สายัณห์หันพึ่งแพทย์ทางเลือกหวังขึ้นเวทีอีก

นางวรรณพร กล่าวว่า อาการตอนนี้เริ่มดีขึ้น เมื่อคืนนี้แพทย์ทางเลือกเข้ามาตรวจ ปรากฏว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลง เหลือแค่ 60 จากที่ก่อนหน้านี้สูงกว่า 290 จนเกรงว่าสายัณห์จะซ็อก เพราะระดับน้ำตาลลดลงอย่างฮวบฮาบ แต่ล่าสุดระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้นมาถึง 130 แล้ว ซึ่งถือว่าปกติในคนที่เป็นโรคเบาหวาน ส่วนน้ำหนักตัวเหลือ 62 กิโลกรัม จากเดิม 67 กิโลกรัม

 นางวรรณพร กล่าวอีกว่า พี่เป้ายังคงมีอาการตาและตัวเหลืองอยู่ อีกทั้งกินอาหารไม่ค่อยได้ เพราะขมปาก ทำให้ร่างกายขาดโปรตีน แต่อาการตัวสั่นเริ่มลดลงจนเกือบเป็นปกติ สามารถพูดได้เสียงดังขึ้น จากที่มีอาการแหบก่อนหน้านี้ ส่วนอาการเท้าบวมลดลง และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ก่อนหน้านี้แพทย์ทางเลือกเข้ามาเจาะเลือดไปตรวจดูว่าสายัณห์มีอาการอย่างไรบ้าง ก่อนจะปรุงยาสมุนไพรมาให้

"ปัญหาอยู่ที่ตัวพี่เป้าเองไม่ค่อยจะกินยาสักเท่าไหร่ ลูกและเราต้องช่วยกันบังคับถึงจะกิน โดยรวมแล้วอาการเริ่มดีขึ้นกว่าวันก่อนๆ บ้าง ลุกเดินได้บ้าง แต่มักจะนอนพักมากกว่า เพราะยังมีอาการอ่อนเพลียอยู่" นางวรรณพรกล่าว

  ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่ออาการเริ่มดีขึ้นแล้วยังอยากจะกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกหรือไม่ นางวรรณพร กล่าวว่า ตอนนี้อยากจะรักษากับแพทย์ทางเลือกก่อน โดยวันที่ 6 สิงหาคมนี้ แพทย์ทางเลือกจะเข้ามาเจาะเลือดพี่เป้าไปตรวจดูว่า หลังจากกินยาสมุนไพรไปแล้วอาการเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนลูกๆ ดีใจมากที่พ่อมีอาการดีขึ้นกว่าเดิม

 "พี่เป้าบ่นเพียงอย่างเดียวว่า อยากจะไปขึ้นคอนเสิร์ตอย่างเดียว ส่วนจะไปได้หรือไม่ ต้องรอดูอาการก่อน ส่วนราคาค่ารักษากับแพทย์ทางเลือกนั้น แพทย์ทางเลือกรักษาให้ฟรี เพราะเขาอยากจะให้พี่เป้าหายจากมะเร็ง นอกจากจะรักษาด้วยสมุนไพรแล้ว ยังออกเดินสายทำบุญที่วัดพระธรรมกาย เพื่อให้พระคุ้มครองพี่เป้าอีกทางหนึ่งด้วย" นางวรรณพรกล่าว

 ผู้สื่อขาวถามว่า ทราบว่าตอนนี้มีคนติดต่อให้ลูกสาวเล่นละคร นางวรรณพร กล่าวว่า นายโกวิท วัฒนกุล ได้ติดต่อมา อยากให้ "น้องเบส" สวามินี ลูกสาวคนโต ไปแสดงละครเรื่อง "อยู่กับก๋ง" อีกทั้งลูกสาวก็ชอบ อยากเข้าวงการบันเทิง

 ผู้สื่อข่าวถามว่า รายได้จากการแสดงคอนเสิร์ตที่พระประแดงอาเขต จ.สมุทรปราการ ที่ผ่านมา มีจำนวนเท่าไร ภรรยา "พี่เป้า" สายัณห์ กล่าวว่า รายได้จากการขายเก้าอี้และขายซีดีรวมแล้วประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งจะเก็บไว้ใช้จ่ายในการรักษาตัวของพี่เป้าต่อไป

ต่อมาเวลา 16.30 น. นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำชมรมคนรักอุดร ในฐานะเพื่อนเก่า "พี่เป้า" สายัณห์ นำยาสมุนไพรรักษามะเร็งมามอบให้นางวรรณพร และกล่าวว่า เมื่อคืนได้โทรศัพท์คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บอกว่า เป็นห่วงอาการของสายัณห์ ยังถามว่าทำไมไม่รักษาที่โรงพยาบาลพระรามเก้า และจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด

 ด้าน อาจารย์ตะวันณา ผู้เขียนตำราหลักการตั้งชื่อและตรวจลายเซ็นกล่าวถึงกรณีที่นายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัวของสายัณห์ สัญญา ระบุว่ามีอาจารย์คนหนึ่งแนะนำให้สายัณห์เปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่ จากชื่อเดิมชื่อ นายสายัณห์ ดีเสมอ เป็นชื่อ นายพรสายัณห์ มีโชคดีเสมอ เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นว่า การเปลี่ยนชื่อตามหลักทักษาพยากรณ์อาจมีส่วนช่วยให้นิสัยใจคอ หรือวิถีชีวิตบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แต่เรื่องสุขภาพอนามัยนั้น ในทางตำราไม่ได้เอ่ยถึง

 อาจารย์ตะวันณา กล่าวด้วยว่า กรณีของสายัณห์ ชื่อนี้ไม่เป็นพิษเป็นภัยสำหรับคนที่เกิดวันพฤหัสบดี หากมีความไม่เหมาะสมก็ตรงที่ ชื่อนี้มีอักษรที่เป็นฤทธิอยู่ถึง 2 ตัวคือ ส กับ ห ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่มีอาชีพศิลปิน แต่ยังดีที่ชื่อนี้มี ณ เป็นอุปการะ มีรูปสระเป็นมังคละ สายัณห์จึงได้รับการอุปการะจากมิตรรักแฟนเพลงอย่างล้นหลามและยาวนาน

 อาจารย์ตะวันณา อธิบายว่า การเพิ่มคำว่า พร ซึ่งมีอักษร พ และ ร นำหน้าชื่อเดิม ก็เพื่อเพิ่มบารมี คือทำให้คนยอมรับนับถือซึ่งปัจจุบัน สายัณห์ ก็มีบารมีอยู่แล้ว ส่วนการเพิ่ม ร ก็เป็นการเพิ่มไวยะวัฒนะ ซึ่งเดิมมีอยู่ตัวเดียวคือ ย ที่หมายถึง การเป็นผู้มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ให้อีกตัวหนึ่ง