รถเมล์-คะนึงนิจ @ ชีวจิตบำบัด

รถเมล์-คะนึงนิจ ผลพลอยได้จากศิลปะบำบัด

ถ้าใครไม่เชื่อพลังศิลปะที่มีผลต่อจิตใจคนเราแล้วล่ะก็ ทำไมวันนี้---เพียงแค่เห็นคุณรถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ สาวน้อยหน้าใสวัย 19 ปี นักแสดงดาวรุ่งที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง วัยอลวน 4 ตั้ม-โอ๋รีเทิร์น เดินโฉบเข้ามาทักทายทีมงานปกชีวจิตพร้อมรอยยิ้มหวาน และชุดกระโปรงลายดอกไม้น่ารักๆ มีเครื่องประดับกระจุ๋มกระจิ๋มบนตัวเพียงไม่กี่ชิ้น ถึงได้ทำให้เรารู้สึกสดชื่นไปกับความเก๋ไก๋ของศิลปะประยุกต์บนเรือนร่างเธอด้วยล่ะ

ศิลปะบำบัดกับรถเมล์

จากความสนใจส่วนตัวด้านเครื่องประดับ ที่เธอบอกว่าเวลาไปเดินตามแหล่งจำหน่ายสินค้าต่างๆ มักจะได้ต่างหู สร้อยคอ แหวน กำไล ลายกิ๊บเก๋ติดมือกลับบ้านมาด้วยทุกครั้ง หลงใหลถึงขนาดกลับมานั่งออกแบบลายที่ชอบเก็บไว้ดูเล่นเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งพี่ชายและพี่สาวก็มีความรู้เรื่องศิลปะ ยิ่งทำให้เธอมีความชัดเจนในเส้นทางศิลปิน เธอมุ่งมั่นจนสามารถสอบเข้าคณะศิลปศาสตร์ สาขาออกแบบเครื่องประดับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ด้วยหวังว่าวันหนึ่งอยากเป็นคนเล็กๆ ที่มีส่วนช่วยมอบความสุขให้คนอื่นๆ ผ่านงานศิลปะที่เธอรัก เช่นเดียวกับที่เธอได้รับค่ะ

"ช่วยปรับอารมณ์ให้ใจเย็นลง"

ผ่อนคลาย : ตอนเด็กๆชอบประดิษฐ์ประดอยของกระจุกกระจิก จนขึ้นชั้นม.5เริ่มสนใจเครื่องประดับ วาดเอง ออกแบบเอง สนุกที่ได้ถ่ายทอดจินตนาการออกมา ซึ่งสิ่งที่เป็นผลพลอยได้มากๆคือความผ่อนคลาย เคยสังเกตตัวเองหลายครั้งแล้ว เวลาเครียดด้วยเรื่องอะไรก็ตาม แค่ได้มานั่งผสมสี จับพู่กันวาดรูป ระบายสี สักพักจะรู้สึกปลอดโปร่ง ลืมทุกอย่างรอบตัว และนั่งทำอย่างนั้นอยู่ได้เป็นวันๆ

ใจเย็น : ปกติเป็นคนใจร้อนมาก ชอบทำอะไรเร็วๆลวกๆ และผลก็ออกมาไม่ดี แต่หลังจากได้เรียนศิลปะ โดยเฉพาะการวาดรูปสีน้ำจะช่วยสอนให้ใจเย็นขึ้นมาก เพราะถ้าใจร้อนภาพจะเสียทันที สีจะกลืนกันหมด หลังๆกลัวงานออกมาไม่ดี จะพยายามตั้งใจ ผลคือช่วยให้เป็นคนใจเย็นมากขึ้น

เท่าทันอารมณ์ : บางครั้งศิลปะสอนให้รถเมล์ได้ฝึกสำรวจอารมณ์ตัวเอง เช่น วันไหนอารมณ์ไม่ดีมา แล้วต้องเข้าห้องเรียนวาดรูป เส้นจะออกมาดูแข็งๆ เพราะน้ำหนักที่กดลงไปนั้นแรง แต่ถ้าวาดรูปตอนอารมณ์ดีๆ เวลาลากเส้นตัดกันจะดูพลิ้ว เบา และสวย ซึ่งการวาดรูปโดยเฉพาะการออกแบบจิวเวอรี่นั้น การลงน้ำหนักมือต้องเบา เพราะรายละเอียดเยอะมาก ที่สำคัญ รถเมล์คิดว่าศิลปะช่วยสร้างความสมดุลในชีวิต ดึงจิตใจที่ฟุ้งซ่านให้กลับมาอยู่ในที่ที่ควรอยู่ค่ะ

"ทำให้เรามองอะไรละเอียดรอบคอบมากขึ้น"

ฝึกกระบวนการทางความคิด : ศิลปะสอนให้รถเมล์มองอะไรกว้าง และละเอียดรอบคอบมากขึ้น เวลาเรียนครูจะสอนให้ตีความหมายของภาพ และวิเคราะห์ออกมาให้ได้ว่าภาพนั้นๆต้องการสื่อสารอะไรกับเรา ซึ่งศิลปะช่วยฝึกให้เป็นคนช่างสังเกต เหมือนกับเวลาที่เราอยู่ร่วมกับคนอื่น ก็ต้องสังเกตอารมณ์ท่าทางของเขาด้วยว่า อยู่ในอารมณ์แบบไหน

เชื่อมสัมพันธ์ : พี่ชายและพี่สาวของรถเมล์ก็เรียนศิลปะค่ะ ชอบเข้าไปถามเวลาเขาวาดรูปกัน เขาก็จะพยายามอธิบายให้ฟังด้วยความใจเย็น ยิ่งทำให้เราสนิทกันมากขึ้น หรือเวลาที่รถเมล์จะวาดรูปสีน้ำ คุณแม่จะช่วยเตรียมน้ำ จานสี และผ้าให้ หลังจากวาดเสร็จแล้วรถเมล์จะเอาไปอวด ให้ท่านช่วยวิจารณ์ เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวไปในตัวด้วย รถเมล์คิดว่าการอยู่ร่วมกับคนอื่นก็เหมือนการผสมสี ลงเส้น และลงสี ถ้ามากไป หรือน้อยไป ภาพก็ออกมาไม่ลงตัว ไม่สวย นำไปขายก็ไม่มีใครอยากซื้อ นำไปโชว์ก็ไม่มีใครสนใจดู การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนก็เหมือนกัน วางตัวแต่พอดีจะทำให้อยู่ร่วมกับคนอื่นได้นาน

ลดอัตตา : ศิลปะสอนให้คนไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เพราะถ้าเรายึดตัวเองเป็นหลัก เราก็จะมีความคิดด้านเดียว ยึดมั่นอยู่กับสิ่งที่ตัวเองคิดและเห็น ความคิดเห็นคนอื่นก็ไม่มีความหมาย การสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ก็จะน้อยลง

แหล่งข้อมูล : บอร์ดบันเทิงซุบซิบ