สตรองสู้มะเร็ง!! นุ่น ผ่าออกหมดแล้วทั้งเต้า ลุ้นต่อคีโม เผยหายเมื่อไหร่ค่อยบอกแม่!!

วันที่ 26 พ.ค. ที่ร้านอาหารเทอเรซ 61 นุ่น ดารัณ ฐิตะกวิน นักแสดงสาวมากฝีมือ ร่วมพิธีบวงสรวงละคร "เล่ห์รักยาใจ" จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงอาการป่วยมะเร็งเต้านมว่า ผ่าตัดไปเรียบร้อยแล้ว ตัดหมดเลย ในความรู้สึกก็โล่งใจ เรื่องให้เคมีต่างๆ ก็เป็นไปตามขั้นตอน เรื่องกายไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร นอกจากแผลผ่าตัด ซึ่งแผลก็กำลังจะหาย ทั้งนี้ งานและกิจกรรมต่างๆ ยังทำได้อย่างปกติ

"ตอนนี้ร่างกายกลับมา 80-90 เปอร์เซ็นต์ ต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อนให้เพียงพอ ตอนนี้ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ เราไม่มีเรื่องของพันธุกรรมอะไรเลย แต่ถ้าให้เดา น่าจะเป็นเรื่องของการพักผ่อนไม่เพียงพอ เรื่องอาหารที่ทานเข้าไปแบบไม่ระวัง และการใช้ชีวิตที่กินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา ซึ่งเราต้องปรับให้ดีขึ้น"

หลังผ่าออกไปแล้ว จะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกไหม

แน่นอน เวลาที่เราเจอแล้วก็ต้องมีความกังวล แต่มันมีเชื้ออยู่ มีสิทธิที่จะกลับมาเป็นอีก แต่ถ้าเราดูแลตัวเองดี โอกาสก็จะน้อยลง เราทราบว่าตัวเองเป็นเร็วมากนะ มันเกิดจากการที่เราจับเจอ ก็คลำปกติแบบที่เขาให้ผู้หญิงคลำ แล้วไปจ๊ะเอ๋ เลยไม่สบายใจ เราเจอเมื่อเดือนก.พ. ต้นมีนาคมก็เลยไปตรวจ พอทราบว่าเป็นปุ๊บ เดือนเม.ย. ก็ผ่าตัดออกเลย จบ ทุกอย่างไวมาก คุณหมอบอกเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 ขนาด 2 ซม.

ตอนแรกที่รู้ว่าเป็นก็ตกใจ แต่เราเป็นคนแบบรู้อยู่แล้วว่าร่างกายไม่ยั่งยืน ก็ขอเป็นอะไรก็ได้ที่รักษาได้ เราสู้อยู่แล้ว เคยเห็นหลายๆ คน แม้แต่คุณแม่ของเราเอง เวลาที่ไม่สบาย คุณแม่ก็จะใจเสาะ เราให้กำลังใจคนมาเยอะ เลยคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ดีกับทุกๆ อย่างในชีวิต

ต้องไปให้คีโม หรือต้องให้ยาอะไรอีกไหม

ยัง ตอนนี้เป็นขั้นตอนตรวจร่างกายว่าพร้อมหรือเปล่า การให้คีโมไม่ใช่ว่าพอเป็นมะเร็งแล้วให้เลย ให้เท่านั้นเท่านี้ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน ระยะไม่เท่ากัน ทุกอย่างต้องถูกวางแผนให้เวลา ที่สำคัญคือตอนนี้ตรวจร่างกาย เข้าเครื่อง MRI สแกนกระดูก เครื่องตรวจหัวใจ สิ่งที่ดีเราจะได้รู้ว่าเป็นอะไรตรงไหนอีกหรือเปล่า ถ้าเกิดโชคดีไม่เป็นตรงไหนอีก ก็จะมีการให้ยาที่ไม่มากนัก เราก็สบายใจหน่อย เพราะการให้เคมีไม่ได้ใช่ว่าจะไปในทิศทางที่ดีอย่างเดียว มีส่วนที่เราต้องทำใจนิดหนึ่งว่ามันฆ่าทุกส่วน

ในความเชื่อการให้เคมีบำบัดมีผลต่อร่างกาย เราก็ถามคุณหมออย่างละเอียด เพราะพอเรามาเป็นตรงนี้ปั๊บ จะได้เจอเรื่องราวในวงการนี้เยอะมาก จากที่ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าการให้คีโมไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าฉายแสงแล้ว ให้ยาแล้วจะไม่กลับมาเป็นอีก แล้วแต่ร่างกายของคนเรา เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันทำให้เราปลงได้หมดเลย เลยรู้สึกว่าตกใจได้ แต่เอาแค่ยองๆ พอเวลาล้ม จะได้ลุกขึ้นมา อย่าให้ถึงกับทรุดลงไปเลย

ครอบครัวว่ายังไงบ้าง

คุณแม่ยังไม่รู้เลย แต่ไม่เป็นไร เพราะช่วงนี้คุณแม่ไม่ค่อยได้ดูทีวี (หัวเราะ) คุณแม่กำลังนอยด์กับตัวเอง ตามประสาคนแก่ ถามว่าจะบอกไหม จริงๆก็บอกได้แหละ เพราะทุกวันนี้ก็ยังไปเจอคุณแม่ ยังพาคุณแม่ไปหาหมอ คุณแม่ก็เป็นห่วงตามบรรทัดฐานของเขาว่าเป็นยังไง เราก็บอกไปว่าโอเค

เราก็ห่วงความรู้สึกของคุณแม่ เพราะเราเองก็เป็นแม่ เวลาที่ลูกเป็นอะไร เราก็จะรู้เป็นห่วง อยากที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่เราขอเวลาอีกนิดนึงค่อยบอกท่านแล้วกัน ขอไปให้ยาสักพักนึง คือเราอยากที่เราจะหายก่อนแล้วค่อยบอก เพราะคุณแม่เป็นโรคซึมเศร้าคนแก่ เราเลยรู้สึกว่าตอนนี้เราขอดูแลคุณแม่ก่อน เมื่อคุณแม่เข้มแข็งแล้วค่อยว่ากัน

ส่วนลูกๆก็ทราบเรื่องนี้ ลูกชายก็ตอบกลับเลยว่าแม่เป็นมะเร็งรักษาหายได้ใช่มั้ยครับ ทุกวันนี้กำลังใจดีมาก

ต้องจะลดการทำงานเพื่อดูแลตัวเองไหม

คงไม่ถึงกับลดงาน แต่คงจะปรับมากกว่า คือสมมติว่าพรุ่งนี้เรามีกล้องเช้า ก็จะไม่นอนดึกมาก เพราะไม่อยากให้ใครมานั่งเดือดร้อนกับเรา หลังผ่าตัดเสร็จแล้วเราก็ออกมาทำงานเลย เพราะว่าทุกอย่างได้นัดไว้หมดแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็เจ็บทั้งตัว เราก็พยายามที่จะทำให้ดี อย่างตอนถอดเสื้อก็โชคดีที่มีน้องคอสตูมมาช่วย เราเองก็สงสารเขามาก เพราะเขาก็พยายามที่จะช่วย เขารู้ว่าเราเจ็บ ก็รู้สึกดีนะ เพราะเราได้เห็นความน่ารักและน้ำใจของใครหลายๆ คน ทำให้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น ตอนนี้สภาพจิตใจและกำลังใจดีมาก

ที่มา - ข่าวสด