สัญญาสิ้นสุด-ป๋อจาก7สี ลั่นไม่ลืมคุณ-ต่อไปรับงานตามใจ

"ตอนนี้ผมหมดสัญญากับช่อง7 เมื่อวันที่7พ.ค.ที่ผ่านมาครับ" พระเอกหล่อเข้ม "ป๋อ"ณัฐวุฒิ สกิดใจ เผยเรื่องการหมดสัญญากับต้นสังกัดเดิม 7สี

"แล้วก่อนหน้าคือวันที่ 6พ.ค. ผมก็ไปหาพ่อมา ทางคุณพ่อก็อวยพรขอให้มีชีวิตที่สบายใจขึ้นกว่าที่ผ่านมา พ่อแม่ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับลูกท่านก็มีความเป็นห่วง เราก็ยังเป็นเด็กในสายตาของท่านเสมอ พ่อแม่มากอดและหอมแก้มเรา ไปอยู่กับครอบครัวครับ"


แล้วเรื่องงานในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

"ก็ดูได้หมดเลยแต่ว่ายังไม่ได้คุยกับพี่เอ(ศุภชัย ศรีวิจิตร) เพราะเขาหายตัวลึกลับ(หัวเราะ)ไม่รู้อยู่ไหน โทร.คุยกันบ้างเป็นระยะ แต่พอเราหมดสัญญาก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะรีบร้อนทุกอย่างให้มันฉับไวขนาดนั้น เราก็ปล่อยให้มันสบายๆ ไม่ได้หมายความว่าหมดสัญญาปุ๊บรุ่งขึ้นอีกวันจะมาดูแล้วว่าต้องทำอะไรต่อ เราไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น"

"อย่างที่มีข่าวออกมาว่ามีละครติดต่อเข้ามาก็ต้องคุยกันอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร"

ซึ่งข่าวออกมาเยอะว่าได้ลงเรื่องคู่เดือด, วนาลี แต่ตัวผมยังไม่ได้คุยกับทางพี่ปิ่น-ณัฏฐนันทน์ กับคุณตู่-ปิยะวดี ที่เป็นผู้จัดเลย ถ้าคุยน่าจะเป็นพี่เอได้คุยมากกว่า แต่ตรงนี้มันเป็นกติกาและมารยาททางสังคมที่ทุกคนรับรู้อยู่แล้วว่า ภายใต้การที่เรามีสัญญากับต้นสังกัดอยู่เราก็ไม่ได้คุยกับใคร ซึ่งโดยมารยาทผู้จัดละครก็ยอมรับในข้อนี้ได้อยู่แล้ว และหลังจากนี้มันคงมีอะไรมากขึ้น แต่วันนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ครับ"

หลายคนมองว่าหมดสัญญาช่อง7 จะเซ็นกับช่อง3 เลยหรือเปล่า

"แล้วแต่คนจะมองครับแต่สิ่งที่ออกจากปากผมคือสิ่งที่ชัวร์ที่สุด ออกจากปากคนอื่นมันไม่ชัวร์หรอกครับ ต้องบอกไว้ตรงนี้เลยว่าตอนนี้ยังไม่คิดจะเซ็นกับใคร ต้องปล่อยให้ระยะเวลาเป็นตัวกำหนด บางทีเราอาจจะทำงานโดยที่ไม่ต้องเซ็นสัญญากับใครก็ได้ เพราะเราอยากทำงานอิสระเราก็ไม่เซ็น"


หมดสัญญาแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง

"เราอย่ามองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต แต่มันก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ภายในวันเดียว เราต้องใช้เวลามีสติพิจารณาเรื่องต่างๆ ซึ่งโดยส่วนตัวยังรักและประทับใจในการทำงานกับช่อง7 มาตลอดและจะอยู่ในใจตลอดไปแน่นอนช่อง7ให้อาชีพกับผม ให้ผมมีอาชีพเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวจนมาถึงทุกวันนี้ ช่อง7ก็คือผู้ให้โอกาส ผมขอบคุณและระลึกไว้ในใจเสมอว่าช่อง7 และคุณแดง(สุรางค์ เปรมปรีดิ์)คือคนที่ให้โอกาสในการทำงานในวงการบันเทิง"

ตอนนี้การรับงานแสดงก็จะเลือกโดยเน้นที่ความพอใจเป็นหลัก

"ใช่ครับ เราคือคนที่รู้จักตัวเองมากที่สุด เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งเราจะเดินออกไปหาอะไรล่ะ เราไม่ต่อสัญญาเพราะจะเดินไปหางานที่มันแปลกตามากขึ้น หรือหาอะไรที่มันแปลกใหม่ทำมากขึ้นเพราะฉะนั้นต้องมีโจทย์ที่เข้ามาและเราก็ต้องหาคำตอบจากงานใหม่ๆ ว่าเป็นงานที่เราชอบหรือไม่ชอบ"

"ส่วนใหญ่จะใช้ความรู้สึกของเราเป็นหลักและโอกาสความน่าจะเป็น คิว เวลา มันขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างครับ"

"ส่วนใหญ่งานที่ติดต่อมาหลายๆ อย่างผมขอขอบคุณผู้จัดงานทุกท่านเลยที่กรุณา เรารู้สึกดีใจที่ยังมีคนชื่นชมผลงานเราและเป็นกำลังใจให้ตลอด ทั้งๆ ที่ช่วงที่ผ่านมาต้องบอกตรงๆ ว่า ความคิดมันแบ่งเป็นสองแบบ ส่วนงานละครเร็วๆ นี้คงจะทราบครับว่าจะลงเรื่องอะไร"


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์