ละคร ชีวิตจริง แอนนี่ ฟิล์ม

จาก ละคร สู่ชีวิต และคำพิพากษา สังคม

ก่อนอื่นที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล เท่านั้น มิได้ต้องการพาดพิง หรือให้ร้ายใคร..........

ประเด็นที่ 1 จากคนธรรมดา สู่การเป็นดารา
                 หากแรกเรื่มเดิมทีแล้วนั้น คุณแอนนี่ และ คุณฟิล์ม เป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง เพียงเท่านั้น ขอย้ำ คนธรรมดา ซึ่งมันก็เหมือนกับพวกเราทุก ๆ คน แต่ในตอนนี้บุคคล ทั้งสอง เป็นนักแสดง หรือดาราที่มีชื่อเสียง ชีวิตของพวกเขา ถูกเล่าต่อ ผ่านสื่อต่าง ๆ เพราะฉะนั้นแล้วไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ย่อมเป็นที่สนใจของสื่อต่าง ๆ เพราะมันเป็นหน้าที่ และหนทางทำเงินของสื่อนั้น ๆ หลายคนคิดว่าการที่คนคนหนึ่งมาเป็นดาราพวกเขาต้องเป็นคนดี ไม่ทำอะไรให้มันเสื่อมเสีย เพราะคิดว่าพวกเขาเป็นตัวอย่างของเยาวชน หรือจะเป็นแบบอย่างในหลายด้านให้กับคนที่มองพวกเขาผ่านสื่อต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่พวกเรา หรือผู้ใหญ่ในสังคมต่างคิด ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ จนลืมมองไปว่าพวกเขาเองก็เป็นเพียงแค่ คนคนหนึ่ง ที่มีทั้งความรู้สึก ความคิด ความยาก ความหลงเหมือนเราทั่ว ๆ ไป หลาย ครั้งหลายคราว ที่มีข่าวดารา ในด้านที่ไม่ดี มันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ ทุกคนมุ่งแต่จะมองความจริง มุ่งแต่จะหาผลประโยชน์จากจุดนี้ จนลิมไปว่า ตัวเองได้คิด หรือลุกล้ำความเป็นคน ของคนอื่นหรือเปล่า ผมอยากให้มองถึงจุดนี้กันบ้าง เขาก็เป็นคน เราก็เป็นคน แค่เขาเป็นดารา อย่าเอาเรื่องของเขามาเป็นเรื่องสนุกปาก สนุกขาย เพราะถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณ คุณก็คงลำบากไม่น้อยไปกว่าพวกเขาหรอก เพียงแต่คนที่รู้อาจจะน้อยคน แต่ที่แน่ ตัวคูณเองที่รู้

ประเด็นที่ 2 ความรับผิดชอบ ต่อตนเอง ต่อความผิดที่เกิดขึ้น
                สำหรับเรื่องคุณแอนนี่ และคุณฟิล์ม ผมขอมองอย่างนี้ว่า พวกเขาทั้งสองคนมีระดับความรับผิดชอบต่อตนเองอยู่ในระดับต่ำทั้งคู่ เพราะถ้าพวกเขามีความรับผิดชอบต่อตนเองมากกว่านี้ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น การที่คนสองคนจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ในขณะที่ตัวเองยังไม่พร้อม หรือพูดให้ชัดก็คือ ยังไม่แต่งงานกัน พวกเขาทั้งสองต้องคิดป้องกัน ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำ สนุกตอนนี้ เรื่องอื่นมาทีหลัง ทำไมพวกเขาไม่คิดถึงตรงนี้ หรือว่าไม่ได้สนใจอะไรเลยคิดถึงแต่เรื่องสนุก ๆ ผมเชื่อว่าในโลกนี้ หรือในประเทศไทยเองก็เถอะ มีความสัมพันธ์แบบนี้เกิดกับคนกับคนหลาย ๆ คนมาก แต่ทำไมพวกเขายังยืนอยู่ได้ เพราะพวกเขามีสมอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควร รู้จักรับผิดชอบต่อตนเอง สมัยนี้เด็ก 14 หรือ 15 ยังรู้จักคำว่ายาคุม หรือถุงยางเลย พวกเขาคิดอะไรอยู่หลังจากความสนุกของพวกเขา ทีขาดความยั้งคิด เมื่อมันพลาดไปแล้ว มีอีกหนึ่งชีวิตเกิดขึ้น ความสนุกได้ให้ผลมาเป็นบาป บาปในใจพวกเขาทั้งสองคน มีคนได้รับผลกระทบจากความสนุกไร้สมองของพวกเขาหลายคน อย่างน้อยก็คือ คนในครอบของพวกเขาเอง พอมีปัญหาตามมา พวกเขารับผิดชอบกับตรงนี้ยังไง ต่างฝ่าย ต่างออกมาพูด อย่างโน้นอย่างนี้ ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าใครพูดจริง หรือพูดไม่จริง แต่ผมอยากจะถามพวกเขาว่า พวกเขาจะจัดการกับเรื่องนี้ตรงยังไง จะปล่อยให้มันมีกระแสแบบนี้ไปเรื่อย ๆ หรือ จะปล่อยให้มันกลายเป็นเรื่องสนุกปาก เป็นเรื่องถกเถียงบนโต๊ะกินข้าว ของคนทั่วไป หรือเป็นเรื่องที่น่าพูดคุยแม้แต่สำหรับเด็กประถม ผมไม่ได้จะคิดแทนพวกคุณ หรือคิดแทนใคร ทำไมพวกคุณไม่เจอหน้ากันคุยกันให้มันรู้เรื่อง หรือพวกคุณจะหนีความจริงแบบนี้ไปจนตาย อย่างน้อยเมื่อพวกคุณเป็นคนของสังคม ก็ขอร้องให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมหน่อย อย่าให้เรื่องแบบนี้มันต้องเข้าหูลูกหลานผมไปนานกว่านี้อีกเลย

ประเด็นที่ 3 ผู้ใหญ่ใจดี ทั้งหลาย
                อันนี้ผมพูดได้เลย ว่าผู้ใหญ่ใจดีทั้งหลาย ไม่ได้ใจดี หรือหวังดีอย่างที่คิดหรอก มองหาแต่ผลประโยชน์ การที่ผู้ใหญ่ หรือใครคนหนึ่งจะออกมาพูด ถึงใคร หรือพาดพิงถึงใคร เขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก หรือถ้าจะพูด ก็คงจะแค่นินทา กันในกลุ่มของตน คงไม่ออกมาพูดผ่านสื่อถึงใครว่า คนโน้น คนนี้ มีแฟนมาเท่านี้คน ผมถามว่ามันสมควรแล้วหรือกับวุฒิภาวะของคุณ หรือแม้แต่สื่อเองก็ยังจะพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ผมถามหน่อยทำไปเพื่ออะไร เพื่อให้ความกระจ่างกับสังคมหรือ แล้วมันเป็นเรื่องที่ดี ที่สังคมน่าจะรับรู้หรือ ว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งครรภ์  ทีแรกมีข่าวว่าคนโน้นคนนี้เป็นพ่อเด็ก แต่สรุปว่า.....สุดท้ายแล้วสังคมจะได้อะไรหรือ แล้วพวกเขาสองคนเองจะได้อะไรหรือ ผมว่าปล่อยให้มันซาลงบ้างก็ได้ เพราะยังไง ณ. เวลาก็หาความจริงจากใครไม่ได้อยู่แล้ว จะลากคนทั้งประเทศที่เคยรู้จักพวกเขามาเป็นข่าวทั้งประเทศทั้งทำไม

ประเด็นที่ 4 ช่างแฉ สิ่งที่ทำ กับความรับผิดชอบ
                 ช่างแฉ ช่างนี้ผมอยากรู้จริง ๆ เขาเปิดสอนกันที่นี้ เพราะจบออกมาแล้วดูท่าจะรายได้ดี เพราะไม่ว่าแฉ เรื่องจริง หรือเรื่องไม่จริงก็ดูเหมือนว่าจะขายได้ แต่ช่างแฉ มีกฎอยู่ข้อหนึ่ง ที่อยู่เหนือกฎหมาย และสามัญสำนึก นั้นคือ คุณจะเป็นช่างแฉได้ คุณต้องละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นให้มากที่สุด ถ้าคุณทำแบบนี้ไม่ได้ คุณเป็นช่างแฉไม่ได้ และถ้ามันมีปัญหาเกิดขึ้น ช่างแฉ ต้องพูดว่ามันหน้าที่ของสื่อ สื่อไม่พูดไม่ได้ นี่แหละครัย คุณสมบัติของช่างแฉ ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมมันต้องแฉ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเรื่องคนอื่น ถ้าแฉ เรืองดี ๆ ก็ว่าไปอย่าง อันนี้ผมไม่ได้ว่าอาชีพ ของใครไม่ดี แต่เท่าที่ผ่านมาผมว่า มันทำกันเกินไปหรือเปล่า อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรามากกว่านี้ กันหน่อย อันนี้ เรื่องชาวบ้าน คืองานของเรา ไปเสี่ยทุกอย่าง เบา ๆ ลงหน่อยก็ได้

ประเด็นที่ 5 บทสรุป บทเรียน ฟิล์ม แอนนี่ และสังคมได้อะไร
                สำหรับฟิล์ม และแอนนี่ ผมอยากให้ทุกคนมองว่า มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ให้เวลาพวกเขาได้หาทางออก ไม่ว่ามันจะจบยังไง พวกเราควรจะนึกถึงคำว่า ให้ อภัย คนสองคน มีเรื่องบนเตียง แล้วพลาด มันเป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากให้มอง ว่า ถ้าสรุปออกมาแล้ว คนนี้ต้องดับ คนโน้นต้องดับ ให้อภัยพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาพลาด สำหรับสังคมได้อะไร คงเป็นบทเรียน ที่ทุกคนควรจะเก็บมาคิด และป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นกับตัวเอง และครอบครัว เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ดารา หรือว่าใครก็ตาม เรื่องแบบนี้มันสร้างแต่ปัญหา และความทุกข์ใจให้กับตัวเอง และครอบครัว



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์