รักแปรสภาพ โบทุกข์ส่งท้ายปี

กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปเมื่อต้นเดือน เมื่อคาสโนว่า "ฟลุค"เกริกพล มัสยวาณิช ออกมาเปิดใจเรื่องที่แยกกันอยู่กับภรรยาสาว "โบ-ชญาดา" มาแล้วถึง 2 ปี

ส่งผลให้หลายคนตะลึงงัน รวมถึงตัวภรรยาเอง วันนี้เลยนัดหมายกับ "โบ"ชญาดา มัสยวาณิช คุณแม่คนสวยของน้อง "อชิ-อชิรวัตติ" เพื่อพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตชนิดเปิดอก "โบ" ยืนยิ้มหวานให้การต้อนรับอยู่หน้าร้านอาหารสไตล์เก๋ Bo Appetite บริเวณแหล่งช็อปแหล่งชิม เดอะ ทาวน์ โรด ย่านทาวน์ อิน ทาวน์ สถานที่นัด

หลังทักทายถามสารทุกข์สุกดิบแล้ว เลยเข้าประเด็นที่ใคร่รู้

-ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง นับจากวันที่ฟลุคตัดสินใจเผยเรื่องจริงเพื่อต้องการความชัดเจนจนกลายเป็นข่าวใหญ่ ทั้งที่ตลอดเวลาโบเลือกที่จะไม่พูดเรื่องนี้?

โบ - "ยังมีความรู้สึกเสียใจอยู่ สำหรับโบคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอยู่ดี ด้วยความที่โบเป็นผู้หญิงด้วย แต่โบก็เคารพสิทธิ์ที่ฟลุคตัดสินใจพูดออกไป กับความเสียใจก็เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่คนเราเสียใจ จิตตก สักพักภูมิคุ้มกันในร่างกายเราก็จะสร้างความเข้มแข็งขึ้นมาทำให้เราได้คิดอะไรออกไปไกลๆ ข้างหน้า"


-แต่บางคนปล่อยตัวเองจมอยู่กับความทุกข์?

โบ
- "เมื่อไรที่โบทุกข์หรือเศร้าโบจะให้เวลากับมัน เรียนรู้กับมันให้เต็มที่ นอกจากตัวเรา เราต้องหันมามองคนรอบข้าง อย่างน้องอชิ คุณพ่อคุณแม่ และคนรอบข้างที่ใกล้ชิดเราทุกคนให้สติว่าเมื่อมีปัญหาย่อมต้องมีทางออก เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ได้รอยยิ้มจากคนรอบข้างเราก็มีกำลังใจขึ้นเยอะ แต่ถ้าเราไม่เห็นคุณค่าจากคนใกล้ตัว เราเองแหละที่จะทุกข์นาน โบอาจจะเป็นคนที่รักครอบครัวมาก และเชื่อมั่นในความรักของคนในครอบครัวมากๆ โบว่าเมื่อเรามีพื้นฐานจิตใจที่เข้มแข็ง เราก็จะมีวิธีคิดหาทางออกที่ดีๆ ได้เสมอ"

-ถึงวันนี้ดูยิ้มได้ หน้าตาสดใส แต่เชื่อได้ความทุกข์นั้นยังมีอยู่?

โบ - "(ยิ้ม) ความทุกข์ความเศร้ามันยังอยู่ในตัวเราตลอด เมื่อไหร่ที่เราไม่สมหวัง แต่ว่าเราต้องรู้จักเลือกเวลาที่จะแสดงมันออกมา และแบ่งเวลาให้เป็น เพราะยังมีคนรอบๆ ข้างที่ยังรักเราอยู่ แม้กระทั่งตัวฟลุคเอง เรายังต้องเลี้ยงดูลูกตลอด เพราะฉะนั้นเราไม่มีเวลาที่จะมานั่งคิดอะไรให้ทุกข์วุ่นวายมาก เพราะเราต้องเลี้ยงลูก"


-เคยร้องไห้ให้ลูกได้เห็นหรือมีคำถามจากน้องอชิบ้างไหมว่าแม่ร้องไห้ทำไม?

โบ
- "โบไม่เคยร้องไห้ให้ลูกเห็น เวลาที่โบอยู่กับลูกจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขซะส่วนใหญ่จริงๆ ความเดียงสาของลูกทำให้เราแฮปปี้ และความเป็นตัวตนของโบและฟลุคอยู่ในตัวน้องอชิ เป็นสิ่งที่เราทั้งสองคนเห็นและสัมผัสได้ เหมือนโบเห็นอชิก็นึกถึงฟลุค ฟลุคเห็นอชิก็นึกถึงโบ เพราะฉะนั้นเราไม่มีทางทำร้ายกันและกัน อชิเขาจะเหมือนโบตรงที่เป็นคนละเอียดอ่อน ออดอ้อน ช่างพูด ช่างคิด ช่างเจรจา ส่วนที่เหมือนฟลุคหน้าตานั้นแน่นอน มีความทะเล้น คุยเก่ง อารมณ์ดี ทุกคนจะบอกว่าอชิถอดแบบฟลุคมาเป๊ะ"

-ย้อนถามถึงข่าวรักร้าว แยกเตียง ส่งผลกระทบกับตัวโบและคนรอบข้าง ขอถามความรู้สึกว่าโบแคร์ใครมากที่สุด?

โบ - "โบแคร์น้องอชิที่สุด เพราะลูกยังเล็ก เขายังต้องเติบโต แคร์คุณพ่อคุณแม่และครอบครัวโบ เพราะโบเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว ให้เกียรติครอบครัว ที่ผ่านมาโบยอมรับว่าเจ็บ เจ็บในเรื่องที่โดนกระแสข่าวเยอะ คนรอบข้างโบโดนหมด โดยเฉพาะพี่แบม(จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์) โดนข่าวลบเยอะ โบยิ่งรู้สึกเสียใจมากกว่าหลายเท่า แต่ก็บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร ปล่อยให้มันผ่านๆ ไป และด้วยความที่เราเป็นพี่น้องกัน ความรักที่เรามีให้กันเป็นภูมิคุ้มกันที่จะทำให้เราก้าวข้ามผ่านสิ่งที่ไม่ดีผ่านไปได้ ไม่ว่าใครจะคิดยังไง ว่ายังไง เราพี่น้องยังรักกัน โบยังรักพี่แบมเหมือนเดิม"


-วันนั้นที่เสียใจกลับไปกอดคุณแม่มั้ย?

โบ
- "กอดค่ะ เพราะวันที่รู้ข่าววันนั้นเป็นวันพ่อพอดี ครอบครัวเราอยู่กันพร้อมหน้า คุณพ่อ คุณแม่ คุณย่า พี่แบม และน้องๆ ซึ่งทุกคนกอดและให้กำลังใจกัน ยอมรับว่ามีเสียใจ ร้องไห้ แต่ก็ได้กำลังใจจากคำพูดของคุณพ่อคุณแม่ บอกว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป อย่าไปคิดมาก อาจจะมีอะไรที่ไม่ดีกว่านี้อีกก็ได้ อย่าไปคิดว่ามันแย่ ส่วนพี่แบม ทุกครั้งที่โบร้องไห้เขาจะเป็นคนที่โอ๋น้อง ตั้งแต่ที่โบยังเด็กเวลาที่ใครแกล้งแล้วเราร้องไห้ก็จะวิ่งไปหาพี่แบม พี่แบมก็จะโอบกอดทุกครั้ง ซึ่งในวันนี้น้องสาวที่อายุ 30 กว่าเราก็ร้องไห้กอดพี่ พี่ก็โอ๋ว่าไม่เป็นไรนะ ความรู้สึกนี้มันไม่จางหายไป ถึงวันที่เราแก่เฒ่าถ้าเรายังมีกันและกัน เรามีเรื่องอะไรพี่ก็ต้องโอ๋เราแบบนี้เหมือนเดิม ก็เหมือนที่เราเป็นแม่ที่ต้องโอ๋ลูกของเราไป"

-ความรักของโบกับฟลุคในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

โบ - "เป็นความรักที่ยังมีอยู่ แต่อาจจะแปรสภาพเป็นเหมือนเพื่อนกัน เข้าใจกัน คุยกันได้ ปรึกษากันได้ ให้เกียรติกันและกัน แต่คงไม่ได้อยู่ในโลกเพ้อฝันหรือจินตนาการเหมือนตอนเด็กๆ เราพยายามทำให้ลูกเราได้รับสารแห่งความสุขที่บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตเราต้องเปิดใจยอมรับอยู่แล้ว ในวันนี้ที่ความรักแปรสภาพอาจจะด้วยเหตุผลส่วนตัวที่บางเรื่องเราคิดเห็นไม่ตรงกัน และการอยู่ด้วยกันตลอดในวัยนี้ จังหวะนี้ เวลานี้ มันอาจจะยิ่งทำให้เราเข้ากันไม่ได้"


-ถึงจะแยกบ้าน แต่โบยังคงพูดถึงความรักในมุมที่ดี กลัวคนจะมองว่าโบสร้างภาพมั้ย?

โบ
- "เราไม่จำเป็นต้องสร้างภาพเพื่อใคร ณ วันนี้โบเป็นคนสาธารณะที่บางคนอยากจะรู้ความเป็นไป เลยมีคนติดตามสอบถาม แต่ชีวิตจริงๆ ของโบแล้ว โบก็เป็นผู้หญิงปกติคนหนึ่ง มีครอบครัวที่ดูมีปัญหา ซึ่งทางออกของโบคือพูดอย่างตรงไปตรงมา เรามีความรักความเข้าใจเป็นความรักความผูกพันจากที่คบกันมา 8 ปี และเรายังอยากที่จะทำสิ่งดีๆ ให้ลูกเราอยู่ แต่เมื่อเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ในวันนี้ เรายังสามารถที่จะเป็นครอบครัวได้ เหล่านี้อยู่ที่ความเข้าใจ ความเสียสละ ความทุ่มเท ที่เรามองว่าลูกเราคือสิ่งสำคัญที่สุด และในวันนี้เราต่างคนต่างยังไม่มีใครใหม่ เรายังคงยิ้มให้กันด้วยความสนิทใจ เพราะเรามีแต่ความหวังดีให้กัน"

-ที่ผ่านมาข่าวของฟลุคกับสาวๆ ค่อนข้างเยอะ แต่ดูโบไม่ร้อนใจ?

โบ - "ถ้าเขาเจ้าชู้ สนุกสนานกับสาวๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การที่เราสองคนเข้ากันไม่ได้ในเรื่องปัญหาความไม่เข้าใจกันในบางเรื่องที่โบขอไม่พูดถึงรายละเอียด โบว่ามันจุกจิกกว่า วันนี้เราอาจจะยังรับข้อเสียกันและกันไม่ได้ เราก็ควรที่จะอยู่ห่างน่าจะดีกว่า"


-เคยถูกขนานนามว่าเป็นสาวที่ลบลายเจ้าชู้ของคาสโนว่าฟลุค?

โบ
- "ถ้าเป็นเรื่องความเจ้าชู้โบคงลบไม่ได้ แต่ถ้าทำให้ฟลุคเขาเปลี่ยนไป มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เป็นคนที่เข้าใจชีวิตตัวเองมากขึ้น ความคิดเหล่านี้เขาเปลี่ยนตั้งแต่วันที่เจอโบ เมื่อก่อนเขาอาจจะใช้ชีวิตแบบซื้อความสุข เที่ยวไปเรื่อยๆ มีแฟนก็ต้องเป็นคนดังๆ ซึ่งในวันนี้โบว่าเขาเข้าใจชีวิตแล้วล่ะ รู้ว่าชีวิตคืออะไร ความสุขที่แท้จริงคืออะไร แต่ถึงวันนี้เขาจะยังไม่ได้มาอย่างที่เขาต้องการ ในวันนี้อาจจะยังเป็นช่วงเวลาที่เขายังต้องเรียนรู้ชีวิต เมื่อเขาสนุกสนานกับชีวิตของเขาในช่วงนี้ก็ปล่อยเขา มันเป็นความสุขของเขาที่โบเข้าใจ ตัวโบเองไม่ได้อยู่ตรงจุดของเขา จุดของโบคือปกป้องและดูแลลูก ส่วนเขาที่กำลังเอ็นจอยก็ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ดีนะ เพียงแต่ว่าเขาเป็นผู้ชาย โบเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง"

-กับฟลุคมีสถานภาพอะไรกับโบ ณ เวลานี้?

โบ - "เขาก็ยังเป็นสามีอยู่"

-พูดอย่างนี้แสดงว่าเตียงที่หักยังซ่อมได้อยู่?

โบ - "อยู่ที่คนสองคน วันนี้เราอาจจะยังไม่พร้อมให้คำตอบกับใคร ในวันนี้บอกตรงๆ เขาไม่รู้ความคิดเรา เราก็ไม่รู้ความคิดเขา เรื่องนี้คงต้องให้เวลาต่างคนต่างคิดทบทวน ปล่อยให้เวลาผ่านไปแล้วมุมความคิดเราจะโตขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เราจะต้องมีคำตอบให้ และคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้วล่ะ"


-ภาวนายังไงกับวันข้างหน้า?

โบ
- "พยายามทำทุกวันให้ดีที่สุด ทำตัวเราให้ดีที่สุด และหน้าที่หลักของโบคือเป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูก ดูแลน้องอชิที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนของทุกๆ คน อยากให้เขาเติบโตมาเป็นเด็กที่มีคุณภาพ ที่สำคัญเป็นเด็กดี สำหรับโบลูกคือทั้งหมดของชีวิต พอมีลูกปุ๊บ ทำให้เรารู้หน้าที่หลักของเราคือเราเกิดมาก็เพื่อเป็นแม่นี่แหละ หน้าที่หลักคือการเลี้ยงดูลูกให้เติบโตมีชีวิตที่ดี ในขณะเดียวกันที่ลูกมีความสุข เราเองก็ได้รับสิ่งดีๆ จากลูกมากมาย"

-ดูฟลุคไว้วางใจในการเลี้ยงดูลูกของโบ?

โบ
- "เขาเป็นคุณพ่อที่ค่อนข้างให้การสนับสนุนในการเลี้ยงลูก เราที่เป็นแม่เมื่อได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างโดยเฉพาะจากคนที่เป็นพ่อ นั่นจะทำให้เราเลี้ยงลูกด้วยความมั่นใจ เราจะไม่กลัว อย่างการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องดีเขาก็สนับสนุน โบเลือกโรงเรียนใกล้บ้านให้ลูกก่อน เพราะลูกยังเล็กไม่อยากให้เขาโตในรถ ฟลุคเขาก็ว่าดีกับความคิดของโบ เราไม่มีปัญหากับตรงนี้"


-โบและอชิเป็นคู่แม่ลูกที่ติดกันเป็นปาท่องโก๋?

โบ
- "ใช่ค่ะ แม่ติดลูก แต่วันหนึ่งที่เขาโตขึ้น โบค่อนข้างเตรียมพร้อม เพราะเด็กผู้ชายส่วนใหญ่จะติดเพื่อนติดแฟนเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ในตอนนี้เขายังเล็กอยู่โบก็อยากให้เวลากับลูกเท่าที่เราจะทำได้ ขอเป็นแม่ที่ทำเพื่อลูก แล้ววันหนึ่งที่ลูกต้องไปตามทางของเขาเราก็ต้องทำใจ ทำความเข้าใจกับชีวิตเด็กผู้ชาย"

-เพราะความเป็นแม่ลูกที่ติดกันแจ ทำให้เวลาสวีตของโบกับฟลุคมีน้อยลงด้วยหรือเปล่า?

โบ
- "เคยคุยกันเรื่องนี้ แต่ด้วยความที่โบก็รักลูกมาก ฟลุคก็รักลูกมาก เราเลยยอมที่จะให้ลูก ส่วนเวลาของโบกับฟลุคมันแปรเปลี่ยนไปตามสภาพมากกว่า เรายอมรับในมุมของการเข้ากันไม่ได้มากกว่าที่ทำให้เวลาของเราน้อยลง แต่เรื่องของลูกที่มาแย่งเวลาไปนั้นคงไม่ใช่"

-ช่วงเวลานี้น่าจะเป็นปลายปีที่มีความสุข?

โบ
- "หลายคนอาจจะมองว่าโบทุกข์กับเรื่องครอบครัว แต่จริงๆ แล้วโบยังมีความสุขอยู่ แต่ทุกข์กับข่าวมากกว่า ส่วนตัวแล้วเมื่อไหร่ที่โบรู้สึกว่าเราเหนื่อย เราเศร้าเราจะหมดแรงกำลังที่จะทำงานไปในทันที อยากอยู่เฉยๆ อยากอยู่กับคนที่เรารัก อยากอยู่กับลูก ปลายปีนี้เป็นปลายปีที่ทำให้โบรู้สึกว่าอยากจะปล่อยให้ทุกอย่างมันช้าลง รู้สึกอยากทำชีวิตตัวเองให้นิ่งๆ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติและให้เวลากับตัวเอง ให้เวลากับการเลี้ยงลูกมากขึ้น เพราะลูกเริ่มโตขึ้นทุกวัน เอาไว้ปีหน้าค่อยเริ่มใหม่แบบช้าๆ ทุกครั้งที่มีปัญหาโบจะหันกลับมามองตัวเองว่าเวลาไหนที่เราให้กับมันมากเกินไป มันทำให้เราทุกข์หรือสุข ซึ่งในปีนี้เรารู้แล้วและเตรียมตั้งรับกับปีหน้า"


-ผ่านวิกฤตมาแล้ว อยากจะให้กำลังใจคนที่ยังจมอยู่กับความทุกข์บ้างไหม?

โบ
- "ทุกๆ คนมีปัญหาเป็นของตัวเอง แต่ละเรื่องแตกต่างกันไป กับคนที่มีปัญหาเรื่องครอบครัวมีค่อนข้างเยอะ โบอยากจะบอกว่าไม่มีใครรักเราเท่ากับตัวเราเอง เราต้องทำตัวเราให้มีคุณค่า ควรให้รางวัลกับชีวิตตัวเอง และที่สำคัญ เราควรมองคนรอบๆ ข้างที่เขารักเราโดยเฉพาะคนในครอบครัว รอยยิ้มและกำลังใจเหล่านั้นเป็นพลังที่มหาศาลที่ทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้ ชีวิตคนเราไม่มีอะไรมากหรอก อย่าเพิ่งยอมแพ้ เรายังต้องเรียนรู้ต่อไป"เหมือนอย่างที่ "โบ" กำลังเรียนรู้ และไม่ยอมแพ้

"อชิ"ของ"แม่โบ"

"เห็นลูกโตขึ้นทุกวันๆ เรารู้สึกภูมิใจที่วันนี้เขา 4 ขวบกว่าแล้ว ในวัยของเขาเหมือนเขาเข้าใจเราทุกอย่าง ยอมรับว่าการที่เป็นลูกโบเขาจะไม่ได้เป็นเด็กอื่นที่ค่อยๆ โต ตื่นนอนมา เล่น กินข้าว แต่น้องอชิต้องถูกโบกระเตงไปทุกที่ที่ไปทำงาน บางที่ค่อนข้างเหนื่อย บางที่ค่อนข้างโหดสำหรับเด็กวัยเล็กๆ แต่เขาก็ไม่เคยงอแงทำให้เราต้องเหนื่อยเวลาไปออกงาน รู้สึกว่าเขาสามารถลุยไปกับเราได้ และโบรู้สึกสนุกด้วยซ้ำที่ลูกไปกับเราด้วยในทุกๆ ที่ บางทีถ้าต้องไปไหนแล้วไม่มีน้องอชิไป โบก็จะไม่ไป ไม่รับงานนั้นเลย เป็นเพราะเราไม่อยากห่างลูก"


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์