สืบค้นที่มาเฮียร์ ไอ แอม ลีเดียไม่ได้เป็นเมียน้อยจริงหรือ

ช่วงนี้ถัดจากข่าวผบ.ทบ.คนใหม่แล้ว อนุมานได้ว่าข่าวลุกขึ้นมาเขียนหนังสือของนักร้องสาวค่ายอาร์เอส "ลีเดีย" ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา ที่มีเรื่องราวพัวพันเชื่อมโยงกับอดีตท่านนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน เธอเป็นใครมาจากไหนทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งแค่ไหนทำไมเธอในฐานะ "บุคคลสาธารณะ" ถึงกล้าเขียนทำนองชื่นชมบุคคลที่กำลังต้องคดีมากมายถูกหลอกใช้หวังเป็นเกมการเมืองหรือไม่รวมทั้งผลที่ตามออกมากมายภายหลังจากหนังสือวางแผนและ ฯลฯ พบกับคำตอบเหล่านี้ได้ที่นี่

ชีวิตวัยเด็ก

เกิดมาในบ้านที่ฐานะดีเลยใช่ไหม พูดตรงๆก๋ง (ปู่) เดียรวย เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทางหลวงแผ่นดิน มีฉายาว่า นายห้างลิ้ม เป็นเจ้าของบริษัทลิ้มเจริญ เกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างโอเค แต่ก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงแบบให้แต่เงินนะ แม่ (ศันสนีย์ วนะไชยเกียรติ) จะสอนเดียตั้งแต่เด็ก คืออยากได้อะไรต้องหาเอง ไม่ใช่แบบอยากได้ต้องได้

ด.ญ.ศรัณย์รัชต์เป็นเด็กอย่างไร

ซนขี้แย ด้วยความที่เป็นพี่คนโต แม่ก็จะเลี้ยงแบบอยากให้เข้มแข็ง ไม่แสดงออกเรื่องความรักกันเท่าไร ไม่กอดกัน ไม่หอมแก้ม ก็เลยเป็นคนแข็งนอก อ่อนใน ไปโรงเรียนครูก็จะมองว่าเป็นเด็กดื้อ ชอบล้อเลียนครู แม่ก็จะถูกเชิญผู้ปกครองตลอด ตั้งแต่เกรด 3 (ป.3) เลย แต่ว่าพอเรียนก็จะเรียนนะ เกเรแต่เรียนดี



ชีวิตในรั้วโรงเรียนเป็นอย่างไร


ตอนอนุบาลจะได้เงินไปวันละ1 บาท พอตอนประถมก็ไม่ได้เงินไปสักบาท แม่จะทำข้าวกล่องไปให้กิน อายก็อาย แต่ไม่รู้จะทำยังไง แม่จะคุมเรื่องเงินมาก เพราะเห็นว่าเดียยังเด็ก จนเรียนเกรด 6 (ป.6) ก็เริ่มให้เงิน 300 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งก็จะพอแค่เป็นค่าอาหาร จะไม่มีเงินเก็บเลย เวลาจะเอาอะไร ยกตัวอย่าง เช่น รองเท้า เสื้อผ้า แม่จะพูดทำนอง ว่าเดียเป็นนักเรียนอยู่เลย หาเงินก็ยังไม่ได้

สิ่งที่แม่กับป๊าสอนเดียเสมอ


แม่จะสอนเสมอเรื่องแรกก็คือเรื่องการใช้เงิน ไม่ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย ใช้ต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ และอีกอย่างที่จะจำฝังใจคือ ไม่มีใครรักเราในโลกนี้เท่ากับพ่อและแม่ ส่วนป๊า (ไชยยันต์) จะเป็นคนใจเย็น แต่เมื่อไรที่ป๊าลุกขึ้นมาพูด นั่นแสดงว่าเรื่องใหญ่มาก



ตอนเด็กๆน้อยใจไหม บ้านรวยแต่ต้องประหยัดมากๆ

แม่กับป๊าจะบอกเสมอว่าต้องทำงานหนักเราเป็นเด็กหาเงินไม่ได้ ก็ต้องรู้จักใช้เงิน ซึ่งก็ทำให้ฝังใจตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ทำให้เดียอยากหางานทำ อยากหาเงิน คิดตลอดว่าจะทำอะไรดี แต่เมืองไทยไม่เหมือนเมืองนอก มันทำไม่ได้ เป็นอะไรที่ฝังใจอีกว่าอายุเป็นแค่ตัวเลข ทำไมต้องมาจำกัดเรา เหมือนตอนที่เดียอยากซื้อมือถือ แต่ซื้อไม่ได้ เพราะยังไม่มีบัตรประชาชน ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาจำกัดเราด้วย ก็เราเก็บเงินพอที่จะซื้อได้แล้ว ทำไมไม่ให้เราซื้อ ไม่เข้าใจ

เห็นว่ามีหัวเป็นนักธุรกิจตั้งแต่เด็ก


มันฝังใจว่าเราต้องหาเงินให้ได้เองมาตลอดเพราะแม่ไม่ให้ เราเองก็อยากได้นั่น ได้นี่ ต้องใช้เงินเหมือนกัน พออายุ 12 ปี ก็พยายามที่จะเอาหนูแฮมสเตอร์ไปขายที่ตลาดนัด ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จ คือเอาไปขายผิดกลุ่ม เขาสนใจแต่ไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ได้เรียนรู้ในตอนนั้น ว่าการที่เราจะขายของก็ต้องดูด้วย ว่าเราจะขายกลุ่มไหน จนมาประสบความสำเร็จตอนไปรับงานที่โรงเรียน เป็นครูสอนพิเศษ และอีกอย่างก็คือการไปซื้อตุ้มหูจากสำเพ็งมาขาย กำไร 1,000 บาทต่อสัปดาห์ อันนี้ก็ดี ได้ค่าขนมเพิ่มเวลาไปโรงเรียน



เวลาอยากทำอะไรป๊ากับแม่สนับสนุนไหม
 

ไม่ค่อยสนับสนุนเขาจะเห็นเดียเป็นเด็ก อายุเท่านี้ควรเรียนหนังสือมากกว่า แต่เดียกลับมองว่าเยาวชนไทยถ้าได้รับโอกาสจะไปได้ไกลกว่านี้ เราไปติดกับตัวเลขที่ติดตัวเขามามากเกินไป จริงๆ สมองเขาอาจจะไปไกลกว่านั้น
 

เรื่องหุ้นเดียก็สนใจมาตั้งแต่เกรด7 (ม.1) ยังบอกป๊าว่าหุ้นน้ำมันน่าซื้อ 

เพราะยังไงน้ำมันก็ต้องขึ้นทุกวัน ตอนที่ไข้หวัดนกระบาด บอกให้ป๊าซื้อหุ้นไก่ เพราะเชื่อว่าวันหนึ่งพอแก้ปัญหาได้ราคาไก่ก็จะกลับมาขึ้น ตอนนั้นเดียซื้อเองก็ไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจในเรื่องพอร์ตของหุ้น จนมาเจอพ่อทักษิณ เขาก็สอนว่ามันต้องเป็นยังไง ตอนนี้ก็เลยเล่นหุ้นทุกวัน ครั้งแรกที่ซื้อ ซื้อปุ๊บวันรุ่งขึ้นก็ได้กำไรเลย



ชีวิตวัยเรียน-ทำงาน เรื่องเรียนไปถึงไหนแล้ว

ตอนนี้หยุดเรียนมา3 ปีแล้ว เพราะมีงานทุกวัน แต่ก็คิดนะ ว่ามีคนหลายคนได้ไปเรียนเมืองนอก แต่คงมีไม่กี่คนที่จะได้มาเป็นนักร้อง มันเป็นโอกาสที่ต้องหยิบไว้ ก็เลยคิดว่าทำงานตรงนี้ก่อน การเรียนรอได้อยู่แล้ว

คิดว่า3 ปีในวงการได้อะไรบ้าง

ได้ประสบการณ์การทำงานการบริหารเงินตัวเอง จากเดิมที่มีเงินสัปดาห์ละ 800 บาท จนมาได้วันหนึ่งหลายหมื่น บางครั้งเป็นแสน บางครั้งเป็นล้าน พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เราจะบริหารเงินยังไง จะต้องเสียภาษียังไง จะแบ่งลงทุนยังไง ได้เรียนรู้หลายอย่าง ได้สัมผัสชีวิตนักร้อง การที่มีคนรู้จักเราแล้วเป็นยังไง



แล้วสิ่งที่เสียไปล่ะ
 

สิ่งที่เสียไปก็คือความเป็นส่วนตัว อย่างข่าวที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาก็ยังมีคนอคติกับเดียอยู่ บางสื่อเขาเขียนด่า ดูหมิ่นครอบครัวเดียแบบสุดๆ เลย ข่าวที่ผ่านมาทำให้เดียเสียเยอะมาก เดินออกไปข้างนอก เดียไม่รู้เลยว่าคนเขาคิดกับเดียยังไง ตอนนี้เดียไม่ปลอดภัยเลย เวลาที่ต้องออกจากบ้านเดียไม่รู้ว่าจะมีใครเอาน้ำกรดมาสาดเดียเมื่อไร เราไม่รู้จริงๆ
 

ชีวิตกับงานเขียน

คิดอย่างไรมาเขียนหนังสือชื่นชมบุคคลที่คดียังอยู่ในชั้นศาลทั้งที่ตัวเองเป็นนักร้อง เป็นคนสาธารณะ ที่ต้องเป็น "ต้นแบบ" หลังหนังสือ Where are Youของ "หมวดเจี๊ยบ" (ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต) ออกมา ที่บางส่วนเขียนถึงเดีย มันทำให้เดียไม่มีทางเลือก แม้หนังสือจะพูดชัดว่าเดียคือสะใภ้ในฝัน แต่ข่าวที่ออกมา ทำให้หลายคนเข้าใจเดียผิดๆ มองเดียผิดๆ เดียไม่มีทางเลือก เดียไม่อยากยุ่งอยู่แล้วเรื่องการเมือง เพราะมันเป็นอะไรที่ร้อน และละเอียดอ่อนมากๆ ต้องออกมาเคลียร์ เพราะชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ก็รู้สึกนะว่าทำไมเราต้องไม่มีทางเลือก มันทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเลย อย่างแค่ไปจอดรถข้างนอกก็ไม่รู้เลย ว่าจะมีใครมาทำอะไรกับรถเดียหรือเปล่า การเมืองมันละเอียดอ่อนมาก แล้วทำไมเดียร์ต้องมาอยู่ตรงกลาง



ไม่กลัวเสียภาพลักษณ์การเป็นศิลปินหรือ


ที่ออกมาทำเพราะอยากรักษาภาพลักษณ์เนี่ยแหละ จะได้หรือเสียยังไง เดียร์คิดว่าการที่ได้ออกมาเคลียร์ รักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูลก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว สิ่งที่เสียไปเยอะก็จริง แต่เดียว่ามันคุ้ม
 

อยู่นิ่งๆให้ข่าวเงียบไปเองไม่ดีกว่าหรือ


เดียอยากอยู่เฉยๆแต่มันไม่ได้ ถ้าไม่ออกมาเคลียร์ คนก็จะคิดว่าเดียเป็นเมียน้อย เป็นกิ๊กกับใคร มันทำให้ชื่อเสียงวงตระกูลเดียเสียหาย อยู่เฉยๆ เงียบจริง แต่มันก็เหมือนเรายอมรับแล้วปล่อยให้เรื่องเงียบเอง มันไม่ได้ เราไม่ได้เป็น ต้องออกมาเคลียร์ ในเมื่อมันแรงอยู่แล้วก็เอาให้มันสุดๆ ละกัน มันไม่มีทางเลือกให้เดียร์จริงๆ



ทำไมต้องเป็นหนังสือไม่ใช้วิธีแถลงข่าวล่ะ
 

ถ้าแค่แถลงข่าว3 ชั่วโมง มันก็ไม่ลึกเท่ากับการเขียนหนังสือที่มีรูปมาโชว์ด้วย หนังสือจะเล่าได้ทั้งหมด มีสิทธิที่จะพูดได้ทั้งหมด ถ้าแค่แถลงข่าว ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเขียนสิ่งที่เราพูดทั้งหมดหรือเปล่า
 

ไม่กลัวถูกมองเป็นเครื่องมือเกมการเมืองหรือ
 

ไม่นะเพราะหนังสือเล่มนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมืองเลย เป็นเรื่องราวชีวิตเดียทั้งหมด อยากให้เข้าใจว่าเดียเป็นใคร มาจากไหน เป็นคนแบบไหน ส่วนเรื่องที่เขียนเกี่ยวกับพ่อ (ทักษิณ) ก็ไม่ได้พูดเรื่องการเมืองเลย เดียแค่เคลียร์ว่ารู้จักกันยังไง เน้นเลยว่าเดียไม่ได้เป็นเมียน้อยเขา อย่าได้คลางแคลงใจกันอีก มันไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเมืองจริงๆ ส่วนคนที่คิดก็ช่วยไม่ได้ คนร้อยคนคิดไม่เหมือนกัน ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว เราเองก็ต้องทำใจ



ชื่อหนังสือคิดเองหรือเปล่าค่อนข้างแรงนะ

ชื่อ เฮียร์ ไอ แอม เหมือนเดียอยากบอก ว่าเดียอยู่นี่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ไม่ตอบอะไรมาก หนังสือเล่มนี้จะบอกไว้หมด ซึ่งชื่อนี้เดียก็ช่วยกันตั้งกับพี่ๆ ทีมงาน ส่วนคำว่า 1 ปีหลังการปฏิวัติกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร มันแรงก็จริง คือรูปภาพของเดียกับพ่อ (ทักษิณ) ที่ออกมาในหนังสือ Where are You มันบอกชัด ว่าเป็นรูปหลังปฏิวัติ หนังสือของเดียเล่มนี้ก็เลยออกมารับเลยว่า เดียอยู่ในช่วงนั้นจริง 1 ปีที่ผ่านมา เดียถึงเพิ่งมาสนิทกับครอบครัวนี้
 

เพิ่งรู้จักกับครอบครัวชินวัตรไม่นานทำไมดูสนิทสนมกันจัง

ไม่รู้เหมือนกันคุยกันมากขึ้นก็รู้จักกันมากขึ้น เหมือนพ่อ (ทักษิณ) ชอบตีกอล์ฟก็จะคุยด้วยกันได้ ชวนกันไปออกรอบ พอได้มาคุยกับป๊าของเดียก็ถูกคอ เขาไปบอกกับป๊า ว่าเหตุผลที่อยากมาสนิทกับครอบครัวเรา เพราะปลื้มเดีย อยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ ก็ไม่รู้ทำไม



ไม่กลัวว่าจะถูกอดีตนายกฯหลอกใช้หรือ

หลอกใช้เรื่องอะไรไม่รู้เพราะเดียก็ไม่ใช่นักการเมือง แล้วถ้าหนังสือ Where are You ไม่ได้ออกมา หนังสือของเดียร์ก็คงไม่มี เดียร์ก็คงไม่ออกมาพูดอยู่แล้ว

รู้สึกอย่างไรที่ข่าวนี้ทำให้ดังกว่าตอนออกอัลบั้มอีก
 

อาจเป็นเพราะมีอดีตนายกฯเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องการเมืองบ้านเราละเอียดอ่อน พอชื่อเราไปเกี่ยวข้องกับอดีตนักการเมืองก็เลยยิ่งไปกันใหญ่ แต่ก็ดีที่เป็นที่สนใจ
 

ชีวิตความรัก

พ่อ(ทักษิณ) ลุ้นให้เป็นลูกสะใภ้เหลือเกิน ยังมีโอกาสไหม ถ้าถามว่ารักพี่โอ๊ค(พานทองแท้) ไหม เดียรักพี่โอ๊คมาก แต่รักเหมือนพี่ชาย อะไรก็ได้ที่พี่โอ๊คขอมา เดียทำให้ได้หมด แต่มันเท่านั้นจริงๆ เหมือนเราสนิทกันมาก จนไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้ เดียก็รู้สึกแย่เหมือนกันนะ เพราะพ่อ (ทักษิณ) ลุ้นมาก แต่มันไม่ได้จริงๆ
 

แล้วงานนี้แมทธิว ดีน ว่าอย่างไร
 

แมทธิวก็ดีเหมือนเดิมเขาก็กดดันไปด้วย ทำไมคนให้ความสนใจเขาเยอะ เขากดดัน ไม่เข้าใจ
 

ประทับใจอะไรในตัวแมทธิว
 

เขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายแต่ก็ไม่หวานซึ้งแบบคู่รัก เราคบกันมา 2 ปีแล้ว ก็แฮปปี้ดี
 

มีข่าวว่าแม่กับป๊าไม่ค่อยปลื้มแมทธิว เท่าไร
 

แม่เดียเขาจะเป็นคนดุใครก็ได้ถ้ารู้ว่ามาจีบลูกสาว ก็จะเข้มนิดหนึ่ง ส่วนป๊าจะเป็นคนง่ายๆ ไม่มีอะไร แต่เดียก็ว่าดีแล้วล่ะที่แม่เป็นแบบนี้ ถ้าง่ายๆ ผู้ชายก็ได้ใจ แม่ดุเขาก็ต้องมีความพยายามมากขึ้น แล้วท้ายที่สุดมันก็ดีกับตัวเราด้วย 

เธอคนนี้ชื่อ ศรัณย์รัชต์วิสุทธิธาดา
ชื่อเล่น  เดีย
ชื่อในวงการ ลีเดีย
วันเกิด 7 กรกฎาคม 2530
การศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนนานาชาติไอเอสบี
ผลงานสร้างชื่อ อัลบั้มลีเดียพ.ศ. 2548



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์