รักกันทำไมต้องสร้างภาพ!

วันนี้ทุกคนเป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ สบายดีกันหรือเปล่า
 
ส่วน “แซสซี่ เกิร์ล” ไม่ค่อยจะสบายเท่าไหร่ ปิดต้นฉบับไป มึนไป เพราะไม่สบายมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีเวลาไปหาหมอสักที เพราะมัวแต่นั่งนึกประเด็นร้อนประเด็นเด็ดประจำอาทิตย์อยู่จ้า นึกไปนึกมาก็คิดได้ว่า ช่วงนี้มีคู่รักดาราหลาย คู่ที่ถูกคนอื่นเมาท์ว่า เลิกราแยกเตียงกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีเหตุที่ต้องสร้างภาพว่ายังเลิฟกันดีอยู่ โถ ! คุณผู้อ่านคงจะพอนึกออกนะจ๊ะว่ามีคู่ไหนกันบ้าง
 
แหม ! ปากคนก็ช่างพูดไป

ใครหนอจะมาทนอยู่ชายคาเดียวกันทั้งที่ไม่รักกันแล้ว อย่างถ้าเป็น “แซสซี่ เกิร์ล” คงจะไม่ทนอยู่กับคนที่เราหมดรักไปแล้วหรอกจ้า ภาพลักษณ์ไม่สน จะอยู่กันไปไยถ้าใจไม่ผูกติดกัน แต่เราลองไปฟังจากปากคนบันเทิงกันหน่อยดีกว่าว่า เขามองเรื่องนี้อย่างไรบ้าง


เริ่มที่ว่าที่เจ้าสาวคนล่าสุด กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เผยว่า
 
“มีด้วยเหรอที่เขาทำเพื่อสร้างภาพ อันนี้กบก็ไม่รู้เหมือนกันนะ กบอยากบอกว่า ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงไม่จำเป็นต้องทำ แต่ถ้าเป็นดารา มันต้องอยู่กับภาพ กบบอกไม่ได้ว่าความจำเป็นของแต่ละคนมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่ต้องทำ ถ้ามีก็ต้องทำ กบพูดอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าถ้าเขาไม่สร้างภาพจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราไม่รู้ผลกระทบอะไรคน ๆ นั้นหรือเปล่า ถ้าเป็นกบถามว่าจะยอมทำมั้ย อย่างที่กบบอกมันต้องดูว่ามันมีผลอะไรรุนแรงแค่ไหนแล้วแต่ความจำเป็น แต่ถามใจเราจริง ๆ เราก็คงไม่อยากทนทำอะไรแบบนั้น แต่ถ้ามีความจำเป็นเราก็ต้องทำ มันต้องดูว่า ณ เวลานั้นเราเป็นอย่างไร ถึงตอนนั้นถ้าไม่มีความจำเป็นกบก็อาจไม่ทำ แต่ถ้าจะทำก็คงเป็นเพราะว่าเราจำเป็นจริง ๆ”


ฟาก เอมี่ กลิ่นประทุม กล่าวว่า

“ก็คงมีจริงบ้าง บางคนอาจเป็นห่วงความรู้สึกแฟนละครและภาพลักษณ์เลยอาจจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้น เราเองก็ไม่ได้ไปคลุกคลีกับคน ๆ นั้น เราเลยไม่เข้าใจว่าเขาปิดบังเพื่ออะไรหรือบางทีคน ๆ นั้นอาจจะยังทำใจไม่ได้ก็ได้ที่ต้องเลิกรากับคนรัก และเขาอาจจะยังไม่พร้อมที่จะคุยกับใคร เขาก็เลยอาจต้องสร้างภาพไปก่อน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวเอง เอมี่ก็ตอบไม่ได้ว่ามันจะเป็นยังไง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ทำเพียงเพราะต้องสร้างภาพหรอก เพราะเอมี่เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว เราคงปิดบังความจริงไม่ได้ เพียงแต่บางทีเราอาจต้องใช้เวลาเพื่อทำใจก่อนค่ะ”
 
ด้าน เต้-ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ เผยว่า
 
“ผมรู้สึกว่าบางทีการที่เรารักใครสักคน มันต้องเอาตัวเราเองครึ่งนึงต้องเป็นเรา อีกครึ่งต้องเป็นเขาเลยนะ ผมว่าเรื่องสร้างภาพนี่บางทีอาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ เขาอาจเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ได้ แต่ถ้าสร้างภาพกันจริง ๆ

ผมรู้สึกว่า

มันมาผิดทางไปหน่อย จริง ๆ แล้วผมมองว่า ความรักเป็นสิ่งที่ดี ๆ หลายอย่าง เป็นความจริงใจให้กัน แต่คุณกลับใช้ความรักเป็นเหมือนเครื่องมืออย่างหนึ่ง ผมว่าไม่ดีเลยใช้ผิดวิธีมาก ถามว่าถ้าเป็นผมจะยอมทำแบบนั้นมั้ย ไม่เอานะ ผมจริงใจกับความรู้สึกผมมาก ๆ อยู่แล้ว จะเล่นหนังหรือทำอะไร ผมตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ถ้าผมรู้สึกไม่ดีกับอะไรก็จะบอกตรง ๆ เพียงแต่อาจไม่ใช้คำรุนแรง แต่อาจสื่อมาในถ้อยคำที่สุภาพ  ผมขอซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองดีกว่า คงไม่ทนหรอก”


ปิดท้ายด้วย พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช แสดงความเห็นว่า   

  “เรื่องแบบนี้พิ้งกี้คิดว่าก็คงต้องมีบ้าง ไม่งั้นคนก็คงไม่รู้กันหรอก แต่เราก็ไปว่าเขาไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าเขามีความจำเป็นอะไรยังไงบ้าง เราก็ไม่รู้ว่าที่เขาต้องทำอย่างนี้เพราะความเป็นดารา คือถ้าเขาไม่ทำแบบนี้จะกระทบอะไรกับการทำมาหาเลี้ยงชีพเขามั้ย หรือผู้หลักผู้ใหญ่ขอไว้     รึเปล่า พิ้งกี้ก็เข้าใจคนที่อยู่ในสถานภาพแบบนั้นนะ ถามว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับพิ้งกี้จะทำอย่างไร ก็ต้องคิดอีกทีว่ามันสมควรมั้ยเพื่ออะไร ทำไปเราจะมีความสุขมั้ย แต่ถ้าไม่จำเป็นก็คงไม่ทำหรอกค่ะ ไม่อยากหลอกความรู้สึกตัวเอง”.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์