มาขึ้นศาลคดีตีเมีย โดโด้พิลึก โกนหัว-นั่งสมาธิ

พระเอก"โดโด้"-ยุทธพิชัย ชาญเลขา ทำพิลึก โกนหัวโล้นนุ่งขาวห่มขาว เดินทางไปขึ้นศาล คดีตกเป็นจำเลยทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา "ลูกตาล-จริญญา หาญณรงค์" มาถึงไม่พูดพล่ามทำเพลง ลงนั่งสมาธิในตึกศาลหน้าตาเฉย พอถึงเวลานัดจึงขึ้นไปที่ห้องพิจารณา พอเสร็จคดีออกจากห้องมาเจอนักข่าว พระเอกดังก็ทำพิลึกออกมาอีก ถึงกับวิ่งหนีกระเจิงข้ามถนนไปจนรถเบรกตัวโก่ง โดดซ้อนท้ายจยย.รับจ้างเผ่นหนีไปดื้อๆ เผยฝ่ายโจทก์ดีกรีอดีตรองนางสาวไทยขอถอนคดีถูกทำให้เสียทรัพย์ แต่ขอเดินหน้าคดีทำร้ายร่างกายเหมือนเดิม ทางด้านน้องสาวโดโด้ "แอม-วรรณเลขา" เผยช่วงหลังพี่ออกแนวธรรมะธัมโม ชอบไปวัดที่กาญจน์ สอนธรรมะให้ชาวบ้านด้วย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ต.ค. ศาลจังหวัดปทุมธานีได้นัดพร้อม คดีที่ "โดโด้"ยุทธพิชัย ชาญเลขา พระเอกชื่อดัง เป็นจำเลยข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ ต่อนางจริญญา หรือลูกตาล หาญณรงค์ อดีตรองนางสาวไทย และเป็นอดีตภรรยาของจำเลย ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนี้ เมื่อถึงเวลานัดนางจริญญา หรือลูกตาล พร้อมทนายความและญาติๆ ได้เข้าไปรอในห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ที่ 5 ก่อน

ต่อมาโดโด้เดินทางมาถึงห้องพิจารณาคดีคนเดียว โกนศีรษะจนล้านเลี่ยนเหมือนเพิ่งไปบวชและสึกออกมาใหม่ๆ นอกจากนี้เครื่องแต่งกายยังเป็นกางเกงขายาวสีขาว เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว เมื่อมาถึงก็ลงนั่งสมาธิอยู่บริเวณที่พักรอญาติเพื่อประกันตัว โดยตอนแรกไม่มีใครทราบว่าเป็นโดโด้ พระเอกคนดัง จนกระทั่งเวลา 10.20 น. โดโด้ได้รับโทรศัพท์ จึงรีบเดินขึ้นศาลไปยังห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ 5 ที่ชั้น 2



เหตุจากรูปในมือถือ ก่อนโมโหโชว์ศิลปะป้องกันตัว


นายสุธี ปิ่นนิกร ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปทุมธานี บรรยายว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 48 เวลากลางวัน ที่บริเวณหน้าบ้านของนายยุทธพิชัย ชาญเลขา หมู่บ้านมณีรินทร์ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ขณะที่นางจริญญา หาญณรงค์ โจทก์ ได้แย่งโทรศัพท์มือถือของจำเลยด้วยความหึงหวง เนื่องจากจำเลยได้ถ่ายภาพของหญิงอื่นไว้ในมือถือ จากนั้นโจทก์ก็เดินขึ้นไปนั่งบนรถบีเอ็มดับเบิลยู หมายเลขทะเบียน ษห-909 กทม. ซึ่งเป็นของโจทก์ จำเลยโมโหได้ใช้โทรศัพท์มือถือทุบกระจกรถด้านซ้ายข้างหน้าแตก 1 บาน คิดเป็นมูลค่า 15,000 บาท และเศษกระจกกระเด็นใส่โจทก์ ทำให้เกิดบาดแผลที่ปาก และโทรศัพท์มือถือแตก

หลังเกิดเหตุ นางจริญญาได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี พนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องให้อัยการฟ้อง นายยุทธพิชัย ชาญเลขา คดีอาญาที่ 1473/48 ในข้อหาทำร้ายร่างกายให้เกิดอันตราย

นายสุธี ปิ่นนิกร ได้เรียกทนายฝ่ายโจทก์ร่วมและทนายฝ่ายจำเลยถามคดีความ โดยทนายฝ่ายโจทก์ร่วมแถลงต่อศาลว่าคดีทำให้เสียทรัพย์ 15,000 บาทไม่ติดใจเอาความ และขอถอนคดีนี้ออกไป ให้ดำเนินคดีทำร้ายร่างกายเพียงคดีเดียว

ส่วนทนายฝ่ายจำเลยได้แถลงศาลขอถอนคำให้การปฏิเสธชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการ โดยจำเลยขอให้การรับสารภาพชั้นศาลเรื่องคดีทำร้ายร่างกาย ศาลได้อ่านคำแถลงศาลว่า คณะองค์ประชุมได้เลื่อนการตัดสินคดีนี้ออกไปอีก 1 เดือน โดยได้นัดหมายให้คู่กรณีมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 7 พ.ย. 2548 เวลา 09.00 น.ที่บัลลังก์ 5 และให้เจ้าพนักงานคุมประพฤติสืบเสาะพฤติกรรมจำเลย โดยรายงานให้ศาลทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2548 เป็นต้นไป

หลังจากที่ศาลได้อ่านคำแถลงเสร็จ โดโด้ได้ออกจากห้องพิจารณาคดี พอเจอกลุ่มนักข่าวรออยู่ ปรากฏว่าโดโด้เกิดอาการตกใจ ถึงกับวิ่งลงจากศาลด้วยอาการตื่นตระหนก ไปยังหน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี จากนั้นก็วิ่งข้ามถนนโดยไม่สนใจรถที่วิ่งไปมาจนรถต้องเบรกกะทันหัน เสียงล้อบนถนนดังเอี๊ยดสนั่น แต่โดโด้ก็วิ่งต่อไป แล้วเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างหน้าห้างเทสโก้โลตัส ปทุมธานี ซ้อนท้ายจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีเข้าไปในตัวเมืองปทุมธานี



ลูกตาลอดีตภรรยาเผยตกใจเช่นกัน


นางจริญญา หรือลูกตาล กล่าวว่า ครั้งแรกที่เห็นพี่เขามาแปลกมากก็ยังงงๆ อยู่ ทำไมถึงโกนหัวและสวมใส่ชุดขาว ซึ่งก็ดูไม่ออก เนื่องจากเขาเป็นนักแสดง จากการที่สังเกตดูสีหน้าของพี่เขาก็ปกติเงียบขรึม แต่ก็ไม่ได้พูดจาอะไรกัน

คดีนี้ไม่อยากที่จะติดใจเอาความอะไร ซึ่งตนเองก็อยู่กับลูกๆ เลี้ยงดูและให้ความอบอุ่นให้มากที่สุดตามหน้าที่ของผู้ที่เป็นแม่ ประกอบกับขณะนี้กำลังดำเนินการธุรกิจส่วนตัวเพื่อไว้เลี้ยงครอบครัวในอนาคต ก็ขอขอบคุณพี่ๆ ที่ให้ความสนใจในคดีนี้



โดโด้หนีหน้า ใช้ระบบโอนสายเข้าน้องสาว แอมวรณเลขาแทน


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปหาโดโด้เพื่อสอบถามเรื่องราว แต่สายถูกสลับไปเข้าเครื่องของแอม-วรรณเลขา ชาญเลขา นักแสดงสาวซึ่งเป็นน้องสาวโดโด้แทน

แอมกล่าวว่า เมื่อตอนเช้ายังได้คุยทางโทรศัพท์กับพี่โด้อยู่เลย แต่เป็นการพูดคุยเรื่องทั่วไป ไม่ได้พูดถึงเรื่องการไปขึ้นศาลอะไรเลย

ส่วนที่พี่เขาโกนหัว นุ่งขาว ห่มขาว เท่าที่ทราบก็คือพี่เขาไปช่วยวัดที่กาญจนบุรี สอนธรรมะกับชาวบ้านและช่วยงานอื่นๆ ภายในวัด จะเป็นการไปๆ มาๆ ระหว่างวัดกับกทม. แต่ไม่รู้รายละเอียดมากไปกว่านี้ หลังจากที่เกิดข่าวขึ้นก็มีพี่สื่อมวลชนหลายคนโทร.มาสอบถาม ตนก็พยายามที่จะติดต่อหาพี่โด้ แต่ติดต่อไม่ได้เลยเพราะพี่โด้ปิดเครื่อง ซึ่งถ้าเขาปิดเครื่องสัญญาณการเรียกเข้าก็จะมาที่เครื่องของตน



ด้านนางจริญญา หาญณรงค์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า

ตอนที่เกิดเรื่องตนไม่ได้รู้อะไรเลยเพราะว่ายังอยู่ในศาลกำลังเซ็นเอกสารอยู่ พอดีว่ามีพี่นักข่าวคนหนึ่งมาบอกว่าพี่โด้เขาหนีนักข่าว วิ่งแบบเป็นจริงเป็นจังอย่างกับนักกีฬาวิ่งแข่งร้อยเมตร ไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์หนีไปเลย ตนก็ตกใจ เพราะเป็นห่วงกลัววิ่งข้ามถนนรถจะชนเอา

ได้ฟังแล้วสงสารไม่รู้ว่าอะไรทำให้ต้องวิ่งหนีแบบนั้น ทั้งบัตรประชาชนที่ต้องแลกก่อนเข้าศาล ทั้งรถที่ขับมาก็ยังอยู่ที่ศาลเลย ตอนที่เจอกันในศาลเขาเองก็ไม่ยอมที่จะมองหน้าตนเลย ตนก็เป็นห่วงเนื่องจากที่ผ่านมาก็เคยมีความรู้สึกดีๆ กัน

ครั้งนี้ตนก็ไม่ได้คิดถึงขนาดที่จะเอาเขาเข้าคุก เพียงแต่ไม่อยากจะให้อะไรเกิดขึ้นกับตนอีก เพราะตนต้องดูแลลูก ถ้าตนเป็นอะไรไปลูกจะทำอย่างไร ก็อยากจะให้เขาดูแลตัวเอง อยากจะคุยกับเขา อยากจะถามเขา ถ้าไม่ได้คุยกับเขาก็คุยกับคนใกล้ชิดเขาก็ได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ส่วนเรื่องโกนหัวก็เห็นว่าไปบวชมาที่วัดที่กาญจนบุรี แต่รายละเอียดไม่ทราบ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์