๆ แต่ผมไม่รู้จะพูดยังไง ผมพูดเขาก็ร้องออกมา พอผมบอกเขาอีกว่าผมพร้อมที่จะตรวจๆ เขาก็บอกมา ว่าไม่เชื่อใจเหรอ ผมก็ไม่อยากทำร้ายน้ำใจเขาอีกต่อไปแล้ว ผมก็เลยได้แต่ให้ความช่วยเหลือเขามาตลอด"

 และแม้จะเป็นในเรื่องของตัวเงิน ทั้งคู่ก็ให้สัมภาษณ์ไม่ตรงกัน ขณะที่ ฟิล์ม กล่าวว่า เขาให้เงินเป็นจำนวน 2 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายในตอนแรก พอเด็กคลอดแล้ว ก็ยังให้ความช่วยเหลือโดยส่งเสียเป็นรายเดือนให้ตลอด ซึ่งเมื่อฟังทางด้านแอนนี่ เธอกล่าวว่า ฝ่ายชายโทรมาในวันใกล้คลอด บอกจะให้ความช่วยเหลือ

 "แต่เขาไม่ได้ให้เงินถึง 2 แสน ค่าคลอดก็ประมาณแสนกว่าบาท หลังจากเรากลับบ้านไปแล้วและเขาก็มาดูน้อง ก็ให้เงินช่วยเหลืออีกตอน 2 เดือนหลัง แต่ตลอดทั้ง 9 เดือนที่เราอุ้มท้อง เขาไม่เคยส่งเสียอะไรเลย”

 อีกหนึ่งประเด็นที่ทั้ง 2 ฝ่าย พูดไม่ตรงกัน คือเรื่องที่ แอนนี่ กล่าวว่า เธอต้องใช้ชีวิตการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวตามลำพัง แถมขับรถไปคลอดเองที่โรงพยาบาลคนเดียว ในขณะที่ฝั่งฟิล์ม กล่าวว่า ที่ผ่านมาส่งผู้จัดการและแม่ของฟิล์มไปดูแลตลอด แม้กระทั่งโทรศัพท์ที่แอนนี่ใช้ ฟิล์มก็ดูแลค่าใช้จ่ายให้ และในวันที่แอนนี่ไปคลอดนั้น ก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวที่ชื่อ "โน้ต" พาไป

 รวมถึงเรื่องที่ฟิล์มบอกว่า วันที่ ฑีฆายุ คลอดออกมาวันแรก ก็ยกขบวนกันไปดู แต่ทางด้านฝ่ายหญิงบอกว่า เธออยู่โรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ยังไม่มีใครมาหา แต่ฟิล์มมาดูหน้าลูก หลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลมาได้สักพักหนึ่งแล้ว

        




ดูเหมือนนอกจากคำพูดที่สวนกันไปสวนกันมา เรื่องพฤติกรรมของทั้งคู่ก็ยังสวนกันไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน เมื่อฝ่ายหนึ่งออกมาพูด อีกฝ่ายเลือกจะเงียบ ฝ่ายหนึ่งพอเงียบแล้ว อีกฝ่ายก็ยังออกมาพูดอีก เรื่องนี้ยังไม่รู้จะจบอย่างไร แต่สุดท้ายเมื่อความจริงปรากฏ แน่นอนว่า คนหนึ่งอาจจะยังอยู่ได้ดีในวงการบันเทิง แต่อีกคนอาจจะต้องถูกสังคมตราหน้าไว้ ขึ้นอยู่กับว่าใครกันแน่ที่พูดความจริง !!!


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์