ลีเดียไม่หวังเป็นซูเปอร์สตาร์

เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปซะแล้วสำหรับละคร “ระบำดวงดาว”

เอาเป็นว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ลองได้จับกลุ่มกันเมื่อไหร่เป็นต้องพูดถึงนักแสดงในเรื่อง เพราะแต่ละคนสวมบทเด่น เล่นกันแรงแบบถึงพริกถึงขิง ชิงไหวชิงพริบกันน่าดู จนคนดูต้องลุ้นไม่ให้คลาดสายตา หนึ่งในนักแสดงที่ถูกจับตา     มองเป็นพิเศษ เพราะนี่คือผลงานการแสดงละครครั้งแรกของเธอคือ    ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” ที่ผู้ชมต่างก็ปรบมือให้สำหรับนักแสดงมือใหม่คนนี้ เพราะเธอสามารถถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของตัวละครที่ชื่อ “เหมย” ออกมาได้อย่างดีและดูเป็นธรรมชาติ
   
เพราะฟีดแบ็กจากละครทำให้ “ลีเดีย” มีงานวิ่งเข้ามาเพียบ แทบไม่ได้หยุดเลย เราจึงรีบคว้าตัวเธอมาคุยเพื่อแฟน ๆ ที่รักทุกท่าน เธอก็โอเคทันที เกรงใจเธอจริง ๆ..เรารีบคุยดีกว่า

---@@--- เป็นไงบ้างจ๊ะน้องเหมย ..เหนื่อยมั้ย

“ไม่เท่าไหร่เลยค่ะ เดี๋ยวนี้ไปไหน ๆ เขาก็เรียกเราว่าเหมย ดีใจมากนะคะเพราะว่าเป็นละครเรื่องแรก ตอนแรกที่เข้าฉากก็โดนผู้กำกับดุเยอะมาก ก็เลยต้องไปเรียนการแสดงเพราะเราไม่มีความรู้ตรงนี้เลย” ถ ส่วนใหญ่โดนดุเรื่องอะไร
   
“เล่นไม่ได้เลยค่ะ เล่นแล้วแข็ง พูดก็ไม่ชัด พูดเร็ว เราก็เลยเครียด พอเข้าไปเจอนักแสดงคนอื่น ๆ ยากมาก หนูเล่นไม่ได้จนต้องไปเรียนใหม่ ถ่ายไป 7-8 เทป รู้สึกมันจะดีเหรอ ตอนวันแรกที่ออนแอร์ก็ลุ้น ไปไหว้พระหลายที่ขอให้เราไม่โดนด่าด้วยเถอะ” (พูดไปก็หัวเราะไป)


---@@---  ตอนแรกที่เล่นไม่ได้เนี่ย เพราะเข้าฉากกับนักแสดงรุ่นพี่ระดับมืออาชีพหรือเปล่า ทำให้รู้สึกกดดัน

“ไม่นะคะ ทุกคนที่มาแสดงกับเดียเนี่ยเขาช่วยเรามาก เขาไม่ทำให้เรากดดันเลย อย่าง พี่พลอย-เฌอมาลย์, พี่ออย-ธนา, พี่เกริก ชิลเลอร์, แอร์-แอริณ ทุกคนไม่ทำให้เรารู้สึกกดดันหรือรู้สึกว่าเราจะทำได้เหรอ มีแต่เขาช่วยสนับสนุน เราแฮปปี้มาก ตอนแรกก็กลัวนะว่าเราจะเป็นตัวถ่วงหรือเปล่า เพราะเขาก็ผ่านละครกันมาแล้วหลายเรื่อง แต่เราเป็นเรื่องแรกก็คิดว่าจะไปถ่วงเขามั้ย หรือเราจะเล่นไม่ได้คนเดียวหรือเปล่า ถ่ายจริงก็ 7-8 เทปรู้สึกผิดมาก เรามาทำให้เขารอ หลายคนเป็นผู้ใหญ่ให้เขายืนตากแดด รู้สึกผิดมากเพราะตอนแรกเดียเล่นไม่ได้เลย”

---@@---  ถ้าให้วิจารณ์ตัวเองสำหรับผลงานละครเรื่องแรก..     “ลีเดีย” จะให้คะแนนเท่าไหร่

“ดูแล้วขัดใจค่ะ อย่างแรกเลยคือเรื่องการพูด เดียเป็นคนพูดไม่อ้าปาก เหมือนเราโตมาใช้ภาษาอังกฤษเยอะ บางทีเลยพูดไม่ชัดเท่าไหร่ หรือบางทีพูดชัดแต่ปากไม่ค่อยเปิด พอดูแล้วขัดใจทำไมพูดกัดฟัน บางซีนเราเล่นก็รู้สึกว่าน่าจะทิ้งเวลานานกว่านี้ เวลาที่ได้มาดูละครที่ฉายแล้วจะรู้จุด แต่เวลาดูในมอนิเตอร์ที่กองถ่าย เราดูไม่ออกเลยนะจนกว่าจะตัดต่อออกมาแล้ว เดียเลยคิดว่าอย่างอื่นเราต้องปรับปรุงอีกเยอะ จาก 10 เดียให้ตัวเองแค่ 5 คะแนน ก็คงต้องไปเรียน ถ้าเราดูนักแสดง อย่างพี่ออย พี่พลอยเนี่ยเขาสุดยอดจริง ๆ ถ้าเราเป็นได้อย่างเขาก็จะดีมาก แต่กว่าจะได้ขนาดนั้นคงต้องผ่านการเรียน ผ่านประสบการณ์ตรงนี้อีกเยอะ เดียเองก็ยังคิดว่าตัวเองยังห่างไกลกับการเป็นนักแสดงมืออาชีพอีกเยอะ คงต้องไปเรียนเพิ่มค่ะ” (เล่นโดนใจผู้ชมทั้งประเทศซะขนาดนี้ถือว่าสอบผ่านแล้วจ้า)

---@@---  แต่สุดท้าย “ลีเดีย” ก็ประสบความสำเร็จจากบท “เหมย” เด็กสาวที่ขายกล้วยแขกในตลาด 

  “ก็ต้องขอบคุณพี่โอ๋ (กฤษฎา เตชะนิโลบล) ผู้กำกับที่ช่วยเดียไว้ เยอะมาก ทางโพลีพลัสด้วย ถ้าไม่ได้ทางเขามาช่วยในเรื่องบทเดียก็คงแย่ แล้วถ้าเล่นไม่ดีพี่โอ๋ไม่ปล่อย เขาจะเอาจนกว่าได้ดี นักแสดงก็อาจจะเครียด กองถ่ายก็เครียด เวลาไม่ดีจะเอาใหม่ตลอด เราเหนื่อยหน่อยตอนถ่ายทำ แต่ผลที่ออกมาดี เดียว่าโอเคเลย”

และด้วยความที่ “ลีเดีย” เป็นนักแสดงในเรื่องที่กำลังมาแรง เวลาไปปรากฏตัวที่ไหนจึงมักถูกถามเกี่ยวกับความคิดเห็นว่า


---@@---  ในวงการฯมีนักแสดงที่เป็นแบบในละครมั้ย 

 “เดียคิดว่า ถ้าเป็นระดับเหมือนน้ำหวานเลยคงไม่มี เพราะ    ตัวน้ำหวานร้ายมากเพราะมีฆ่าคนด้วย แต่ว่าถ้าพูดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเช่นทำนมหกที่เราเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์น่ะมีบ้าง แต่ถ้านิสัยที่ร้ายขนาดนั้นในวงการคงไม่มีหรอกค่ะ แต่ในส่วนบทของเหมยอาจจะไม่ได้เป๊ะ แต่นักแสดงที่เขาลำบากสู้ชีวิตมาน่ะมีเยอะนะคะ นักแสดงหลาย ๆ คนก็ต้องเลี้ยงครอบครัว ก็ต้องลำบาก ต้องต่อสู้ เดียว่ามีแต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นเหมือนเหมย ทุกอย่าง”

---@@---  บทเหมยมีอะไรที่คล้ายเราบ้างไหม?

“พี่แมทธิวดูเขาก็บอกว่าเดียเล่นดีนะ เล่นเป็นตัวเองดี เพราะคนมองเดียจะมองว่าเป็นผู้หญิงมาก แต่จริง ๆ นิสัยเดียเหมือนผู้ชาย คือห้าว ๆ    เขาชอบล้อเราเรื่องการเดินที่เหมือนนักเลง นิสัยเราก็เป็นอย่างนั้น   เดียไม่ใช่ผู้หญิงหวาน เป็นคนห้าวมากกว่า คล้ายตัวเหมยเลย     พี่นิด-อรพรรณ ผู้ใหญ่ทาง   โพลีพลัสก็บอกว่าบทเหมือน เดียมาก”
---@@---  ตอนนี้เริ่มติดใจงานละครแล้วล่ะซิ!

“หนูชอบนะคะ หนู    ว่าสนุก เหมือนเราไม่เคย    มีประสบการณ์ทางงานแสดง เลยไม่รู้เราชอบหรือเปล่า แต่พอมาได้เล่นก็รู้สึกว่าสนุกดีนะ เราไปกองละครเจอคนหลายคน เวลาไปร้องเพลงจะเจอแค่ทีมเล็ก ๆ ของเรา อยู่กองเราจะรู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวอีกครอบครัวค่ะ”

---@@---  มีเรื่องใหม่เข้ามาหรือยัง

“คงต้องเป็นปีหน้าค่ะ เพราะว่าต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่ หนูยังมีสัญญากับทางอาร์เอสอยู่ เดี๋ยวจะหมดสัญญา   วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า”


---@@---  คิดว่าจะต่อสัญญามั้ย

“คงไม่ได้ต่อค่ะ ตอนนี้กำลังดูอยู่ว่าหนูจะเป็นอิสระหรือว่าอยู่ค่ายไหนดี เพราะอยู่กับอาร์เอสมาแล้ว 6 ปี อยากทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง”

ถ ฟังดูเหมือนจะเบนเข็มมาทางด้านการแสดง

“อย่างที่บอกค่ะ รู้สึกชอบมาก แต่ก็ต้องแล้วแต่อนาคตว่าทางผู้ใหญ่เห็นสมควรว่าจะให้เราเล่นหรือเปล่า นี่เป็นเรื่องแรก ถ้าจะเอาดีด้านนี้จริง ๆ ก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติมก่อนค่ะ”

---@@---  เป็นทั้งนักร้องและนักแสดงชื่อดัง ไม่ว่าจะขยับไปไหนก็เป็นที่สนใจของประชาชน พูดง่าย ๆ ว่าเป็นข่าวได้ตลอด มันทำให้เราต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นมั้ย

“กรณีของเดียส่วนใหญ่ที่เจอข่าวคือไม่มีมูล เดียเป็นคนตรง ๆ อยู่แล้ว อันไหนจริงก็บอกว่าจริง ข่าวไหนไม่จริงก็บอกว่าไม่จริง คุณแม่   ก็บอกให้พูดความจริง เพราะอีกกี่ปี ๆ ที่พูดไปมันก็จะยังเป็นเหมือนเดิม มันจะได้ไม่ต้องมาระวังโกหก ปิดบังอะไร”


---@@---  บ่อยครั้งที่ “ลีเดีย” เจออะไรมาเยอะ เรื่องไหนหนักที่สุดจนถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกแย่

“ข่าวเรื่องท้องนี่แหละค่ะมันหนักมาเป็นระดับเลย ค่อย ๆ หนักขึ้นเรื่อย ๆ คนเราก็สามารถรับได้แค่จุด ๆ หนึ่งนะคะ ตอนนั้นเดินไปไหนคนก็หาว่าหนูท้อง ได้ยินเลย สายตาไม่มองหน้าเรามองแต่ท้อง ก็ได้ยินเลยว่า นี่ไงลีเดีย.. ท้องยังแบนอยู่ ตอนนั้นเราก็เครียดจะทำยังไง     อีกข่าวก็คือเรื่องบ้านใหม่ที่ย้ายจากรัชดาฯ ไปอยู่เลียบทางด่วน ที่พอย้ายเข้าไปก็ต้องมีเรื่องปวดหัวตลอด ไม่รู้เราเชื่อได้ขนาดไหน ย้ายไปอยู่ 2 ปีมีแต่เรื่องให้เครียด เรื่องข่าวไม่สามารถควบคุมได้มันเข้ามาเอง เหมือนอยู่บ้านนี้เราโชคไม่ดี ซินแสมาดูบอกข้างหลังบ้านเป็นคลองที่มีต้นมะพร้าวตายอยู่ 3 ต้น เหมือนธูป 3 ดอก  เราก็ไม่รู้เชื่อหรือไม่เชื่อแต่มันมีเรื่องจริง เพื่อความสบายใจเลยขายบ้านไป พอมาอยู่บ้านหลังใหม่เนี่ยชีวิตก็ดีขึ้นมาก ๆ เห็นชัดเลย ข่าวหนัก ๆ ซาแล้วก็ผ่านไป”

---@@---  เคยมีข่าวว่า จะเรียนเป็นนักบิน..ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว 

 “ยังไม่ได้เรียนเลยค่ะ เพราะไม่มีเวลาคงพักไว้ก่อน ลงคอร์ส  ไปแล้วนะ แต่ต้องอ่านทฤษฎีต่าง ๆ ก่อนที่จะขึ้นไป 40-80 ชั่วโมงก่อน เคยมีคนพูดว่า ที่บ้านเดียมีเครื่องบินส่วนตัว ไม่มีนะคะ อันนั้นเป็นเครื่องบินของโรงเรียนสอนการบินค่ะ ที่บ้านไม่มีที่จอดขนาดนั้น (หัวเราะ)”

---@@---  ไม่ถามเรื่องความรักก็จะดูแปลก ๆ ความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม “แมทธิว ดีน” ไปถึงไหนแล้วจ๊ะหนูเดีย   
   
   “เรื่อย ๆ ค่ะ ก็ดีเราได้เจอกันทุกวันค่ะ ถ้าเสร็จงานแล้วพี่แมทธิวก็จะแวะมาหาที่บ้าน แล้วก็ออกไปกินข้าวด้วยกัน คบกันมา 5 ปีแล้ว เขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย เวลาที่เดียมีเรื่องหนัก ๆ เขาเป็นกำลังใจให้ตลอด ทำให้เรารู้สึกดีมาก ๆ”


---@@---  มาถึงคำถามสุดท้าย “ลีเดีย” มีเป้าหมายอะไรในชีวิตอีกหรือเปล่า 

“อะไรก็แล้วแต่ที่ได้ทำจะตั้งใจทำ แล้วก็ทำให้เต็มที่ แบบดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ซึ่งแต่ละงานก็ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเรา ก็ต้องขอบคุณที่ทุกท่านให้โอกาส”

---@@---  คิดมั้ยว่าสักวันหนึ่งเราอาจจะกลายเป็นซูเปอร์ สตาร์ของเมืองไทยก็ได้    

“ไม่คิดไปไกลว่าจะเป็นแบบไหน แต่เราก็พยายามให้ดีที่สุด ถึงไหนก็ได้เพราะเราก็ไม่รู้ว่าดวงเรา ตัวเรา ความสามารถของเราไปถึงไหน แต่เราเป็นคนทุ่มเท อยากให้งานไม่ว่าจะเป็นงานเพลงงานแสดงออกมา    มีคุณภาพ ส่วนงานละครอาจจะไม่ได้เพอร์เฟกต์       เพราะเราก็ไม่ได้เก่งทุกอย่าง ก็คงต้องแสวงหา”
 
ใช้เวลาคุยกับ “ลีเดีย” แค่แป๊บเดียว! แต่ก็ทำให้เรายิ่งรู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น.. ผู้หญิงคนนี้ชัดเจน ตรงไปตรงมา อีก  ทั้งไม่มีจริตมายาเฉกเช่นเดียว   กับ “สาวเหมย” ยังไงยังงั้น!.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์