สายัณห์อโหสิยอดรักรับเสียใจสงสารไม่โกรธ

นับจากเกิดเรื่องราวบาดหมางกันระหว่าง สายัณห์ สัญญา กับ ยอดรัก สลักใจ ที่ออกมาโต้เถียงผ่านสื่อจนทำให้มองหน้ากันไม่ติด โดยสายัณห์เก็บตัวเงียบ งดให้สัมภาษณ์เพราะกลัวเรื่องจะบานปลาย ส่วนยอดรักก็นอนรักษาตัวด้วยอาการทรุด ในขณะที่แฟนเพลงและคนในวงการลูกทุ่งต่างหวังว่านักร้องทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันในเร็ววันนี้


"พี่เป้า" สายัณห์ สัญญา เปิดอกระบายความน้อยเนื้อต่ำใจ พร้อมความรู้สึกลึกๆ ที่มีต่อ ยอดรัก กับ ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

รู้สึกอย่างไรกับยอดรักตอนนี้


 นักข่าวถามว่าไม่อโหสิกรรมให้กันเหรอ พี่เป้าบอกได้เลยว่าทุกวันนี้ไม่เคยถือโทษโกรธ ไม่เกลียด ไม่เคยจองเวรจองกรรม ทุกวันนี้เขาก็ผจญกับกรรมของเขา มันก็น่าสงสารพออยู่แล้ว ไม่ต้องไปอาฆาตเขา ความรู้สึกลึกๆ แล้วเสียใจ ไม่โกรธแต่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจทำไมคนที่เราเคยรักเป็นพี่น้องกันถึงมาด่าประณามเราเสียหายมากมาย



จุดเริ่มต้นเห็นเขาประกาศว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แอ๊วพูดเรื่องบ้านจะโดนยึด แอ๊วก็บอกว่าไม่ได้หลอก ใครที่ไหนจะมาซื้อ จะมีก็เศรษฐีใจบุญที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ สาเหตุจากตรงนั้น ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ชอบเศรษฐีใจบุญก็ไปลงในเว็บไซต์ กับหนังสือพิมพ์ว่า "ยอดรัก นักร้องลูกทุ่งลวงโลก" เพื่อนๆ ระดับผู้กำกับมาถามว่าเป้ารู้เรื่องไหม เราก็บอกว่าไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาบอกว่าเป็นมะเร็ง


จนมีสื่อถามว่ายอดรักรู้ได้ยังไงว่าเป็นมะเร็ง
แอ๊วบอกว่าเขาอ่านหนังสือ หมอยังไม่บอก วันหนึ่งพี่เป้านั่งกินข้าวกับสุพรรณ สันติชัย สันติ ดวงสว่าง คุยกันถึงข่าวว่าเป็นจริงตามหนังสือหรือเปล่า เลยชวนกันไปเยี่ยม เพราะถ้าเป็นจริงเราจะเสียพี่น้อง ไปดูใจกันก่อนตาย



ไปนั่งบีบนั่งนวดกันให้กำลังใจ เราเห็นเขาสดชื่นดี ก็ถาม แอ๊วบอกว่าพี่ใหญ่ผมเป็นจริง จะอยู่กับพวกพี่ได้ไม่เกิน 3-6 เดือน เราก็บอกว่าอย่าพูดแบบนั้น มันไม่เป็นสิริมงคลกับตัวเอง เลยถามว่าไปรู้จากใคร ยังไม่เห็นหมอคนไหนออกมาแถลงเลย เขาบอกว่าผมอ่านจากหนังสือ

พี่เป้าเลยบอกว่าจะมาทึกทักเอาเองได้ยังไง อาจเป็นแค่ต่อมน้ำเหลืองโตก็ได้ อย่างที่หนังสือพิมพ์เขาลง ถ้าเป็นขั้น 1-2 เขารักษาได้ ฉันยังจะจัดงานคอนเสิร์ตอีก เราต้องไปด้วยกัน เราก็บอกว่าอาจจะไม่ถึงขั้นเป็นมะเร็ง ยังหยอกเขาเลยว่าโปรโมทเพลงหรือเปล่า เขาจะกินยาสมุนไพร ไม่ใช่จะมาขายของนะ สังคมพี่น้องตกใจกันหมด เขาบอกว่า โธ่ผมเป็นจริงๆ


คุยกับเพื่อนๆ น้องๆ ในวงการว่า ถ้าเขาเป็นระยะสุดท้ายมันจะสดชื่นอย่างนี้เหรอ จนเขาจัดงานวันเกิด เขาก็ยังสดชื่น 3 ทุ่มหลังเป่าเค้ก เขาก็ขึ้นบ้าน ปูเสื่อเล่นไฮโล เล่นจนเที่ยงคืน เออหรือว่ามันไม่เป็นจริงๆ หรือเขามีความจำเป็นเรื่องบ้าน ถ้างั้นก็ไม่ว่า พอ 2-3 วัน เบิ้ม ละโว้โทรมาหาเราว่า ผมไปเยี่ยมพี่แอ๊วมา เขาให้มาปรึกษาพี่ใหญ่ว่าวันที่ 30 จะจัดงานคอนเสิร์ต ให้มาเป็นแม่งานได้ไหม เราก็ถามว่าได้ดูข่าวไหมที่เขาลงว่า ยอดรัก ศิลปินลวงโลก เขาบอกว่าไม่ได้ดู พี่เป้าก็

บอกว่าพี่กังวลนะ เอายังงี้บอกแอ๊วว่าพี่เป้าติดงานไปไม่ได้ ที่จริงเราไม่มีงาน แต่โกหก

 เบิ้มบอกว่าถ้าพี่ใหญ่ไม่ไปจะเป็นงานได้ยังไง ป้ายขึ้นแล้ว พิมพ์โปสเตอร์แล้ว เขาก็ถามว่าทำไมไม่ไป พี่เป้าเลยบอกว่าไม่อยากเป็นจำเลยสังคม ถ้าความจริงมันถูกเปิดเผยและไม่ได้เป็นจริง ฉันคิดแล้วว่าไม่ไป



ไม่นานหนังสือพิมพ์สยามดาราลงว่า สายัณห์นำทีมคอนเสิร์ตช่วยยอดรัก แฟนเพลงก็โทรมาถาม เราก็ปฏิเสธ พี่เป้าเลยโทรไปหาไมตรี นิยมแสง เพื่อนกันที่อยู่ที่หนังสือนั่น ว่าลงไปได้ยังไงไมตรี เขาบอกว่าไม่รู้ ดาร์กี้เอามาให้ เราก็โวยวายว่าทำไมไม่ถาม เดี๋ยววันนั้นแฟนเพลงจะเข้าใจผิด ก็บอกให้ลงแก้ข่าว เขาก็รับปากว่าจะลง แต่รุ่งขึ้นกลับมีข่าวลง มีนักข่าวจากโต๊ะข่าวโทรมาสัมภาษณ์ ก็นัดกันที่สำนักงานเบิ้ม ปรากฏว่ามีนักข่าวไปเต็มเลย 

พี่เป้าบอกว่า 50:50 อาจเป็นแค่ขั้น 1 ขั้น 2 เขาอาจมีความจำเป็นบางอย่าง ลึกๆ เราไม่อยากให้มันเป็น พยายามปลอบ นักข่าวถามอีก ว่าสรุปพี่เป้าไม่เชื่อใช่ไหม เราบอกว่า 50 ข่าวก็ออกไปเยอะเลย วันต่อมาแอ๊วก็ออกมาด่าเรา ตอนหัวค่ำมีหมอศิริราชแถลงข่าวว่าเขาเป็น พี่เป้านั่งดูทีวีอยู่ร้องไห้เลย ว่าเราต้องเสียน้องไปจริงๆ มันคงอยู่กับเราไม่นาน รู้สึกสงสาร ปรากฏว่าไม่รู้จะทำยังไง



ได้แต่เสียใจ มันเป็นความจริง จนช่วง 4 ทุ่มมีรายการทีวีโทรมาสัมภาษณ์ แอ๊วก็โทรมา ปรากฏว่าด่าเราจนเละเลย เราก็งงว่าเรื่องอะไรกัน หัวค่ำเรายังสงสารน้องชายคนนี้อยู่เลย เกือบครึ่งชั่วโมงลุกลามไปถึงแม่ภรรยาลูก สิ่งที่เขาด่าเรามันเป็นเรื่องเท็จทั้งนั้นเลย ตรงกันข้ามมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาเองที่ในชีวิตเขาไม่เคยมาช่วยเหลืออะไรพี่เป้าเลย เราไปร่วมงานเขา พี่ชายเขาตายเราก็ไปถึงพิจิตร แม่เขาเราก็ไป งานแต่งญาติเขา มีคนถ่ายรูปกันหลายคน


ตอนนี้พี่เป้าเห็นเขาแล้ว เขาน่าสงสาร ไม่เคยคิดแม้แต่นิดเดียวที่จะเกลียดชัง ไม่จองเวรจองกรรม ตอนนี้แอ๊วก็แย่เราจะไปซ้ำเติมเขาทำไม อย่าไปคิดว่าแอ๊วผิด หรือพี่เป้าผิด ถ้าพี่เป้าผิดขอน้อมรับความชั่วร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่ถ้าแอ๊วผิด อย่าให้เขาต้องรับเลย เพราะมันสุดท้ายชีวิตเขาแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างควรจะเป็นการอโหสิกรรม ถ้าเขาเข้าใจผิด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์