ระบมรัก โบ-ฟลุค จำใจเลิก

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ คู่รัก และ คู่แต่งงาน ของคนในวงการบันเทิงหลายคู่


จะเจอวิกฤต "เตียงหัก" เล่นงานกันระทมทุกข์ไปหลายคู่ แต่คู่ที่โดนไปเต็มๆ เห็นจะเป็น “โบ-ชญาดา มัสยวาณิช” กับ “ฟลุค-เกริกพล” ที่ไม่ยอมถอดลาย “คาสโนว่า” ง่ายๆ ถึงจะมี “น้องอชิ” เป็นโซ่ทองคล้องใจอยู่แล้วทั้งคน ซึ่งก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของคู่ยังคงอึมครึมอยู่ และมีการออกมายืนยันความสัมพันธ์กลบข่าว “รักร้าว” ว่ายังคงสถานะภาพความเป็น “ผัว-เมีย” กันอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้กระแสข่าว “เตียงหัก” ของทั้งคู่ลดลงได้เลยแม้แต่น้อย




เพราะภาพของ ฟลุค ที่ควงทั้งสาวไทยและสาวแหม่มท่องราตรี


มีออกมาให้เห็นจนชินตาอย่างมาก แต่ยังมีชื่อของ “แบม-จณิสตา  ลิ่วเฉลิมวงศ์” เข้ามาพัวพันเขย่า “เสาเตียง” ให้สั่นสะเทือนอยู่หลายรอบ ทั้งที่มีฐานะเป็น “พี่เมีย” แท้ๆ เลยกลายเป็น “ปม” ที่ยังคงชวนให้สงสัยอยู่ จนกระทั่ง “ปม” ที่หลายๆ คนสงสัยคลายลงได้ เมื่อหนุ่ม “ฟลุค” ยอมออกมาเปิดใจยอมรับเป็นครั้งแรกว่า เขาจำต้องปิดฉากรัก “คาสโนว่า” ลง โดยได้แยกบ้านกับ “โบ” คนที่เคยเป็นภรรยาของเขามาถึง 2 ปีเต็มๆ แล้ว

ผมแต่งงานเร็วนะ 25 แต่งแล้ว เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ จะอยู่กันตลอดไป เหมือนในหนังในนิยาย

แต่ว่าเราก็คิดอยู่เสมอว่าเราจะไม่มีทางเลิกกัน แต่ตอนนี้มันเจ็บ เจ็บเป็นปีเลย ภายใน 1 ปีที่ผมไม่พูด ไม่ทำอะไรและไม่ทำงานด้วย ก่อนที่จะมาเล่นละครปีที่แล้ว ทำแต่รายการของตัวเองเพราะมันจำเป็น ผมว่าโบเขามีจุดมุ่งหมายชีวิตที่แตกต่างจากผม ผมก็มีจุดมุ่งหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน คือพอจุดมุ่งหมายของเราต่างกัน ทางเดินย่อมคนละทาง เมื่อมันไปคนละทาง โอกาสที่จะเจอกันได้มันยากครับ ยกเว้นเราจะโชคดีจริง ๆ ที่จะมาเจอกันโดยคลำทางกันถูกอีกทีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้รู้สึกว่าคงอีกหลายปีที่จะรู้สึกอย่างนั้น”

ซึ่งเมื่อถามว่าเป็นเพราะทั้ง “ฟลุค” และ “โบ” ดูใจกันน้อยเกินไปหรือเปล่านั้น เจ้าตัวตอบว่าตรงนี้ตนตอบไม่ได้ แค่คิดว่าคงไม่สามารถรักใครได้แค่นี้เท่านั้นเอง


“ผมตอบไม่ได้จริง ๆ คือ ณ เวลานั้นก็ไม่มีอะไรที่ถูกไปกว่านี้แล้ว ณ เวลานั้นผมไม่เคยคิดว่าผมจะรักใครได้มากเท่านี้ ทุกวันนี้ก็ยังรักเขาที่สุด แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ไม่เคยคิดเลยเพราะถ้าคิดอย่างนี้เราคงไม่แต่งงานใช่ไหม แต่ว่าสุดท้ายมันไม่ไหวจริงๆ เหนื่อยมาก แต่ก็พยายามทำในสิ่งของเราให้ดีที่สุด เขาก็ทำหน้าที่ของแม่ดีที่สุดอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่ผมหวังที่สุด อยากหาภรรยาสักคนมาเป็นแม่ของลูก และผมคงหาไม่ได้ดีเท่านี้อีกแล้ว ในตอนนี้ผมก็เชื่อว่าผมไม่น่าจะเจอแม่ที่ดีเท่านี้




ส่วนเมื่อไหร่จะหย่านั้น คงจนกระทั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเจอคนที่ใช่


ไม่งั้นก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะสามารถรักษาสถานภาพนี้ไว้ได้ เพราะทุกคนก็รู้แล้ว เราก็แค่ประคับประคองครอบครัวให้ลูกของเรา สิ่งสำคัญที่สุดขอให้เขามีความสุขที่สุดก่อน เมื่อถึงเวลาที่ลูกเราแข็งแรงพอ แล้วเราต้องการใครเข้ามาทดแทนตรงนี้ก็คงต้องว่ากันไปอีกที ถ้าถามว่าหวังที่จะกลับมาคืนดีกันอีกครั้งไหมผมหวังอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อยากผิดหวังไง ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงเบรกของชีวิต แต่ถ้าถามว่าอยากไหม อยากอยู่แล้วครับ ไม่อยากต้องหย่ามันแรงมาก เพราะเราไม่เกลียดกันไง เพราะเขาก็รักผม ผมก็รักเขา ผมว่ามันไม่ลงตัวแค่นั้นเอง มันดันทุรังกันไปก็ลำบาก เพราะว่าผมก็พยายามมาถึง 2 ปีแล้วไม่ไหว”

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “น้องอชิ” เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของพ่อ-แม่แค่ไหนนั้น พระเอกหนุ่มกล่าวต่อว่า

ลูกชายเข้าใจดี เพียงแต่ในช่วงแรกอาจมีถามบ้าง น้องอชิเขาเข้าใจตลอด เขาน่ารักมาก เขาถามว่าทำไมปะป๊าไม่กลับมาซะทีล่ะครับอะไรอย่างนี้ ซึ่งลูกเนี่ยเป็นโคตรทองฝังเพชร แต่ว่าตอนนี้สร้อยมันอาจจะใหญ่มาก มันใหญ่หมายถึงมันกว้าง มันยังรัดกันไม่แน่นพอ ก็หวังว่าลูกจะเป็นสร้อยเส้นเล็กลง กับโบหลัง ๆ เราคุยกันดีมาก ผมรู้สึกดีมากเลยแล้วก็เข้าใจกันมาก ดีที่เรามีโอกาสได้คุยกัน เคลียร์กันจนรู้เรื่อง ต้องบอกทุกคนแล้วนะว่ามันเหนื่อยเหลือเกินกับการที่จะต้องปกปิด โกหก ผมเป็นคนที่ไม่เคยโกหกใคร แล้วต้องมานั่งปิดบัง เรื่องปิดบังผมไม่ชอบนะ ผมเป็นคนชอบเปิดเผย”

ก่อนจะปิดท้ายว่าเหมือนยิ่งปกปิดแค่ไหน ความจริงมันยิ่งโผล่ออกมาฟ้องมากขึ้น แต่สนใจเรื่องลูกเท่านั้นพอ


“ใช่จริง ๆ ผมไม่ได้มายด์เลยนะว่าคนจะมองผมเป็นคาสโนว่า หรืออะไรก็ตาม ผมมายด์เรื่องลูกอย่างเดียว ผมไม่ได้มองว่าคนจะมาว่า ฟลุค เกริกพล แต่ผมกลัวว่าคนจะมาว่าพ่อของน้องอชิ ผมไม่อยากให้เป็นพ่อที่ไม่ดีของลูก ดังนั้นผมอยากให้ทราบว่าผมเป็นพ่อที่ดีของลูกนะครับ ผมเป็นสามีที่ดีมาตลอด” ฟลุคกล่าว



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี ดาราเดลี่


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์